คุณกำลังมองหาอะไร?

ข่า

ข่าวแจก "กรมอนามัยจัดทีมลงพื้นที่ กทม. เติมความรู้ประชาชน แนะ 5 ทางรอดปลอดโรคควบ รื้อ...ล้าง...หลังน้ำลด"

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

25.11.2554
0
0
แชร์
25
พฤศจิกายน
2554

ข่าวแจก "กรมอนามัยจัดทีมลงพื้นที่ กทม. เติมความรู้ประชาชน แนะ 5 ทางรอดปลอดโรคควบ รื้อ...ล้าง...หลังน้ำลด"

              กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดทีมลงพื้นที่กรุงเทพมหานครให้ความรู้แก่ประชาชนในการดูแลสุขภาพ พร้อมแนะ 5ทางรอดปลอดโรค ควบคู่กับการแจกคู่มือ รื้อ ล้าง หลังน้ำลด?เพื่อให้เข้าใจวิธีการทำความสะอาดบ้านเรือนหลังน้ำลดตามหลักสุขาภิบาล
            ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงการจัดทีมลงพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อเร่งสร้างความรู้แก่ประชาชนในการดูแลสุขภาพตนเองทั้งในพื้นที่น้ำท่วมขังและน้ำลด ว่า แม้ว่าขณะนี้หลาย ๆ พื้นที่ที่ประสบอุทกภัยในเขตกรุงเทพมหานครกำลังกลับคืนสู่สภาวะปกติ แต่ก็มีอีกหลายพื้นที่ที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง สิ่งที่กรมอนามัยต้องเร่งดำเนินการในขณะนี้คือ การจัดทีมนักวิชาการกระจายลงพื้นที่ให้ความรู้แก่ประชาชนในการดูแลสุขภาพตนเองให้ปลอดภัยปลอดโรคอย่างต่อเนื่อง โดยการลงพื้นที่แต่ละครั้ง กรมอนามัยได้นำสิ่งของที่จำเป็นไปแจกจ่ายให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ รวมทั้งคู่มือประชาชนฉบับพกพาและคู่มือรื้อ ล้าง หลังน้ำลด ซึ่งเน้นข้อปฏิบัติตนให้ปลอดภัยในช่วงน้ำท่วมและหลังน้ำลด พร้อมแนะ 5 ทางรอดปลอดโรค ประกอบด้วย 1) อย่าทิ้งขยะ อุจจาระ เศษอาหารลงในน้ำ ให้ใส่ถุงดำ มัดปากถุงให้แน่น 2) อย่าเล่นน้ำเน่าขัง เชื้อโรคอาจเข้าตา ปาก จมูก และบาดแผล อันตรายถึงตาย หากสัมผัสน้ำเน่าเสียต้องล้างด้วยสบู่และน้ำสะอาด 3) กินอาหารปรุงสุกใหม่ ดื่มน้ำสะอาด 4) หลังน้ำลด ล้างบ้านเรือน ห้องสุขา ภาชนะอุปกรณ์ต่าง ๆ และ 5) ช่วยกันล้างตลาด ประปาชุมชนและสถานที่สาธารณะตามหลักสุขาภิบาล เพื่อป้องกันโรคบิด อหิวาตกโรค ไทฟอยด์ ท้องร่วง ตาแดง โรคฉี่หนู แผลเน่า สมองอักเสบ เป็นต้น 
             ดร.นพ.สมยศ กล่าวต่อไปว่า เมื่อสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกตินั้น สิ่งสำคัญ ที่ประชาชนจะต้องคำนึงถึงคือ การทำความสะอาดบ้านเรือนและการดูแลสภาพแวดล้อมในบริเวณบ้านและชุมชน เพราะน้ำท่วมจะพัดพาสิ่งสกปรกมากจากทุกสารทิศ ทั้งโคลนตม ขยะมูลฝอย วัสดุ สิ่งของต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดการหมักหมม ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการระบาดของโรคได้ เพื่อสุขอนามัยของที่ดีจึงต้องมีการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและ ที่พักอาศัยให้สะอาดปลอดภัยจากเชื้อโรคและสัตว์มีพิษ รวมถึงอุบัติเหตุ ด้วยการปรับปรุงที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อม ซึ่งประชาชนสามารถศึกษาจากคู่มือที่ได้รับจากกรมอนามัย โดยให้ยึดถือปฏิบัติตามขั้นตอนต่าง ๆ อาทิ 1) ตรวจดูระบบไฟฟ้า ต้องไม่เปียกชื้นและพร้อมใช้งาน หากชำรุดจนไม่สามารถแก้ไขได้ให้เปลี่ยนใหม่เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ 2) สำรวจตรวจสอบความเสียหายของตัวบ้านและบริเวณบ้านเรือน 3) เตรียมการก่อนล้าง โดยจัดเตรียมอุปกรณ์ ถุงดำ แปรงถูพื้น สำหรับเก็บกวาดทำความสะอาด คัดแยกเศษวัสดุและขยะประเภทต่าง ๆ ใส่ถุงดำเพื่อรอนำไปกำจัด และให้ระวังสัตว์มีพิษ เช่น ตะขาบ งู ขณะทำความสะอาดบ้านเรือน
            4) ลงมือล้างทำความสะอาด ซึ่งควรทำทันทีหลังน้ำลดจะช่วยให้ขัดคราบสกปรกได้ง่าย โดยใช้ผงซักฟอกผสมน้ำราดในบริเวณที่จะทำความสะอาด ใช้แปรงขัดถูคราบสกปรกออกให้หมดหรือออกให้ได้มากที่สุด และอาจใช้ น้ำหมักชีวภาพหรืออีเอ็มช่วยกำจัดคราบสกปรกและกลิ่นเหม็น 5) ดูแล ปรับปรุงห้องครัว ภาชนะอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น จาน ชาม เขียง หม้อ ชั้นวางของ ตู้กับข้าว ต้องดูว่าใช้การได้หรือไม่ หากยังอยู่ในสภาพใช้งานได้ให้นำมาขัด ล้างทำความสะอาด ตากแดดให้แห้งก่อนเก็บ หากเขียงเป็นราแม้เช็ดล้างแล้วยังมีเชื้อราติดอยู่ ต้องทิ้ง เพื่อป้องกันเชื้อราปนเปื้อนในอาหาร และ 6)ดูแล ปรับปรุงห้องส้วม ซึ่งการทำความสะอาดห้องส้วมทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่ทำได้ ง่ายที่สุดคือ ให้ชำระล้างทำความสะอาดให้ทั่วถึงทั้งบริเวณพื้น ฝาผนังห้องส้วม โถส้วมและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในห้องส้วม โดยใช้น้ำผสมผงซักฟอกหรือน้ำยาทำความสะอาดขัด ล้างและเช็ดวัสดุอุปกรณ์ให้สะอาด ในกรณีที่ส้วมเต็มหรือ อุดตัน ให้ใช้น้ำหมักชีวภาพเทราดลงในคอห่านหรือโถส้วม เพื่อย่อยสลายสารอินทรีย์และสิ่งปฏิกูลทำให้กลิ่นและแก๊ส ที่เกิดจากการหมักในบ่อเกรอะลดลง?
            ดร.นพ.สมยศ กล่าว อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า สุขอนามัยส่วนบุคคลนับเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในขณะล้างทำความสะอาดบ้านเรือน โดยผู้ล้างควรสวมหน้ากากอนามัยหรือผ้าปิดจมูก เพื่อลดการสูดดมกลิ่นขยะที่หมักหมม หรือสารเคมีที่อาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ และควรสวมถุงมือทุกครั้งเมื่อล้างทำความสะอาดห้องส้วม ห้องครัว เพื่อลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนเชื้อโรคที่สะสมหลังน้ำลดโดยผ่านทางมือเมื่อมีการสัมผัสอาหารหรือสัมผัสกับผิวหนัง และหมั่นล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้งหลังทำความสะอาดบ้านเรือน เพื่อลดการแพร่กระจายของโรค กลุ่มสื่อสารองค์กร / 23 พฤศจิกายน 2554
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดทีมลงพื้นที่กรุงเทพมหานครให้ความรู้แก่ประชาชนในการดูแลสุขภาพ พร้อมแนะ 5ทางรอดปลอดโรค ควบคู่กับการแจกคู่มือ \\รื้อ ล้าง หลังน้ำลดเพื่อให้เข้าใจวิธีการทำความสะอาดบ้านเรือนหลังน้ำลดตามหลักสุขาภิบาล ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงการจัดทีมลงพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อเร่งสร้างความรู้แก่ประชาชนในการดูแลสุขภาพตนเองทั้งในพื้นที่น้ำท่วมขังและน้ำลด ว่า แม้ว่าขณะนี้หลาย ๆ พื้นที่ที่ประสบอุทกภัยในเขตกรุงเทพมหานครกำลังกลับคืนสู่สภาวะปกติ แต่ก็มีอีกหลายพื้นที่ที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง สิ่งที่กรมอนามัยต้องเร่งดำเนินการในขณะนี้คือ การจัดทีมนักวิชาการกระจายลงพื้นที่ให้ความรู้แก่ประชาชนในการดูแลสุขภาพตนเองให้ปลอดภัยปลอดโรคอย่างต่อเนื่อง โดยการลงพื้นที่แต่ละครั้ง กรมอนามัยได้นำสิ่งของที่จำเป็นไปแจกจ่ายให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ รวมทั้งคู่มือประชาชนฉบับพกพาและคู่มือรื้อ ล้าง หลังน้ำลด ซึ่งเน้นข้อปฏิบัติตนให้ปลอดภัยในช่วงน้ำท่วมและหลังน้ำลด พร้อมแนะ 5 ทางรอดปลอดโรค ประกอบด้วย 1) อย่าทิ้งขยะ อุจจาระ เศษอาหารลงในน้ำ ให้ใส่ถุงดำ มัดปากถุงให้แน่น 2) อย่าเล่นน้ำเน่าขัง เชื้อโรคอาจเข้าตา ปาก จมูก และบาดแผล อันตรายถึงตาย หากสัมผัสน้ำเน่าเสียต้องล้างด้วยสบู่และน้ำสะอาด 3) กินอาหารปรุงสุกใหม่ ดื่มน้ำสะอาด 4) หลังน้ำลด ล้างบ้านเรือน ห้องสุขา ภาชนะอุปกรณ์ต่าง ๆ และ 5) ช่วยกันล้างตลาด ประปาชุมชนและสถานที่สาธารณะตามหลักสุขาภิบาล เพื่อป้องกันโรคบิด อหิวาตกโรค ไทฟอยด์ ท้องร่วง ตาแดง โรคฉี่หนู แผลเน่า สมองอักเสบ เป็นต้น ดร.นพ.สมยศ กล่าวต่อไปว่า เมื่อสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกตินั้น สิ่งสำคัญ ที่ประชาชนจะต้องคำนึงถึงคือ การทำความสะอาดบ้านเรือนและการดูแลสภาพแวดล้อมในบริเวณบ้านและชุมชน เพราะน้ำท่วมจะพัดพาสิ่งสกปรกมากจากทุกสารทิศ ทั้งโคลนตม ขยะมูลฝอย วัสดุ สิ่งของต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดการหมักหมม ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการระบาดของโรคได้ เพื่อสุขอนามัยของที่ดีจึงต้องมีการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและ ที่พักอาศัยให้สะอาดปลอดภัยจากเชื้อโรคและสัตว์มีพิษ รวมถึงอุบัติเหตุ ด้วยการปรับปรุงที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อม ซึ่งประชาชนสามารถศึกษาจากคู่มือที่ได้รับจากกรมอนามัย โดยให้ยึดถือปฏิบัติตามขั้นตอนต่าง ๆ อาทิ 1) ตรวจดูระบบไฟฟ้า ต้องไม่เปียกชื้นและพร้อมใช้งาน หากชำรุดจนไม่สามารถแก้ไขได้ให้เปลี่ยนใหม่เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ 2) สำรวจตรวจสอบความเสียหายของตัวบ้านและบริเวณบ้านเรือน 3) เตรียมการก่อนล้าง โดยจัดเตรียมอุปกรณ์ ถุงดำ แปรงถูพื้น สำหรับเก็บกวาดทำความสะอาด คัดแยกเศษวัสดุและขยะประเภทต่าง ๆ ใส่ถุงดำเพื่อรอนำไปกำจัด และให้ระวังสัตว์มีพิษ เช่น ตะขาบ งู ขณะทำความสะอาดบ้านเรือน \\4) ลงมือล้างทำความสะอาด ซึ่งควรทำทันทีหลังน้ำลดจะช่วยให้ขัดคราบสกปรกได้ง่าย โดยใช้ผงซักฟอกผสมน้ำราดในบริเวณที่จะทำความสะอาด ใช้แปรงขัดถูคราบสกปรกออกให้หมดหรือออกให้ได้มากที่สุด และอาจใช้ น้ำหมักชีวภาพหรืออีเอ็มช่วยกำจัดคราบสกปรกและกลิ่นเหม็น 5) ดูแล ปรับปรุงห้องครัว ภาชนะอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น จาน ชาม เขียง หม้อ ชั้นวางของ ตู้กับข้าว ต้องดูว่าใช้การได้หรือไม่ หากยังอยู่ในสภาพใช้งานได้ให้นำมาขัด ล้างทำความสะอาด ตากแดดให้แห้งก่อนเก็บ หากเขียงเป็นราแม้เช็ดล้างแล้วยังมีเชื้อราติดอยู่ ต้องทิ้ง เพื่อป้องกันเชื้อราปนเปื้อนในอาหาร และ 6)ดูแล ปรับปรุงห้องส้วม ซึ่งการทำความสะอาดห้องส้วมทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่ทำได้ ง่ายที่สุดคือ ให้ชำระล้างทำความสะอาดให้ทั่วถึงทั้งบริเวณพื้น ฝาผนังห้องส้วม โถส้วมและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในห้องส้วม โดยใช้น้ำผสมผงซักฟอกหรือน้ำยาทำความสะอาดขัด ล้างและเช็ดวัสดุอุปกรณ์ให้สะอาด ในกรณีที่ส้วมเต็มหรือ อุดตัน ให้ใช้น้ำหมักชีวภาพเทราดลงในคอห่านหรือโถส้วม เพื่อย่อยสลายสารอินทรีย์และสิ่งปฏิกูลทำให้กลิ่นและแก๊ส ที่เกิดจากการหมักในบ่อเกรอะลดลง ดร.นพ.สมยศ กล่าว อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า สุขอนามัยส่วนบุคคลนับเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในขณะล้างทำความสะอาดบ้านเรือน โดยผู้ล้างควรสวมหน้ากากอนามัยหรือผ้าปิดจมูก เพื่อลดการสูดดมกลิ่นขยะที่หมักหมม หรือสารเคมีที่อาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ และควรสวมถุงมือทุกครั้งเมื่อล้างทำความสะอาดห้องส้วม ห้องครัว เพื่อลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนเชื้อโรคที่สะสมหลังน้ำลดโดยผ่านทางมือเมื่อมีการสัมผัสอาหารหรือสัมผัสกับผิวหนัง และหมั่นล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้งหลังทำความสะอาดบ้านเรือน เพื่อลดการแพร่กระจายของโรค กลุ่มสื่อสารองค์กร / 23 พฤศจิกายน 2554

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน