ข่า
วแจก "สธ. เผยตลาดสดจมน้ำ 74 แห่ง ลุยล้างหลังน้ำลด เน้น 3 จุดหลัก เขียง แผง พื้น "
กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
18
พฤศจิกายน
2554
ข่าวแจก "สธ. เผยตลาดสดจมน้ำ 74 แห่ง ลุยล้างหลังน้ำลด เน้น 3 จุดหลัก เขียง แผง พื้น "
กระทรวงสาธารณสุข จัดงาน Big Cleaning Day ลงพื้นที่ล้างตลาดสดตามหลักสุขาภิบาล เน้น 3 จุดสำคัญ เขียง แผง พื้น? เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ซึ่งข้อมูลล่าสุดมีตลาดสดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวน 74 แห่ง พร้อมเตรียมประสานข้อมูล กทม. เพื่อเข้าดำเนินการล้างตลาดต่อไป
วันนี้ (18 พฤศจิกายน 2554) นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยในการเป็นประธานเปิดงาน เมืองน่าอยู่? Big Cleaning Day ตลาดประชุมทรัพย์ (ท่าโขลง) ตำบลเขาสมอคอน อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นนอกจากจะส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนของประชาชนให้เกิดความเสียหายแล้ว สถานที่สาธารณะก็ได้รับความเสียหายด้วยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะตลาดสดซึ่งเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยสินค้าทั้งของสดและของแห้งสำหรับประชาชน ตลาดสดจึงเป็นสถานที่สาธารณะลำดับต้น ๆ ที่ต้องเร่งฟื้นฟูโดยล้างทำความสะอาดเพื่อไม่ให้กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
นายต่อพงษ์ กล่าวต่อไปว่า จากการข้อมูลการสำรวจของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ล่าสุดพบว่า มีตลาดสดที่ผ่านเกณฑ์ตลาดสดน่าซื้อของกรมอนามัยถูกน้ำท่วมในพื้นที่ 13 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 74 แห่ง ในจำนวนนี้มีตลาดที่ยังคงถูกน้ำท่วมจำนวน 51 แห่ง และกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วจำนวน 23 แห่ง กระทรวงสาธารณสุขโดย กรมอนามัยจึงได้ร่วมมือกับพื้นที่เร่งฟื้นฟูโดยการล้างตลาดตามหลักการสุขาภิบาลจำนวน 18 แห่ง และจะเร่งดำเนินการให้ครบถ้วนทุกพื้นที่หลังน้ำลด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่ต้องการจับจ่ายสินค้าภายในตลาด และสำหรับตลาดสดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างการประสานข้อมูลกับกรุงเทพมหานครเพื่อเข้าฟื้นฟูในพื้นที่ตลาดสดต่อไป
ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า การล้างตลาดผู้ประกอบการควรคำนึงถึง 3 จุดหลักสำคัญ ได้แก่ พื้น เขียง แผง เพราะเป็นจุดที่สัมผัสกับอาหารมากที่สุด จึงเป็นเส้นทางผ่านเชื้อโรคให้เข้าสู่ร่างกายได้ ซึ่งการ ล้างตลาดที่ถูกหลักสุขาภิบาลมี 2 ขั้นตอนสำคัญคือ ขั้นที่ 1 การล้างด้วยน้ำและผงซักฟอกเพื่อกำจัดคราบสกปรก แล้วฆ่าเชื้อด้วยคลอรีนบริเวณบนแผงหรือพื้นทางเดิน แต่หากมีคราบไขมันจับให้ใช้น้ำผสมโซดาไฟราดลงบนพื้นหรือแผง ทิ้งไว้นาน 15-30 นาที และใช้แปรงลวดถูเพื่อช่วยในการขจัดคราบไขมัน และขั้นที่ 2 การฆ่าเชื้อโรคโดยใช้น้ำผสมผงปูนคลอรีนใส่ลงในฝักบัวรดน้ำและรดบริเวณแผง เขียง ทางเดิน ทางระบายน้ำเสียให้ทั่ว จากนั้นปล่อยทิ้งไว้เพื่อให้คลอรีนฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่น ส่วนบริเวณที่มีกลิ่นคาวให้ใช้หัวน้ำส้มสายชูผสมน้ำให้เจือจางราดบริเวณที่มีกลิ่นคาว สำหรับบริเวณห้องน้ำ ห้องส้วม อ่างล้างมือ ที่ปัสสาวะ และก๊อกน้ำสาธารณะ ที่ใช้ในตลาดต้องทำความสะอาดโดยใช้น้ำยา ทำความสะอาดหรือผงซักฟอกช่วยและล้างด้วยน้ำสะอาด ซึ่งจะเป็นการลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายโรคที่เกิดจากอาหารและน้ำเป็นสื่อหลังน้ำลดได้
ทั้งนี้ สำหรับการใช้สารคลอรีนนั้น ผู้ใช้ควรมีความระมัดระวัง เพราะคลอรีนเป็นสารที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองและอาจเป็นอันตรายแก่อวัยวะของร่างกายได้ โดยเฉพาะ ตา จมูก ผิวหนัง เมื่อถูกคลอรีนจะมีอาการอักเสบและบวมพอง หรือถ้าสูดดมเข้าไปจะเกิดอาการอึดอัด หายใจไม่สะดวก เจ็บคอ แน่นหน้าอก และอาจทำให้เสียชีวิตได้ เมื่อสูดดมเข้าไปในปริมาณที่มากเกินไป วิธีการดูแลตนเองเบื้องตนหากคลอรีนเข้มข้นถูกตา ต้องรีบนำน้ำสะอาดปริมาณมาก ๆ มาล้างบริเวณที่ถูกคลอรีนไม่น้อยว่า 15 นาที และรีบนำผู้ป่วยส่งสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านเพื่อเข้ารับการรักษาทันที? อธิบดีกรมอนามัย กล่าว กลุ่มสื่อสารองค์กร / 18 พฤศจิกายน 2554
กระทรวงสาธารณสุข จัดงาน Big Cleaning Day ลงพื้นที่ล้างตลาดสดตามหลักสุขาภิบาล เน้น 3 จุดสำคัญ \\เขียง แผง พื้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ซึ่งข้อมูลล่าสุดมีตลาดสดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวน 74 แห่ง พร้อมเตรียมประสานข้อมูล กทม. เพื่อเข้าดำเนินการล้างตลาดต่อไป วันนี้ (18 พฤศจิกายน 2554) นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยในการเป็นประธานเปิดงาน \\เมืองน่าอยู่ Big Cleaning Day ตลาดประชุมทรัพย์ (ท่าโขลง) ตำบลเขาสมอคอน อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นนอกจากจะส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนของประชาชนให้เกิดความเสียหายแล้ว สถานที่สาธารณะก็ได้รับความเสียหายด้วยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะตลาดสดซึ่งเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยสินค้าทั้งของสดและของแห้งสำหรับประชาชน ตลาดสดจึงเป็นสถานที่สาธารณะลำดับต้น ๆ ที่ต้องเร่งฟื้นฟูโดยล้างทำความสะอาดเพื่อไม่ให้กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค นายต่อพงษ์ กล่าวต่อไปว่า จากการข้อมูลการสำรวจของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ล่าสุดพบว่า มีตลาดสดที่ผ่านเกณฑ์ตลาดสดน่าซื้อของกรมอนามัยถูกน้ำท่วมในพื้นที่ 13 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 74 แห่ง ในจำนวนนี้มีตลาดที่ยังคงถูกน้ำท่วมจำนวน 51 แห่ง และกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วจำนวน 23 แห่ง กระทรวงสาธารณสุขโดย กรมอนามัยจึงได้ร่วมมือกับพื้นที่เร่งฟื้นฟูโดยการล้างตลาดตามหลักการสุขาภิบาลจำนวน 18 แห่ง และจะเร่งดำเนินการให้ครบถ้วนทุกพื้นที่หลังน้ำลด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่ต้องการจับจ่ายสินค้าภายในตลาด และสำหรับตลาดสดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างการประสานข้อมูลกับกรุงเทพมหานครเพื่อเข้าฟื้นฟูในพื้นที่ตลาดสดต่อไป ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า การล้างตลาดผู้ประกอบการควรคำนึงถึง 3 จุดหลักสำคัญ ได้แก่ พื้น เขียง แผง เพราะเป็นจุดที่สัมผัสกับอาหารมากที่สุด จึงเป็นเส้นทางผ่านเชื้อโรคให้เข้าสู่ร่างกายได้ ซึ่งการ ล้างตลาดที่ถูกหลักสุขาภิบาลมี 2 ขั้นตอนสำคัญคือ ขั้นที่ 1 การล้างด้วยน้ำและผงซักฟอกเพื่อกำจัดคราบสกปรก แล้วฆ่าเชื้อด้วยคลอรีนบริเวณบนแผงหรือพื้นทางเดิน แต่หากมีคราบไขมันจับให้ใช้น้ำผสมโซดาไฟราดลงบนพื้นหรือแผง ทิ้งไว้นาน 15-30 นาที และใช้แปรงลวดถูเพื่อช่วยในการขจัดคราบไขมัน และขั้นที่ 2 การฆ่าเชื้อโรคโดยใช้น้ำผสมผงปูนคลอรีนใส่ลงในฝักบัวรดน้ำและรดบริเวณแผง เขียง ทางเดิน ทางระบายน้ำเสียให้ทั่ว จากนั้นปล่อยทิ้งไว้เพื่อให้คลอรีนฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่น ส่วนบริเวณที่มีกลิ่นคาวให้ใช้หัวน้ำส้มสายชูผสมน้ำให้เจือจางราดบริเวณที่มีกลิ่นคาว สำหรับบริเวณห้องน้ำ ห้องส้วม อ่างล้างมือ ที่ปัสสาวะ และก๊อกน้ำสาธารณะ ที่ใช้ในตลาดต้องทำความสะอาดโดยใช้น้ำยา ทำความสะอาดหรือผงซักฟอกช่วยและล้างด้วยน้ำสะอาด ซึ่งจะเป็นการลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายโรคที่เกิดจากอาหารและน้ำเป็นสื่อหลังน้ำลดได้ \\ทั้งนี้ สำหรับการใช้สารคลอรีนนั้น ผู้ใช้ควรมีความระมัดระวัง เพราะคลอรีนเป็นสารที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองและอาจเป็นอันตรายแก่อวัยวะของร่างกายได้ โดยเฉพาะ ตา จมูก ผิวหนัง เมื่อถูกคลอรีนจะมีอาการอักเสบและบวมพอง หรือถ้าสูดดมเข้าไปจะเกิดอาการอึดอัด หายใจไม่สะดวก เจ็บคอ แน่นหน้าอก และอาจทำให้เสียชีวิตได้ เมื่อสูดดมเข้าไปในปริมาณที่มากเกินไป วิธีการดูแลตนเองเบื้องตนหากคลอรีนเข้มข้นถูกตา ต้องรีบนำน้ำสะอาดปริมาณมาก ๆ มาล้างบริเวณที่ถูกคลอรีนไม่น้อยว่า 15 นาที และรีบนำผู้ป่วยส่งสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านเพื่อเข้ารับการรักษาทันที อธิบดีกรมอนามัย กล่าว กลุ่มสื่อสารองค์กร / 18 พฤศจิกายน 2554