ข่า
วแจก "สธ. ย้ำศูนย์อพยพต้องจัดการส้วม ขยะ อาหารและน้ำอย่างถูกวิธี ห่วงผู้หญิงเป็นโรคเชื้อราที่มากับน้ำเน่า"
กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
09
พฤศจิกายน
2554
ข่าวแจก "สธ. ย้ำศูนย์อพยพต้องจัดการส้วม ขยะ อาหารและน้ำอย่างถูกวิธี ห่วงผู้หญิงเป็นโรคเชื้อราที่มากับน้ำเน่า"
กระทรวงสาธารณสุข ชื่นชมศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยวิทยาลัยสารพัดช่างนครหลวง มีการจัดการทางสุขาภิบาลเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่ดี ห่วงสุขภาพประชาชนในช่วงน้ำท่วมโดยเฉพาะผู้หญิง หากเดินลุยน้ำอาจเจอเชื้อโรคต่าง ๆ ที่มากับน้ำเน่าได้
วันนี้ (9 พฤศจิกายน 2554) นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้กรมอนามัยจัดทีมเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลสุขภาพ และเฝ้าระวังความปลอดภัยด้านสุขาภิบาลที่ดีสำหรับผู้ประสบอุทกภัยนั้น สำหรับศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยวิทยาลัยสารพัดช่างนครหลวง ซอยจรัลสนิทวงศ์ 68 เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร มีผู้อพยพจำนวนกว่า 200 คน และมีการบริหารจัดการด้านสุขาภิบาลเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่ดี กรมอนามัยจึงได้ให้คำแนะนำด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม อาทิ การนำ EM มาจัดการปัญหาส้วมอุดตันและมีกลิ่นเหม็น ให้ความรู้ด้านการใช้ส้วมที่ถูกต้องแก่ผู้อพยพ วิธีการจัดการขยะในศูนย์พักพิงโดยการคัดแยกขยะออกเป็น 3 ประเภท คือ 1)ขวดน้ำ 2)โฟมและช้อนพลาสติก 3)เศษอาหาร เพื่อป้องกันแหล่งเพาะพันธุ์โรคจากหนูและแมลงวัน สำหรับจุดปรุง-ประกอบอาหารนั้น ต้องมีพื้นที่หรือสถานที่ทำครัวที่ห่างจากห้องส้วมและที่เก็บขยะ หลีกเลี่ยงการเตรียมหรือการปรุงอาหารบนพื้น ซึ่งกรมอนามัยจะได้เฝ้าระวังตรวจการปนเปื้อนในอาหารและน้ำทุกวัน นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนสิ่งของข้าวสาร อาหารแห้ง และเวชภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อาทิ ข้าวสาร 100 ถุง น้ำ 500 ขวด น้ำมันพืช 10 ปี๊บ เส้นหมี่ขาว 2 ลัง ผ้าห่ม 50 ผืน ชุดยาสามัญประจำบ้าน 200 กล่อง EM 240 ขวด ส้วมกระดาษ 50 ชุด ถุงดำใหญ่ 5 กระสอบ และเจลล้างมือ 20 ขวดใหญ่
นายต่อพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ ส่งผลให้การเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก ประชาชนส่วนใหญ่จึงต้องเดินลุยน้ำ ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคที่มากับน้ำไม่สะอาดได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิง ดังนั้นจึงควรระมัดระวังและหาวิธีการป้องกันตนเองเบื้องต้น ผู้หญิงที่เดินลุยน้ำหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดโรคจากแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา พยาธิ หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ เข้าสู่ช่องคลอดได้ ส่งผลให้เกิดการ ระเคือง แพ้ คัน วิธีการดูแลตนเองเบื้องต้น คือ หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำ หรือแช่ในน้ำที่มีลักษณะท่วมขัง น้ำเน่า และมีกลิ่นเหม็น ที่มีความสูงเกินระดับเข่าขึ้นไป หากมีความจำเป็นต้องเดินลุยน้ำ ต้องรีบทำความสะอาดทันที โดยการล้างภายนอกช่องคลอดก่อนด้วยสบู่และน้ำสะอาด จากนั้นล้างภายในช่องคลอดด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง สำหรับน้ำยาทำความสะอาดสำหรับผู้หญิงสามารถใช้ได้ แต่น้ำยาดังกล่าวจะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ทำให้ความสมดุลในช่องคลอดเสีย จึงควรใช้เพียงสัปดาห์ละครั้ง สำหรับเด็ก ผู้ปกครองควรเตือนและไม่ควรให้เด็กเล่นน้ำที่ท่วมขังอยู่เพราะเชื้อโรคอาจเข้าสู่ หู ตา จมูก ปากได้
ทั้งนี้ สำหรับประชาชนทั่วไป หากเดินลุยน้ำหรือแช่น้ำ ต้องรีบทำความสะอาดร่างกายทันที โดยเฉพาะตามบริเวณซอกนิ้วเท้า เพราะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี หากทำความสะอาดร่างกายแล้ว ภายใน 24 ชั่วโมง ยังมีอาการระคายเคือง คัน ขอให้รีบไปปรึกษาแพทย์หรือสถานพยาบาลใกล้บ้านทันที? รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในที่สุด
****
กลุ่มสื่อสารองค์กร กรมอนามัย / 9 พฤศจิกายน 2554
กระทรวงสาธารณสุข ชื่นชมศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยวิทยาลัยสารพัดช่างนครหลวง มีการจัดการทางสุขาภิบาลเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่ดี ห่วงสุขภาพประชาชนในช่วงน้ำท่วมโดยเฉพาะผู้หญิง หากเดินลุยน้ำอาจเจอเชื้อโรคต่าง ๆ ที่มากับน้ำเน่าได้ วันนี้ (9 พฤศจิกายน 2554) นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้กรมอนามัยจัดทีมเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลสุขภาพ และเฝ้าระวังความปลอดภัยด้านสุขาภิบาลที่ดีสำหรับผู้ประสบอุทกภัยนั้น สำหรับศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยวิทยาลัยสารพัดช่างนครหลวง ซอยจรัลสนิทวงศ์ 68 เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร มีผู้อพยพจำนวนกว่า 200 คน และมีการบริหารจัดการด้านสุขาภิบาลเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่ดี กรมอนามัยจึงได้ให้คำแนะนำด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม อาทิ การนำ EM มาจัดการปัญหาส้วมอุดตันและมีกลิ่นเหม็น ให้ความรู้ด้านการใช้ส้วมที่ถูกต้องแก่ผู้อพยพ วิธีการจัดการขยะในศูนย์พักพิงโดยการคัดแยกขยะออกเป็น 3 ประเภท คือ 1)ขวดน้ำ 2)โฟมและช้อนพลาสติก 3)เศษอาหาร เพื่อป้องกันแหล่งเพาะพันธุ์โรคจากหนูและแมลงวัน สำหรับจุดปรุง-ประกอบอาหารนั้น ต้องมีพื้นที่หรือสถานที่ทำครัวที่ห่างจากห้องส้วมและที่เก็บขยะ หลีกเลี่ยงการเตรียมหรือการปรุงอาหารบนพื้น ซึ่งกรมอนามัยจะได้เฝ้าระวังตรวจการปนเปื้อนในอาหารและน้ำทุกวัน นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนสิ่งของข้าวสาร อาหารแห้ง และเวชภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อาทิ ข้าวสาร 100 ถุง น้ำ 500 ขวด น้ำมันพืช 10 ปี๊บ เส้นหมี่ขาว 2 ลัง ผ้าห่ม 50 ผืน ชุดยาสามัญประจำบ้าน 200 กล่อง EM 240 ขวด ส้วมกระดาษ 50 ชุด ถุงดำใหญ่ 5 กระสอบ และเจลล้างมือ 20 ขวดใหญ่ นายต่อพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ ส่งผลให้การเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก ประชาชนส่วนใหญ่จึงต้องเดินลุยน้ำ ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคที่มากับน้ำไม่สะอาดได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิง ดังนั้นจึงควรระมัดระวังและหาวิธีการป้องกันตนเองเบื้องต้น ผู้หญิงที่เดินลุยน้ำหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดโรคจากแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา พยาธิ หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ เข้าสู่ช่องคลอดได้ ส่งผลให้เกิดการ ระเคือง แพ้ คัน วิธีการดูแลตนเองเบื้องต้น คือ หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำ หรือแช่ในน้ำที่มีลักษณะท่วมขัง น้ำเน่า และมีกลิ่นเหม็น ที่มีความสูงเกินระดับเข่าขึ้นไป หากมีความจำเป็นต้องเดินลุยน้ำ ต้องรีบทำความสะอาดทันที โดยการล้างภายนอกช่องคลอดก่อนด้วยสบู่และน้ำสะอาด จากนั้นล้างภายในช่องคลอดด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง สำหรับน้ำยาทำความสะอาดสำหรับผู้หญิงสามารถใช้ได้ แต่น้ำยาดังกล่าวจะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ทำให้ความสมดุลในช่องคลอดเสีย จึงควรใช้เพียงสัปดาห์ละครั้ง สำหรับเด็ก ผู้ปกครองควรเตือนและไม่ควรให้เด็กเล่นน้ำที่ท่วมขังอยู่เพราะเชื้อโรคอาจเข้าสู่ หู ตา จมูก ปากได้ \\ทั้งนี้ สำหรับประชาชนทั่วไป หากเดินลุยน้ำหรือแช่น้ำ ต้องรีบทำความสะอาดร่างกายทันที โดยเฉพาะตามบริเวณซอกนิ้วเท้า เพราะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี หากทำความสะอาดร่างกายแล้ว ภายใน 24 ชั่วโมง ยังมีอาการระคายเคือง คัน ขอให้รีบไปปรึกษาแพทย์หรือสถานพยาบาลใกล้บ้านทันที รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในที่สุด **** กลุ่มสื่อสารองค์กร กรมอนามัย / 9 พฤศจิกายน 2554