กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลผู้สูงอายุเพื่อรองรับสังคมสูงวัย ในการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลผู้สูงอายุเพื่อรองรับสังคมสูงวัย ปี 2568 วันที่ 27-30 พฤษภาคม 2568 ณ โรงแรมโคราช โฮเต็ล จังหวัดนครราชสีมา พร้อมมอบประกาศนียบัตรหลักสูตรนักฟื้นฟูสุขภาพชุมชน (Community Rehabilitation Aids) จำนวน 30 ชั่วโมง แก่ผู้ผ่านการอบรม
วันนี้ (30 พฤษภาคม 2568) แพทย์หญิงนงนุช ภัทรอนันตนพ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรผู้สูงอายุ 13.71 ล้านคน ในจำนวนนี้ มีผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิง 477,356 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 3.55 การดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงจำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพและทักษะของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานในบทบาทของผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุ (Care Manager) และผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Caregiver) ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค รักษาพยาบาล และฟื้นฟูสุขภาพ ปัจจุบันมี Care Manager จำนวน 20,318 คน และ Caregiver จำนวน 111,203 คน กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายเพิ่มอัตรากำลังบุคลากรด้านการผลิตนักฟื้นฟูสุขภาพชุมชน เพื่อรองรับการดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน กรมอนามัยจึงได้พัฒนากลักสูตร "นักฟื้นฟูสุขภาพชุมชน" ร่วมกับกรมการแพทย์ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และภาคีเครือข่าย เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและต่อยอดองค์ความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพและฟื้นฟูสมรรถภาพให้แก่ผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Caregiver) ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ดูแลสามารถฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงในกลุ่มที่ต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพเฉพาะได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้ผู้สูงอายุมีความสามารถในการช่วยเหลือตนเองเพิ่มขึ้น หรือรักษาระดับความสามารถเดิมไว้
ด้านทันตแพทย์ณัฐพงค์ กันทะวงค์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัยผู้สูงอายุ กรมอนามัย กล่าวว่า จากการสำรวจข้อมูลในระบบโปรแกรม 3C กรมอนามัย พบว่า ผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงส่วนใหญ่มีปัญหาด้านความสามารถทางร่างกาย โดยเฉพาะความอ่อนแรงของกำลังมือ แขน และขา สูงสุด รองลงมาคือไม่สามารถเคลื่อนไหวด้วยตนเองได้ หรือลุกนั่งจากที่นอนไม่ได้ และปัญหาในการประกอบกิจวัตรประจำวัน นอกจากนี้ ข้อมูลการให้บริการด้านกายภาพและการฟื้นฟูตาม Care Plan รายสัปดาห์ พบว่า ผู้มีภาวะพึ่งพิงส่วนใหญ่ต้องได้รับการดูแลด้านการบริหารข้อและกล้ามเนื้อ ร้อยละ 8 รองลงมาคือการฝึกเดิน การฝึกทรงตัว การเคลื่อนย้ายบนเตียงและลงจากเตียง ร้อยละ 2 ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลและฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง ผู้ดูแลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสุขภาพ จะช่วยให้ผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงในกลุ่มที่ต้องรับการฟื้นฟูสมรรถภาพเฉพาะ ได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพอย่างเหมาะสม มีความสามารถในการช่วยเหลือตนเองเพิ่มขึ้นหรือคงระดับความสามารถได้
ทันตแพทย์ณัฐพงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรนักฟื้นฟูสุขภาพชุมชน รุ่นที่ 1 ทั้งหมดจำนวน 40 คน โดยมาจากเขตสุขภาพที่ 4 จังหวัดสระบุรี จำนวน 10 คน เขตสุขภาพที่ 7 จังหวัดร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์และขอนแก่น จำนวน 8 คน เขตสุขภาพที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 10 คน เขตสุขภาพที่ 10 จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 12 คน โดยวัตถุประสงค์ในการจัดประชุมครั้งนี้เพื่อพัฒนาศักยภาพเพิ่มพูนทักษะ และองค์ความรู้แก่ผู้ดูแลผู้สูงอายุ ให้สามารถนำความรู้ไปใช้การดูแลฟื้นฟูสุขภาพของผู้สูงอายุและผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง และสามารถให้ความรู้
แก่ครอบครัวของผู้สูงอายุได้ ลดความแออัดในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ในโรงพยาบาล และเพิ่มคุณภาพชีวิตแก่ผู้สูงอายุ โดยได้รับการสนับสนุนวิทยากรด้านการฟื้นฟูสุขภาพจากกรมการแพทย์ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และกรมอนามัย รวมผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 65 คน ถือเป็นความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย ทุกภาคส่วนในการระดมทรัพยากรระดับพื้นที่ เพื่อสนับสนุนนโยบายการดำเนินงานในระดับพื้นที่ต่อไป
***
กรมอนามัย / 30 พฤษภาคม 2568