กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข นำทีมลงเยี่ยมเสริมพลังติดตามการยกระดับมาตรการควบคุมโควิด-19 พื้นที่ตลาดตะพง จังหวัดระยอง และมอบป้ายตลาดสดน่าซื้อ วิถีใหม่ ระดับดีมาก 5 ดาว พร้อมเน้นย้ำผู้ประกอบการ ผู้ใช้บริการ ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting อย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (5 มิถุนายน 2565) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามการยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ณ ตลาดตะพง จังหวัดระยอง ว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ กรมอนามัยได้มอบป้ายตลาดสดน่าซื้อ วิถีใหม่ ระดับดีมาก 5 ดาว ให้กับตลาดตะพงที่ผ่านการประเมินตามเกณฑ์ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม 2) ด้านสุขอนามัยส่วนบุคคล 3) ด้านความปลอดภัยอาหาร และ 4) ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมติดตามการยกระดับความปลอดภัย โดยผู้ประกอบการตลาดประเมินตนเองผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID 2 Plus (TSC 2+) พร้อมปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting อย่างต่อเนื่อง กำหนดจุดเข้า – ออกให้เหมาะสม เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1–2 เมตร จัดระบบการสุขาภิบาล และอนามัยสิ่งแวดล้อม ทำความสะอาดทำลายเชื้อทุกวัน โดยเฉพาะบริเวณพื้นผิว สัมผัสร่วม ให้ทำความสะอาดทุกชั่วโมง จัดให้มีภาชนะรองรับขยะแบบมีฝาปิดมิดชิด และต้องล้างตลาด ตามหลักสุขาภิบาลอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง รวมทั้งปรับสภาพแวดล้อมให้มีการระบายอากาศที่ดี สำหรับพ่อค้า แม่ค้า ผู้ปฏิบัติงานในตลาด จะต้องมีการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ และคัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้าตลาด ด้วยการประเมินผ่าน “ไทยเซฟไทย” หากพบเสี่ยงปานกลางหรือเสี่ยงสูง งดให้บริการ และตรวจ ATK ทันที
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า การปฏิบัติตามมาตรการของตลาดตะพงที่ผ่านมา นับว่าดำเนินการได้ดีทั้งด้านสุขลักษณะและด้านสุขาภิบาล แต่ก็ยังสามารถขยายการดำเนินงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมไปยังชุมชนภายนอกตลาดได้เพิ่มมากขึ้น ควบคู่กับการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพให้กับผู้ประกอบการตลาด พ่อค้า แม่ค้า ให้อยู่ได้กับโควิด เข้าใจถึงความสำคัญและความจำเป็นของการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในกลุ่มเปราะบาง 608 รวมทั้งมีพฤติกรรมการสวมหน้ากากอนามัย และสุขอนามัยในการล้างมืออย่างเหมาะสม เพื่อสร้างความปลอดภัย และใช้สุขภาพเป็นจุดแข็งในการเสริมสร้างความได้เปรียบทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับตลาดอื่น ๆ ในจังหวัดระยอง สำหรับนำไปใช้ในการยกระดับตนเองต่อไป
“ทั้งนี้ ข้อมูลผลการสำรวจอนามัยโพลเดือนพฤษภาคม 2565 พบว่า สถานประกอบการตลาดของไทย ได้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคมากที่สุดคือ กำหนดทางเข้า-ออก และคัดกรองอุณหภูมิก่อนเข้า ร้อยละ 92.5 รองลงมาคือ ลงทะเบียนเข้า-ออก ด้วยแอปพลิเคชั่นหรือสมุด ร้อยละ 73.7 มีจุดบริการล้างมือ อย่างเพียงพอ ร้อยละ 65 เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 – 2 เมตร ร้อยละ 64 และมีการระบายอากาศที่ดี ร้อยละ 48.7 นอกจากนี้ ข้อมูลการสังเกตพฤติกรรมสวมหน้ากากอย่างถูกต้องในตลาด พบว่า สวมหน้ากากถูกต้อง ร้อยละ 84 ส่วนที่สวมไม่ถูกต้องหรือไม่สวมหน้ากาก พบร้อยละ 16 ดังนั้น ประชาชนผู้รับบริการยังคงต้องปฏิบัติตามหลัก UP (Universal Prevention) อย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัย และเป็นการเตรียมความพร้อมในการเปลี่ยนผ่านสู่โรคประจำถิ่น” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
***
กรมอนามัย / 5 มิถุนายน 2565