กรมอนามัย โชว์ นวัตกรรมสุขภาพ เตรียมพร้อมก่อนเปิดฉากงานประชุมวิชาการ
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตรียมจัดงานประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2554 รวบรวมผลงานวิจัยกว่า 100 เรื่อง พร้อมโชว์นวัตกรรมด้านสุขภาพ สำหรับให้ความรู้แก่ประชาชน เพื่อร่วมแก้ปัญหาสุขภาพคนไทยในงานประชุมวิชาการ
วันนี้ (8 สิงหาคม 2554) ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในการแถลงข่าวการจัดประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2554 ณ ห้องประชุมกำธร สุวรรรกิจ อาคาร 1 ชั้น 1 กรมอนามัย ว่า กรมอนามัยได้กำหนดจัดการประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมครั้งที่ 4 พ.ศ. 2554 (สุขภาพดี ชีวีสดใส อนาคตก้าวไกล Better Health : Better Life : Bright Future) ในระหว่างวันที่ 17-19 สิงหาคม 2554ณ Hall 9 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี โดยกรมอนามัยได้กราบทูลฯ เชิญพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จเป็นองค์ประธาน ซึ่งการจัดประชุมวิชาการในครั้งนี้ กรมอนามัยได้ร่วมกับภาคีทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ในกลุ่มนักวิชาการ กลุ่มผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ และประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนางานและตนเองให้มีสุขภาพดี พร้อมทั้งนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ ต่อการดำเนินงานด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมให้เกิดประสิทธิภาพ
ดร.นพ.สมยศ กล่าวต่อว่า การจัดประชุมวิชาการฯ ในครั้งนี้ กรมอนามัยได้กำหนดกิจกรรมที่หลากหลายรูปแบบ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ภาควิชาการ อาทิ การปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "โครงการพระราชดำริ เพื่อคุณภาพชีวิตของปวงชน ชาวไทย โดย นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี, การบรรยายเรื่อง "Assessing Human Health Vulnerability and Public Health Adaptation to Climate Change? โดย Dr.A.M.Zakir Hussain องค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEARO), การสัมมนาห้องประชุมย่อย ในประเด็นร้อนจากผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา อาทิ การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น เรื่องวุ่น ๆ ที่ป้องกันได้, สังคมสูงวัย...เตรียมตัวอย่างไรใน 10 ปีข่างหน้า, ผลกระทบและการดูแลสุขภาพจากภาวะโลกร้อน และพัฒนาการเด็กและไอโอดีน เป็นต้น นอกจากนี้ มีผู้สนใจส่งผลงานวิชาการด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมเข้าร่วมคัดเลือก จำนวน 109 เรื่อง แบ่งเป็นนำเสนอผลงานวิชาการด้วยวาจา จำนวน 42 เรื่อง และนำเสนอผลงานวิชาการด้วยโปสเตอร์ จำนวน 67 เรื่อง โดยผลงานวิจัยที่ได้รับรางวัล เจ้าของผลงานจะได้รับมอบประกาศเกียรติบัตรและโล่ผลงานดีเด่น
"ทั้งนี้ ภายในงานประชุมวิชาการฯ ยังได้มอบโล่ให้กับบุคคลและองค์ต้นแบบที่ดำเนินงานด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งให้การสนับสนุนการดำเนินงานของกรมอนามัยด้วยดีมาโดยตลอด ที่สำคัญในปี 2554 นี้ คณะกรรมการคัดเลือกบุคคลและองค์กรต้นแบบด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมได้ทูลเกล้าฯ รางวัลบุคคลต้นแบบแด่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ในฐานะที่ทรงมีพระปณิธานอันแน่วแน่ในการทรงงานและ เป็นแบบอย่างแก่แม่ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ก่อเกิดแม่อาสา แกนนำนมแม่ ชมรมนมแม่ และชมรมสายใยรักแห่งครอบครัว ให้ความช่วยเหลือแม่ในการเลี้ยงลูกด้วยนมตนเอง เกิดกระแสการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ครั้งใหญ่ของประเทศไทย นับเป็นเกียรติประวัติแก่กระทรวงสาธารณสุข? ดร.นพ.สมยศ กล่าว
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับในส่วนภาคประชาชน กรมอนามัยได้จัดเป็นมหกรรมสุขภาพฯ ในรูปแบบนิทรรศการด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมและการให้บริการฟรีตลอดงาน พร้อมโชว์นวัตกรรมสุขภาพ อาทิ โมเดลส้วมมาตรฐาน HAS การลดภาวะโลกร้อน เช่น ไบโอแก๊สจากขยะอินทรีย์ น้ำหมักชีวภาพ เลี้ยงไส้เดือนดินกำจัดขยะอินทรีย์ การปลูกผักปลอดสารพิษ โมเดลลดโลกร้อน ต้นไม้ดูดสารพิษ ตลาดสุดยอดนวัตกรรม เช่น สมุนไพร ไล่แมลงวัน เก้าอี้มหัศจรรย์สำหรับพ่อค้าแม่ค้าในตลาด รวมทั้งบริการสุขภาพตามกลุ่มวัย อาทิ ตรวจวัดพัฒนาการเด็ก เคลือบหลุมร่องฟันในเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี คลินิกวัยรุ่น ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 1,000 dose/วัน ฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกให้กับเด็กหญิงอายุ 12-14 ปี ที่ยังไม่มีเพศสัมพันธ์และพร้อมที่จะรับวัคซีนครบทั้ง 3 เข็ม ตรวจ คัดกรองและฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุ ตรวจวัดและตัดแว่นสายตา 300 อัน บริการใส่ ฟันเทียมทั้งปาก 300 ราย โดยต้องขึ้นทะเบียนล่วงหน้าเพื่อตรวจความพร้อมของช่องปากก่อนการใส่ฟัน และตรวจวัดระดับไขมันด้วยเครื่อง Inbody ซึ่งประชาชน ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานและรับบริการได้ตั้งแต่เวลา 09.00?20.00 น.
กลุ่มสื่อสารองค์กร / 8 สิงหาคม 2554