ข่า
วแจก "พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ ทรงเปิดการประชุมวิชาการนมแม่แห่งชาติ ครั้งที่ 3"
กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
23
มิถุนายน
2554
ข่าวแจก "พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ ทรงเปิดการประชุมวิชาการนมแม่แห่งชาติ ครั้งที่ 3"
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ ทรงเปิดการประชุมวิชาการนมแม่แห่งชาติ ครั้งที่ 3
วันนี้ (23 มิถุนายน 2554) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเปิดงานโครงการประชุมวิชาการนมแม่แห่งชาติ ครั้งที่ 3ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขเฝ้าฯ รับเสด็จ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กราบทูลรายงานว่า ด้วยพระปณิธานอันแน่วแน่ ที่ทรงมีเป้าหมายในการส่งเสริมสถาบันครอบครัวให้อบอุ่น มีการสนับสนุนให้สมาชิกในครอบครัวคือ พ่อ แม่ ลูก ได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ได้รับความรัก ความอบอุ่น และได้รับการดูแลที่ดีตั้งแต่เริ่มมีชีวิตอยู่ในครรภ์มารดา จนกระทั่งมีการคลอดลูกอย่างปลอดภัย ได้กินนมแม่ตั้งแต่แรกเริ่มชีวิต ตลอดจนได้รับการเลี้ยงดูอย่างถูกต้องมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการสมวัย และเจริญเติบโตเป็นเยาวชนที่มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีไม่ก่อปัญหาสังคม กระทรวงสาธารณสุข น้อมรับพระปณิธานดังกล่าวจึงได้ร่วมกับมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย จัดประชุมวิชาการนมแม่แห่งชาติครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2548 ครั้งที่ 2 วันที่ 7 สิงหาคม 2551 และครั้งที่ 3 ในวันนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพและองค์ความรู้ของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด้านการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เผยแพร่ความรู้และความก้าวหน้าทางวิชาการ ส่งเสริมการเผยแพร่ผลงานวิชาการและสร้างเครือข่ายนักวิชาการ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม จำนวนกว่า 1,000 คน
"ทั้งนี้ นมแม่คืออาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก องค์การอนามัยโลกแนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนและหลังจากนั้นให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ควบคู่อาหารตามวัยจนครบ 2 ปี หรือมากกว่า ทารกที่ได้รับนมแม่จะมีโอกาสเป็นโรคอ้วนและโรคเบาหวาน น้อยกว่าทารกที่ได้รับนมผสม และยังช่วยป้องกันโรคเรื้อรังเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เช่น โรคเบาหวาน และภาวะหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ด้านเชาว์ปัญญาและพัฒนาการพบว่า ทารกที่ได้รับนมแม่นาน 6 เดือน มีระดับพัฒนาการดีกว่าทารกที่ไม่ได้รับนมแม่เลย 5.8-8.2 จุด และมีระดับเชาว์ปัญญาสูงกว่าทารกที่ได้รับนมผสม 3.06 จุด? รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการสำรวจสถานการณ์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ในปี พ.ศ. 2552 พบว่า อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 16.3 ในปี พ.ศ. 2548 เป็น ร้อยละ 29.6 นอกจากนี้ จากรายงานการละเมิดหลักเกณฑ์ว่าด้วยการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกรมอนามัยในปี พ.ศ. 2552 พบว่า มีการละเมิดหลักเกณฑ์ว่าด้วยการตลาดทุกรูปแบบ คือ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบแก่สาธารณชน การแจกตัวอย่างอาหารทารกและเด็กเล็ก ของขวัญแก่แม่ พนักงานการตลาดติดต่อหญิงมีครรภ์ แม่ และครอบครัวโดยตรง ดังนั้นในเดือนมกราคม พ.ศ. 2553 ที่ผ่านมา กรมอนามัยได้ร่วมกับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน กรุงเทพมหานคร มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย องค์การ UNICEF และองค์การอนามัยโลก จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการขับเคลื่อนการส่งเสริมและสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้แก่แม่ที่ทำงานในสถานประกอบการ เพื่อเปิดโอกาสให้แม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมตนเองเพิ่มมากขึ้น
"สำหรับการประชุมวิชาการนมแม่แห่งชาติ ครั้งที่ 3 ในครั้งนี้ กรมอนามัยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และความร่วมมือจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น สถาบันสุขภาพเด็ก-แห่งชาติมหาราชินี ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งเวทีที่ผู้เข้าประชุมจะได้รับองค์ความรู้ต่าง ๆ ทั้งจากวิทยากรและจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผู้ประสบความสำเร็จในเรื่องตำบลนมแม่ ความรู้ที่เกิดจากภูมิปัญญาไทย แพทย์แผนไทย องค์ความรู้ที่ได้จากผลงานวิจัย นวัตกรรม และบริการที่เป็นเลิศทั้ง 41 เรื่อง ถือเป็นความท้าทายนำสังคมไทยให้ก้าวไปสู่การเป็นสังคมนมแม่ สมดังพระปณิธานของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ในอันที่จะส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างยั่งยืน? อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
*****
กลุ่มสื่อสารองค์กร / 23 มิถุนายน 2554