คุณกำลังมองหาอะไร?

ข่า

ข่าวแจก "กรมอนามัย ชี้ยุงลายเป็นเหตุรำคาญ พบแหล่งเพาะพันธุ์ต้องตัดตอน ฝ่าฝืนมีโทษตามก.ม."

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

20.05.2556
113
0
แชร์
20
พ.ค.
2556

ข่าวแจก "กรมอนามัย ชี้ยุงลายเป็นเหตุรำคาญ พบแหล่งเพาะพันธุ์ต้องตัดตอน ฝ่าฝืนมีโทษตามก.ม."

        กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องกำหนดให้แหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายเป็นเหตุรำคาญในพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 พร้อมแนวทางการปฏิบัติของเจ้าพนักงานท้องถิ่น เจ้าพนักงานสาธารณสุข และผู้ครอบครองอาคาร หากไม่มีการควบคุมและป้องกันแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายให้ดำเนินการตามบทลงโทษตามกฎหมายได้ทันที
        นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงแนวทางการควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคไข้เลือดออกที่รุนแรงในขณะนี้ เป็นปัญหาสาธารณสุขที่ต้องป้องกันเฝ้าระวังอย่างเข้มแข็ง พร้อมเร่งกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในภาชนะหรือเศษวัสดุที่มีน้ำขังและเมื่อมีการตรวจพบลูกน้ำหรือตัวโม่งยุงลายถือเป็นเหตุรำคาญ ซึ่งราชการส่วนท้องถิ่น เจ้าพนักงานท้องถิ่น และ เจ้าพนักงานสาธารณสุขสามารถดำเนินการควบคุมได้ทันที ตั้งแต่
1) ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในท้องถิ่นทราบถึงอันตรายของโรคไข้เลือดออก ลักษณะอาการ การควบคุมและป้องกันแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย รวมทั้งผลทางกฎหมายที่กำหนดให้แหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายเป็นเหตุรำคาญ
2) ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่น เจ้าพนักงานสาธารณสุขเฝ้าระวังโรคและควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในเขตท้องที่ที่รับผิดชอบ
3) หากพบว่าอาคารหรือสถานที่ของเอกชนมีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายให้แจ้งหรือแนะนำให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือสถานที่นั้นปรับปรุงแก้ไข และ
4) หากเจ้าของหรือ ผู้ครอบครองอาคารไม่ให้ความร่วมมือหรือไม่ปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นออกคำสั่งตามมาตรา 28 ให้ปรับปรุงแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนด หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะมีบทลงโทษโดยปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือทั้งจำทั้งปรับได้ตามมาตรา 74
        นายแพทย์ณรงค์ กล่าวต่อไปว่า กรณีที่ตรวจพบแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในที่หรือทางสาธารณะ เจ้าพนักงานท้องถิ่นสามารถดำเนินการได้ทันที หากทราบว่าแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายนั้นเกิดจากการกระทำของบุคคลใดให้ออกคำสั่งตามมาตรา 27 ให้บุคคลนั้นปรับปรุงแก้ไขตามระยะเวลาที่กำหนด ถ้าไม่ปฏิบัติตามให้ท้องถิ่นสั่งการให้ดำเนินการลงโทษตามบทบัญญัติมาตรา 74 ข้างต้นได้เช่นกัน แต่หากไม่ปรากฏว่าเกิดจากบุคคลใดให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นสั่งการให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของท้องถิ่นดำเนินการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์นั้นได้โดยการถม ระบายน้ำ ทิ้ง คว่ำ หรือใส่สารเคมีกำจัดลูกน้ำ แล้วแต่กรณีที่เหมาะสม ส่วนกรณีที่เป็นอาคารรกร้างว่างเปล่าหรือก่อสร้างไม่เสร็จ โดยไม่ปรากฎเจ้าของชัดเจนและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายให้ราชการส่วนท้องถิ่นดำเนินการทำลายแหล่งพันธุ์ยุงลายนั้นได้ เพราะหากมีการเฝ้าระวังที่ดีจะป้องกันไข้เลือดออกไม่ให้แพร่ระบาดได้ โดยอาจไม่ต้องใช้มาตรการกฎหมาย "วิธีการตรวจและเฝ้าระวังแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายนั้น สามารถดำเนินการได้โดยประชาชนอาจให้ความร่วมมือในการตรวจดูภาชนะหรือเศษวัสดุที่มีน้ำขังทั้งในหรือนอกอาคารว่ามีลูกน้ำหรือตัวโม่งยุงลายหรือไม่ ซึ่งจากสถิติทั่วไปพบว่า ลูกน้ำในภาชนะหรือเศษวัสดุที่มีน้ำขังจะเป็นลูกน้ำยุงลายร้อยละ 95 ขึ้นไป หากพบว่ามีลูกน้ำหรือตัวโม่งให้ประชาชนเทน้ำทิ้ง และเปลี่ยนน้ำในภาชนะทุกๆ 7วัน ก็จะเป็นการป้องกันมิให้เกิดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในครัวเรือนและชุมชนได้
        นอกจากนี้ การดำเนินการเมื่อเปิดภาคเรียน ควรมีการคัดกรองหรือวัดไข้เด็ก หากพบว่าเด็กนักเรียนมีไข้ร่วมกับไอหรือเจ็บคอให้สวมหน้ากากอนามัย แต่หากมีเพียงอาการไข้อย่างเดียว ให้สงสัยอาจเป็นไข้เลือดออก ควรแนะนำให้ทายากันยุงเพื่อลดการแพร่เชื้อจากผู้ป่วยไปสู่ยุงและยุงกัดเด็กคนอื่น และให้นักเรียนแกนนำสุขภาพแจ้งการป่วยของเพื่อนนักเรียน ควรปลูกตะไคร้หอม เพื่อใช้สำหรับกันยุงในห้องเรียน และขอความร่วมมือให้นักเรียนแกนนำสุขภาพรณรงค์ควบคุมลูกน้ำยุงลายเป็นประจำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะสัปดาห์ที่มีฝนตก ควรกำจัดขยะ และภาชนะเหลือใช้ที่จะกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายภายใน 7 วัน ที่สำคัญ การนอนกลางวันของเด็กในศูนย์เด็กเล็ก ควรตรวจดูมุ้งลวดของอาคารศูนย์เด็กเล็กไม่ให้ชำรุด หากไม่ได้อยู่ในห้องที่มีมุ้งลวด ควรให้เด็กนอนในมุ้ง และแนะนำผู้ปกครองให้ดูแลเด็กที่นอนกลางวันในบ้าน โดยให้นอนกางมุ้ง เพื่อป้องกันยุงกัด? รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
 
***
กลุ่มสื่อสารองค์กร/ 20 พฤษภาคม 2556
 

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน

ติดตามข่าวสารได้ที่

แทงบอลออนไลน์ || ดูบอลสด