กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ย้ำตักบาตรด้วยอาหารกระป๋องต้องถูกสุขลักษณะสภาพไม่บุบ ไม่เป็นสนิม ดูวันหมดอายุ พร้อมเผยพระสงฆ์-สามเณรอาพาธด้วยโรคระบบการย่อยและดูดซึมสารอาหาร ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน ชวนคนไทยตักบาตรด้วยอาหารที่สะอาด ปลอดภัย ปรุงประกอบถูกสุขลักษณะ และเป็นเมนูชูสุขภาพ ลดหวาน มัน เค็ม
ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ทุกวันนี้ประชาชนนิยมตักบาตรด้วยอาหารกระป๋อง อาทิ อาหารปรุงสำเร็จบรรจุกระป๋อง ผลไม้และน้ำผลไม้กระป๋อง รวมทั้งเครื่องดื่มหรือผลิตภัณฑ์ บำรุงร่างกาย ก่อนเลือกซื้อควรอ่านฉลากข้างกระป๋องให้ละเอียดโดยต้องมีเลขสารบบอาหารในเครื่องหมาย อย. (เลข 13 หลัก) สถานที่ผลิต วันเดือนปีที่ผลิตวันเดือนปีที่หมดอายุ ลักษณะของกระป๋องต้องไม่บวม ไม่บุบบู้บี้ ไม่เป็นสนิม ตะเข็บกระป๋องต้องไม่มีรอยรั่วหรือเป็นสนิม เพราะจะทำให้อาหารปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์และเจริญเติบโตส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้าน สี กลิ่น รสและคุณค่าของอาหาร โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียชนิดโบทูลินั่มจะสร้างสารพิษโบทูลินั่มที่ส่งผลต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง หากรับประทานเข้าสู่ร่างกายจะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน อาการอัมพาตของกล้ามเนื้อต่างๆ สายตาพร่ามองเห็นเป็นภาพซ้อน ซึม ง่วง กลืนอาหารไม่สะดวก ลิ้นและคออักเสบ เพราะไม่สามารถกลืนน้ำลายได้ กล้ามเนื้อต้นคออ่อนแรงจนยกหัวไหล่ไม่ขึ้น จะแสดงอาการให้เห็นภายใน 2-4 ชั่วโมง แต่สำหรับบางรายอาจใช้เวลานานถึง 12-36 ชั่วโมง หากไม่ได้รับการรักษาโดยทันทีอาจเสียชีวิตด้วยระบบหายใจล้มเหลว ดังนั้น หากพบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน
ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า การเปลี่ยนมาเลือกซื้ออาหารปรุงสำเร็จหรือปรุงประกอบด้วยตนเองจึงช่วยป้องกันการได้รับเชื้อดังกล่าวได้ แต่ประชาชนผู้ใจบุญควรต้องคำนึงถึงความสะอาด ปลอดภัย และได้คุณค่าทางโภชนาการ โดยควรเลือกซื้อจากร้านจำหน่วยอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ปรุงสุก ใหม่ มีการปกปิดป้องกันแมลงวันตอม ใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่สะอาด ปลอดภัย สังเกตผู้ขายที่มีสุขอนามัยที่ดี คือ ต้องสวมผ้ากันเปื้อน หมวกคลุมผม ตัดเล็บสั้น และใช้อุปกรณ์หรือสวมถุงมือในการหยิบจับอาหาร และอาหารที่เลือกตักบาตรควรเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพราะจากข้อมูลการรักษาผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลสงฆ์ ปี 2555-2557 พบว่าพระสงฆ์-สามเณรอาพาธด้วยโรค 3 อันดับแรก คือ โรคเกี่ยวกับระบบการย่อยและดูดซึมสารอาหาร ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการฉันอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ เพราะไม่สามารถเลือกฉันอาหารเองได้ ต้องฉันอาหารตามที่ฆราวาส ตักบาตรประกอบกับสถานภาพพระภิกษุสงฆ์ไม่เอื้อต่อการออกกำลังกายทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรค เพื่อสุขภาพที่ดีของพระสงฆ์ประชาชนจึงควรทำบุญตักบาตรด้วยอาหารเมนูชูสุขภาพ ลดหวาน มัน เค็ม
"ทั้งนี้ อาหารเมนูชูสุขภาพ ได้แก่ ข้าวกล้อง ผักต่างๆ เพื่อจะได้มีกากอาหารช่วยในการขับถ่าย เมนูที่ให้แคลเซียมสูง เช่น นมจืดหรือนมพร่องมันเนย ปลาเล็กปลาน้อย ผัดผักที่มีใบเขียวเข้ม เพื่อช่วยเสริมสร้างกระดูกไม่ให้เปราะบาง แตกหรือหักง่าย เมนูที่ให้ไขมันต่ำ เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา เพื่อลดพลังงานส่วนเกินที่จะไปสะสมในร่างกายซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคอ้วน เบาหวาน และความดันโลหิตสูง และอาหารที่ปรุงนั้นต้องเป็นอาหารที่ปรุงใหม่ๆ หรือสุกใหม่ๆมีรสที่ไม่หวานจัด มันจัด และเค็มจัด เน้นการต้ม นึ่ง อบ หรือทำเป็นน้ำพริก แต่หากต้องการปรุงอาหารประเภทผัดหรือกะทิก็ต้องใช้น้ำมันและกะทิแต่น้อย อาทิ เมนูลาบปลา ปลานึ่งผัก แกงส้ม แกงเลียง แกงเหลือง ต้มยำปลา ยำมะม่วง ยำสมุนไพร ควรมีผลไม้รสไม่หวาน เช่น ฝรั่ง ส้ม แตงโม มะละกอเป็นต้น? อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
***
สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง/ 29 กรกฎาคม 2558