กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตือน ผู้ที่ชอบดื่มน้ำหวาน น้ำอัดลม เครื่องดื่มชาเขียว กาแฟสด ชาชง ในปริมาณที่มากเกินไป เสี่ยงโรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ แนะควบคุมปริมาณ สั่งหวานน้อย
นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เข้าสู่ฤดูร้อน อุณหภูมิที่สูงขึ้น จึงทำให้รู้สึกกระหายน้ำการดื่มเครื่องดื่มที่มีรสหวานหรือน้ำอัดลมจึงเป็นทางเลือกลำดับต้นๆ ซึ่งผลการศึกษา โดยเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน ในปี 2559 พบว่า คนไทยบริโภคน้ำตาลเฉลี่ย 39.4 กิโลกรัม หรือ 108 กรัมต่อวัน หรือ27 ช้อนชาต่อวัน ซึ่งมากว่าที่องค์การอนามัยโลกแนะนำถึง 5 เท่า และในปี 2560 พบอัตราโรคอ้วนในวัยเรียน ร้อยละ 10.15 โดยแหล่งอาหารที่สำคัญของการได้รับน้ำตาลมากเกินของเด็กไทย ได้แก่ น้ำอัดลมและนมเปรี้ยว ซึ่งการได้รับปริมาณน้ำตาลมากเกินความจำเป็นจะทำให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญหรือนำไปใช้ไม่หมด กลายเป็นไขมันสะสมในร่างกาย นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายหลั่งสารอินซูลินออกมามากเกินจำเป็น ทำให้ใน ระยะยาวร่างกายจะผลิตอินซูลินได้น้อยลง หรืออินซูลินที่ผลิตออกมาด้อยประสิทธิภาพจนทำให้ร่างกายเกิดโรคเบาหวานและโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอื่นๆ ตามมา จึงควรเริ่มต้นกินหวานให้น้อยลงสั่งหวานน้อยเป็นประจำให้เป็นนิสัย เป็นการสร้างความเคยชินในการรับรสของตนเองและกลายเป็นคนไม่ติดหวาน ลดการเติมน้ำตาลทุกครั้งทั้งใน อาหารคาว อาหารหวาน แม้กระทั่งการปรุงรสก๋วยเตี๋ยวก็ไม่มีความจำเป็นต้องเติมน้ำตาลหรือเครื่องปรุงรสอื่นเพิ่มอีก หรือหากมื้อใดที่รู้ว่ากินอาหารที่มีน้ำตาลไปแล้วก็ควรลดในมื้อต่อไป และพยายามควบคุมการกินน้ำตาลแต่ละวันให้ ไม่เกิน 6 ช้อนชา จะดีกว่าและกินอาหารธรรมชาติเป็นหลัก เช่น หากรู้สึกอยากกินขนมหวาน ให้กินผลไม้ทดแทน หรือหากรู้สึกอยากน้ำหวานลองเลือกเป็น น้ำผลไม้สดทดแทน
ทางด้าน ทันตแพทย์หญิงปิยะดา ประเสริฐสม ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันมีเครื่องดื่มรสหวานในท้องตลาดหลายชนิดที่ได้รับความนิยม เช่น น้ำอัดลม เครื่องดื่มชาเขียว น้ำสมุนไพร น้ำผลไม้พร้อมดื่ม และเครื่องดื่มกาแฟสด ซึ่งเครื่องดื่มรสหวานเหล่านี้จะมีส่วนประกอบของน้ำตาลปริมาณมากเกินปริมาณ ที่แนะนำต่อวันคือไม่เกิน 24 กรัม หรือ 6 ช้อนชา โดยน้ำอัดลมชนิดน้ำดำกระป๋องปริมาณ 325 มิลลิลิตร มีน้ำตาลประมาณ 31 กรัม หรือ 8 ช้อนชา ต้องใช้เวลาเผาผลาญด้วยการเดินอย่างน้อย 18 นาที หรือเดินขึ้นบันไดหรือ วิ่งเหยาะอย่างน้อย 12 นาที น้ำอัดลมน้ำสีและน้ำใสกระป๋องปริมาณ 325 มิลลิลิตร มีน้ำตาลประมาณ 39 กรัม หรือ 10 ช้อนชา ต้องใช้เวลาเผาผลาญด้วยการเดินอย่างน้อย 22 นาที หรือเดินขึ้นบันไดหรือวิ่งเหยาะอย่างน้อย 16 นาที เครื่องดื่มชาเขียวน้ำผึ้งมะนาวขวดปริมาณ 420 มิลลิลิตร มีน้ำตาลประมาณ 49 กรัมหรือ 12 ช้อนชา ต้องใช้เวลา เผาผลาญด้วยการเดินอย่างน้อย 27 นาที หรือเดินขึ้นบันไดหรือวิ่งเหยาะอย่างน้อย 19 นาที เครื่องดื่มสมุนไพรปริมาณ 380 มิลลิลิตร มีน้ำตาลประมาณ 40 กรัม หรือ 10 ช้อนชา ต้องใช้เวลาเผาผลาญด้วยการเดินอย่างน้อย 22 นาที หรือเดินขึ้นบันไดหรือวิ่งเหยาะอย่างน้อย 16 นาที และกาแฟสดหรือชาชงแก้วขนาดกลาง มีน้ำตาลประมาณ 9-10 ช้อนชา ต้องใช้เวลาเผาผลาญด้วยการเดินอย่างน้อย 20-22 นาที หรือเดินขึ้นบันไดหรือวิ่งเหยาะอย่างน้อย 14-16 นาที ดังนั้น การดื่มน้ำสะอาดจะดีที่สุด ไม่เสี่ยงต่อโรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และหัวใจ
***
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 17 เมษายน 2561