คุณกำลังมองหาอะไร?

ข่า

ข่าวแจก"สธ. แนะหญิงตั้งครรภ์ เด็ก ผู้สูงอายุ เลี่ยงตากแดดนาน หวั่นโรคลมแดด"

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

07.04.2558
7
0
แชร์
07
เมษายน
2558

ข่าวแจก"สธ. แนะหญิงตั้งครรภ์ เด็ก ผู้สูงอายุ เลี่ยงตากแดดนาน หวั่นโรคลมแดด"

 
           กระทรวงสาธารณสุข แนะ หญิงตั้งครรภ์ เด็ก ผู้สูงอายุ เลี่ยงการทำงานหรือออกกำลังกายกลางแดดเป็นเวลานาน เสี่ยงเกิดโรคฮีทสโตรก Heat Stork หรือโรคลมแดด ควรทำงานหรือออกกำลังกายในสถานที่ร่ม อากาศถ่ายเทสะดวก และดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
          ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน ของทุกปี ประเทศไทยจะมีอากาศที่ร้อนจัดมากขึ้นทุกปี ประชาชนที่ทำงานหรือออกกำลังกายกลางแดดเป็นเวลานาน อาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำและเสี่ยงต่อการเป็นโรคลมแดด หรือโรคฮีทสโตรก โดยคนที่มีอาการคือคนที่ ออกกำลังกาย หรือทำงานในสภาพอากาศร้อนจัด ระบบระบายอากาศไม่ดี ใส่เสื้อผ้าหนาหรือกันระเหยของเหงื่อ ดื่มน้ำน้อย รวมทั้งในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่เป็นโรคอ้วนถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแลสุขภาพตนเองเป็นพิเศษซึ่งโรคลมแดดหรือโรคฮีทสโตรก เกิดจากการที่ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป ไม่สามารถปรับอุณหภูมิในร่างกายได้ทัน ทำให้มีอุณหภูมิในร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส รวมถึงการขาดน้ำและเกลือแร่ร่วมด้วยเป็นเวลานาน สัญญาณสำคัญของโรคนี้คือไม่มีเหงื่อออก ตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ ต่างจากการเพลียแดดทั่วไปที่จะพบมีเหงื่อออกด้วย ผู้ที่เป็นฮีทสโตรกจะกระหายน้ำมาก อ่อนเพลีย เมื่อยล้า คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ความดันต่ำ หน้ามืด หายใจเร็ว และอาจรุนแรงถึงขั้น เพ้อ ชัก ไม่รู้สึกตัว ตับและไตวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ ทำให้ช็อก หมดสติ และถึงขั้นเสียชีวิตได้
            ทางด้าน ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการทำงานหรือออกกำลังกายกลางแดดเป็นเวลานานในวันที่อากาศร้อน หากต้องอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนหรือออกกำลังกายกลางสภาพอากาศร้อน ควรดื่มน้ำให้ได้ชั่วโมงละ 1 ลิตร แม้จะไม่รู้สึกกระหายน้ำก็ตาม หรือแม้ว่าจะทำงานในที่ร่มก็ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6 ? 8 แก้ว ต่อวัน เพราะสามารถป้องกันภาวะขาดน้ำได้ ควรออกกำลังกายในที่ร่ม เช่น โรงยิมหรือเลือกออกกำลังกายในช่วงเช้าและช่วงเย็น นอนพักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด นอกจากนี้ ควรสวมเสื้อผ้าที่มี สีอ่อน ไม่หนา น้ำหนักเบา และสามารถระบายความร้อนได้ดี รวมถึงการใช้โลชั่นกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไปทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน และควรทาซ้ำบ่อยๆ ถ้าต้องถูกแดดนานๆ สำหรับเด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่เป็นโรคอ้วนต้องให้การดูแลเป็นพิเศษโดยให้อยู่ในสภาพแวดล้อมหรือพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ควรให้ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคอ้วนออกกำลังกายกลางแจ้ง หรือทำกิจกรรมที่เหนื่อยจนเกินไป จนถึงขั้นหอบ หญิงมีครรภ์หากต้องเดินทางไกล ควรมีผู้ดูแลร่วมเดินทางด้วยเพื่อดูแลอย่างใกล้ชิดและป้องกันอุบัติเหตุหากมีอาการหน้ามืด วิงเวียนหรือเป็นลมเมื่อเจออากาศที่ร้อนจัดภายนอก และไม่ควรทิ้งเด็กหรือผู้สูงอายุ ให้อยู่ในรถที่ปิดสนิท และจอดกลางแจ้งตามลำพังเป็นเวลานาน
             "สำหรับประชาชนทั่วไปหากพบผู้ที่มีอาการตัวร้อนจัด แต่ไม่มีเหงื่อออกมาก หน้าซีด ตะคริว อ่อนเพลีย มึนงง ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน เป็นลม อาจเป็นโรคลมแดดหรือโรคฮีทสโตรก สามารถดูแลเบื้องต้นด้วยการนำเข้า ที่ร่ม ให้นอนราบและยกเท้าสูงทั้ง 2 ข้าง ถอดเสื้อผ้าออก ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามซอกตัว คอ รักแร้ เชิงกราน ศีรษะ และใช้พัดลมเป่าระบายความร้อน และจากนั้นรีบนำส่งสถานพยาบาลใกล้บ้านโดยเร็วที่สุด? อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
 
*** 
สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง/ 5 เมษายน 2558

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน

ติดตามข่าวสารได้ที่

แทงบอลออนไลน์ || ดูบอลสด UFABET