กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยผลสำรวจอนามัยโพลในกลุ่มวัยรุ่นไทย พบส่วนใหญ่ไม่เห็นความจำเป็นต่อการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่ง มองเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ผิดขนบธรรมเนียมประเพณี พร้อมขอภาครัฐจัดสถานบริการเป็นศูนย์ให้คำปรึกษาเรื่องเพศศึกษา และมองวันวาเลนไทน์เป็นวันธรรมดาเหมือน ทุกวัน
วันนี้ (11 กุมภาพันธ์ 2552) นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในการแถลงข่าว ?วัยรุ่น...วัยรัก? ณ ห้องประชุมกำธร สุวรรณกิจ อาคาร 1 ชั้น 1 กรมอนามัย ว่า วัยรุ่นเป็นกลุ่มที่ถูกมองจากสังคมว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหาสังคมหลากหลายตามมาหากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ทั้งปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียน การตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ การทำแท้ง การติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย และโรคเอดส์ ซึ่งนับวันประชากรที่เป็นโรคดังกล่าวมีจำนวนเพิ่มขึ้น แต่จากการสำรวจของอนามัยโพลในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา อายุ 14-24 ปี จำนวน 1,623 คน ในจังหวัดเชียงใหม่ นครศรีธรรมราช กรุงเทพมหานคร และเขตปริมณฑล เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับความคิดเห็นของวัยรุ่นไทยที่มีต่อเรื่องเพศสัมพันธ์ พบว่า วัยรุ่นร้อยละ 80.6 คิดว่าไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน ขณะที่ร้อยละ 59.3 คิดว่าการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ผิดขนบธรรมเนียมประเพณี ร้อยละ 27.6 อยากประพฤติตัวให้พ่อแม่ภูมิใจ และสำหรับสิ่งที่วัยรุ่นทั้งหลาย ใช้เป็นเครื่องการันตีความรักระหว่างกันคือ ต้องให้พ่อแม่ผู้ปกครองแต่ละฝ่ายรับรู้ ร้อยละ 61.7 รองลงมาคือ การพูดคุยกันทุกวันอย่างสม่ำเสมอร้อยละ 49.1
นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ผลการสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า การรับรู้ข้อมูลข่าวสารเรื่องเพศศึกษาส่วนใหญ่วัยรุ่นได้รับจากครู อาจารย์ ร้อยละ 69.7 อินเตอร์เน็ต ร้อยละ 58.8 และ โทรทัศน์ ร้อยละ 53.9 โดยเฉพาะอินเตอร์เน็ตพบว่าวัยรุ่น ร้อยละ 60.5 ต้องการให้มีข้อมูลเรื่องเพศศึกษา และร้อยละ 46.1 ต้องการให้สถานบริการของรัฐจัดเป็นศูนย์ให้คำปรึกษาเรื่องเพศศึกษา นอกจากนี้ จากผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าวัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ร้อยละ 88.8 รู้ว่าการใช้ถุงยางอนามัยช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และมีถึงร้อยละ 42.1 ที่ยังเข้าใจผิดว่าการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดจะช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่อไปอีกว่า การสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องอนามัยการเจริญพันธุ์ ลดปัจจัยเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ และสร้างความรู้เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย จึงเป็นบทบาทของ กรมอนามัยที่ต้องดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยมีนโยบายที่จะดำเนินการลดอัตราการตั้งครรภ์ในสตรีที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี ให้ต่ำกว่าร้อยละ 10 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนที่อายุยังน้อย ขาดการป้องกัน ทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ เป็นการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ หรือบางครั้งตั้งใจตั้งครรภ์ เช่น กลุ่มวัยรุ่นที่จบการศึกษาภาคบังคับแล้วไม่ได้ศึกษาต่อเมื่อมีบุตรเร็วก็จะขาดโอกาสในการศึกษาหรือพัฒนาตนเองให้เป็นวัยทำงานที่เต็มศักยภาพ
?ทั้งนี้ จากข้อมูลการเกิดของกระทรวงสาธารณสุข พบการตั้งครรภ์และคลอดในกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ในปี 2547 จำนวน 152,562 คน จากจำนวนการคลอดทั้งหมด 822,572 คน คิดเป็นร้อยละ 18.5 และปี 2550 จำนวน 155,978 คน จากจำนวนคลอดทั้งหมด 811,384 คน คิดเป็่นร้อยละ 19.2 แนวทางการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา กรมอนามัยได้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการผลักดันให้มีการจัดการเรียนการสอนเพศศึกษาจนสามารถบรรจุวิชาเพศศึกษาหรือชีวิตและครอบครัวศึกษาในสาระการเรียนรู้วิชาสุขศึกษาและพลศึกษาของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 อีกทั้งสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยราชภัฏที่มีความพร้อมได้จัดการเรียนการสอนเพศศึกษาและอนามัยการเจริญพันธุ์ในระดับปริญญาตรีด้วย? นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ กล่าว
นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับเทศกาลวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งหลายคนมักจับตามองว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่จะใช้วันดังกล่าวสร้างประสบการณ์กับคู่รักอย่างลึกซึ้งนั้น จากผลการสำรวจความคิดเห็นของวัยรุ่นที่มีต่อวันวาเลนไทน์ กลับพบว่า ร้อยละ 51 รู้สึกเฉย ๆ เหมือนกับทุก ๆ วัน ขณะที่ร้อยละ 37.4 คิดว่าเป็นวันพิเศษสำหรับคนรัก โดยเลือกที่จะใช้ช่วงเวลาในวันดังกล่าวดูภาพยนตร์และเที่ยวห้างสรรพสินค้า นอกจากนี้ วัยรุ่นเลือกที่จะคบหาคู่รักหรือแฟนโดยมองที่นิสัยและความรับผิดชอบถึงร้อยละ 84.5 ส่วนเรื่องรูปร่างหน้าตา การแต่งกาย เพียงร้อยละ 19.8
?จึงนับเป็นช่วงโอกาสสำคัญที่พ่อแม่ ผู้ปกครองจะปลูกฝังให้เยาวชนตระหนักถึงการมีพฤติกรรมอนามัยการเจริญพันธุ์ที่เหมาะสม พร้อมทั้งสร้างความรัก ความอบอุ่น ให้เกิดขึ้นภายในครอบครัว เรียนรู้และเข้าใจความต้องการของวัยรุ่น ตลอดจนให้คำแนะนำในการเลือกคบเพื่อนต่างเพศ เพราะสถาบันครอบครัวแม้จะเป็นสถาบันที่เล็กที่สุดแต่ก้มีความสำคัญที่สุดเช่นเดียวกัน ซึ่งช่วยให้วัยรุ่นห่างไกลจากพฤติกรรมเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ตามมา ส่งผลให้สามารถลดปัญหาการทำแท้งและปัญหาโรคเอดส์ ที่ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทยในขณะนี้ลงได้? อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
***
ฝายประชาสัมพันธ์ / 11 กุมภาพันธ์ 2552