กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดแข่งขันส้มตำสุขภาพ ชิงเงินรางวัล 5,000 บาท หนุนสร้างองค์กรต้นแบบในการลดน้ำหนักตามนโยบายลดอ้วน ลดพุง
นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการแข่งขันเมนูชูสุขภาพสู่กรมอนามัยไร้พุง ณ โรงอาหารกรมอนามัย ว่า ส้มตำถือเป็นอาหารจานหลักและเป็นที่นิยมของผู้คนเป็นจำนวนมาก เหตุด้วยที่วิธีการทำไม่ยุ่งยากและมีส่วนประกอบที่ให้คุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลายแก่ร่างกาย เนื่องจากเป็นอาหารที่ให้ไขมันต่ำและไม่มีคลอเรสเตอรอล เพราะเครื่องปรุงส่วนใหญ่เป็นผักผลไม้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมไขมันในเลือด ซึ่งดีกว่าการบริโภคอาหารตามแบบตะวันตก เช่น ฟาสต์ฟู้ด ที่มีแป้ง ไขมัน และน้ำตาล เป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ร่างกายได้ปริมาณที่มากเกินความต้องการ ส่งผลให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน และไขมันในเส้นเลือดตามมา ต่างกับผักผลไม้ที่เป็นส่วนผสมในส้มตำ ส่วนใหญ่ยังมีเส้นใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ซึ่งจะเพิ่มปริมาณใยอาหารในกระเพาะ ทำให้อิ่มเร็ว ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนตัวของอุจจาระ ทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น ขณะเดียวกันจะช่วยในการขับถ่ายของเสียรวมทั้งสารพิษต่าง ๆ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ ใยอาหารชนิดนี้จึงให้ผลเหมือนยาระบายธรรมชาติช่วยป้องกันโรคท้องผูกและริดสีดวงทวารด้วย
นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ส้มตำจึงเป็นอีกหนึ่งเมนูที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ตามนโยบายลดอ้วน ลดพุง ของกรมอนามัยที่ส่งเสริมให้ประชาชนเลือกกินอาหารที่เป็นเมนูชูสุขภาพ อันจะช่วยลดโรคเรื้อรังทางโภชนาการ โดยเฉพาะโรคอ้วน ซึ่งนับเป็นปัญหาสาธารณสุขที่คุกคามสุขภาพของคนไทย นอกจากนี้ ผู้ปรุงก็ควรคำนึงถึงความสะอาด ปลอดภัย และสุขอนามัยของผู้บริโภคเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการเลือกภาชนะใส่อาหารที่สะอาด อุปกรณ์เครื่องใช้ที่มีการปกปิดอย่างมิดชิด หรือการปรุงส้มตำประเภทปู ปลาร้า ก็ควรมีการนำมาต้มให้สุกเสียก่อน เพื่อความปลอดภัย
?ประกอบกับขณะนี้กรมอนามัยได้ดำเนินงานเพื่อเป็นต้นแบบองค์กรไร้พุง จึงได้จัดกิจกรรมแข่งขันส้มตำสุขภาพขึ้น กลุ่มเป้าหมายคือเจ้าหน้าที่ของกรมอนามัยได้ร่วมกิจกรรมเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการบริโภคอาหารที่ได้คุณค่าทางโภชนาการและเป็นเมนูชูสุขภาพ สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการแข่งขันรอบคัดเลือก มีทีมเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 15 ทีม และคัดเหลือ 8 ทีม จากนั้นจะคัดให้เหลือเพียง 4 ทีม เพื่อแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ โดยทีมชนะเลิศจะได้รับรางวัล5,000 บาท รองชนะเลิศ 3 รางวัล ๆ ละ 2,500 บาท? นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ กล่าว
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า การเลือกกินอาหารที่เป็นเมนูชูสุขภาพนอกจากจะให้สารอาหารที่ร่างกายต้องการในปริมาณที่เหมาะสมแล้วนั้น เมนูชูสุขภาพยังได้มีการกำหนดมาตรฐาน 4 ด้านสำคัญ ได้แก่ 1).ปรุงจากอาหารอย่างน้อย 4 หมู่ ถ้ากินผลไม้ด้วยก็จะได้ครบ 5 หมู่ 2). มีปริมาณไขมันไม่เกินร้อยละ 25-30 ของการกระจายตัวของพลังงานในอาหารทั้งหมด 3). ปรุงด้วยอาหารที่สด สะอาด ปลอดภัย จากสารพิษ ปนเปื้อน และ 4).รสไม่หวานและเค็มจัด อันจะส่งผลดีในเรื่องการควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนด้วย
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรมอนามัย