กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ชวนทุกบ้านและสถานที่ทำงานช่วยกันทำความสะอาดพื้นที่ของตัวเอง ลดการสะสมและแพร่กระจายของเชื้อโรค เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน
นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ประชาชนต้องใส่ใจเรื่องความสะอาดและ ความปลอดภัยในบ้านและสถานที่ทำงาน โดยช่วยกันทำความสะอาดพื้นที่ของตัวเอง และส่งเสริมพฤติกรรมสุขอนามัยที่ถูกต้อง โดยมีหลักทำความสะอาดง่ายๆ 5 ขั้นตอน คือ 1) เก็บสิ่งของเครื่องใช้ โดยจัดวางของที่จำเป็นให้เป็นระเบียบ ไม่ควรเก็บสะสมสิ่งของที่ไม่จำเป็นไว้ เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก 2) กวาดหยากไย่ ฝุ่นละออง และเศษขยะ 3) เช็ดถูคราบสกปรก ทำความสะอาดให้ทั่วถึง 4) ล้างทำความสะอาดส้วมสม่ำเสมอ และ 5) คัดแยกขยะตามประเภท ได้แก่ ขยะอินทรีย์ เช่น เศษอาหาร เศษผัก ผลไม้ เป็นต้น ควรเก็บใส่ถุงที่ไม่ฉีกขาดง่าย ไม่รั่วซึม มัดปากถุงให้แน่น นำไปทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ แก๊สชีวภาพ ส่วนขยะรีไซเคิล เช่น แก้ว กระดาษ ขวดพลาสติก โลหะ ให้เก็บรวบรวมนำไปจำหน่าย สำหรับขยะอันตราย เช่น ถ่านไฟฉาย แบตเตอรี่ หลอดไฟ ให้เก็บในภาชนะบรรจุเดิมหรือภาชนะที่ปิดมิดชิด ปลอดภัย รวบรวมและนำไปไว้ที่จุดทิ้งขยะอันตราย ส่วนขยะทั่วไป ซึ่งเป็นขยะที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้แล้ว ให้เก็บรวบรวมใส่ถุงที่มีความเหนียวทนทาน ไม่ฉีกขาดง่าย ไม่รั่วซึม และมัดปากถุงให้แน่น ทิ้งลงถังที่มีฝาปิดมิดชิด
"ทั้งนี้ ขณะทำความสะอาดควรสวมถุงมือ หน้ากากปิดจมูกและปากป้องกันทุกครั้ง ส่วนวิธีกำจัดตัวไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้จากตัวไรฝุ่นภายในห้องนอนและภายในบ้านนั้น ให้หมั่นทำความสะอาด ปัดกวาดเช็ดถูบ้านเป็นประจำ และควรซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน มุ้ง ผ้าห่ม และพรมเช็ดเท้า ทุก 1-2 สัปดาห์ จะช่วยลดสารก่อภูมิแพ้ นอกจากนี้ ทุกบ้านและสถานที่ทำงานทุกแห่งต้องหมั่นดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยและรักษาความสะอาดพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดอุบัติเหตุและการสะสมของเชื้อโรค ยุง หนู แมลงสาบ และสัตว์มีพิษ ซึ่งเป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออกและโรคติดต่อต่างๆ ตามมา? รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว
***
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ/ 27 พฤศจิกายน 2561