กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สนองนโยบายรัฐบาล ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ จัดอบรมโค้ชโชป้า แอนด์ ชายป้า ส่งเสริมกิจกรรมทางกายแก่เด็กวัยรุ่นและเด็กอ้วน
นายแพทย์ณัฐพร วงษ์ศุทธิภากร รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า กรมอนามัยได้จัดอบรมหลักสูตรโชป้า แอนด์ ชายด์ป้าโค้ช เพื่อให้ครู นักเรียน และบุคลากรสาธารณสุขที่ดูแลสุขภาพเด็กมีความรู้ มีแนวทางและเครื่องมือ ในการส่งเสริมให้เด็กที่เข้าร่วมโครงการได้เรียนรู้การพัฒนาสมรรถภาพทางกาย สร้างความมุ่งมั่นในการดำเนินชีวิตของตนเอง สามารถเลือกทำในสิ่งที่เกิดประโยชน์ต่อตนเอง สร้างเสริมและเฝ้าระวังสมรรถภาพทางกาย ให้เด็กมี ความพร้อมในการเรียนรู้ทางวิชาการและพัฒนาคุณภาพการเรียนที่ดีขึ้น นำไปสู่การลดการเกิดโรคอ้วนและ โรคไม่ติดต่อเรื้อรังในผู้ใหญ่ อีกทั้งยังเป็นการเริ่มต้นพัฒนาโรงเรียนต้นแบบส่งเสริมกิจกรรมทางกายและสุขภาวะ เพื่อขับเคลื่อนแนวคิดสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป เนื่องจากปัจจุบันปัญหาเรื่องเด็กปฏิบัติกิจกรรมทางกาย ไม่เพียงพอต่อการมีสุขภาพดีมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลสถานการณ์ด้านการมีกิจกรรมทางกายของประชากรไทย ระหว่างปี 2555 - 2557 โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่า อัตราการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอในกลุ่มประชากรวัยเด็กลดลงประมาณร้อยละ 5 คือ จากประมาณร้อยละ 68 ในปี 2555 เป็นร้อยละ 63 ในปี 2557 และยังพบว่าเด็กๆ ใช้เวลาไปกับพฤติกรรมนั่งๆ นอนๆ หรือเคลื่อนไหวน้อย (Sedentary Behavior) ได้แก่ การนั่งดูโทรทัศน์ ใช้คอมพิวเตอร์ เข้าร้านเกมส์ หรืออินเตอร์เน็ต รวมถึงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาประเภทต่างๆ วันละหลายชั่วโมง ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา
นายแพทย์ณัฐพร กล่าวต่อไปว่า การพัฒนานโยบายส่งเสริมกิจกรรมทางกายในโรงเรียน และการพัฒนาคุณภาพโปรแกรมส่งเสริมกิจกรรมทางกายในโรงเรียนให้สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนและเด็ก ด้วยโครงการโชป้า แอนด์ ชายด์ป้า เกมส์ ลดเรียน เพิ่มรู้ สู่อาเซียน จะช่วยให้เด็กได้สนุกสนานกับกิจกรรมทางกายที่มีความหลากหลาย เช่น จิงโจ้ FUN for FIT เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกแบบแรงกระแทกสูงสำหรับเด็ก มีการกระโดดด้วยท่าทางที่หลากหลาย ทั้งกระโดดขาเดียว และขาคู่ พร้อมทั้งใช้แขนประกอบการเคลื่อนไหว สามารถปฏิบัติได้ทั้งเป็นคู่และเดี่ยว เพื่อให้เด็กได้พัฒนาหัวใจ ปอด หลอดเลือด กล้ามเนื้อ เอ็นข้อต่อ และกระดูก ให้มีความแข็งแรงและอดทน กระตุ้นการเจริญเติบโตและส่งเสริมการหลั่งของโกรทฮอร์โมน ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญที่ทำให้เด็กเจริญเติบโต สูงสมส่วน สมองดี และแข็งแรง ส่วนเก้าอี้ขยี้พุงเป็นโปรแกรมออกกำลังกายแบบแอโรบิก ผสมผสานการฝึกเคลื่อนไหวร่างกายแบบแรงต้านบนเก้าอี้ เหมาะสำหรับทุกกลุ่มวัย รวมถึงผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น เข่าเสื่อม ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก สามารถกระทำได้ในพื้นที่จำกัด ทั้งในบริเวณโต๊ะทำงาน ห้องประชุม หน้าโทรทัศน์ ในห้องนั่งเล่น สนามเด็กเล่น หรือสวนสาธารณะ โดยมีอุปกรณ์คือ เก้าอี้เพียงตัวเดียวที่แข็งแรงมั่นคง สามารถรองรับน้ำหนักตัวได้ดี และจิงโจ้ยืดตัว จะสร้างเสริมความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ เอ็นข้อต่อ ทำให้เกิดการยืดของแนวกระดูก ช่วยให้ผ่อนคลาย เพิ่มความสูง ป้องกันการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย
"ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีการอบรมทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ รุ่นที่ 1 จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 29 ? 31 พฤษภาคม 2559 รุ่นที่ 2 จังหวัดกำแพงเพชร เมื่อวันที่ 5 ? 7 มิถุนายน 2559 รุ่นที่ 3 จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 14 ? 16 มิถุนายน 2559 และล่าสุดรุ่นที่ 4 จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 19 -21 มิถุนายน 2559 มีผู้เข้ารับการอบรมรุ่นละ 60 คน และมีหน่วยงานที่สนใจโครงการขอส่งบุคลากรเข้ารับการอบรมเพิ่มเติมรุ่นละประมาณ 20 คน รวมทั้ง 4 รุ่น มีผู้ผ่านการอบรมแล้วทั้งสิ้น 320 คน ประกอบด้วย ครูและนักเรียน บุคลากรสาธารณสุขที่รับผิดชอบงานออกกำลังกาย งานเด็กวัยเรียน วัยรุ่น เด็กอ้วน และงานโภชนาการ จากศูนย์อนามัย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และสำนักงานสาธารณสาธารณสุขอำเภอ โดยเข้ารับฟังการบรรยาย ชมการสาธิต ฝึกปฏิบัติ และประเมินสมรรถภาพทางกาย และที่สำคัญที่สุดต้องมีการนำไปสู่การปฏิบัติจริงจึงจะเกิดผลสำเร็จอย่างแท้จริง? รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง/ 1 กรกฎาคม 2559