ข่า
วแจก "กรมอนามัย จับมือ VRH ยกเครื่องส้วมโรงเรียน ตชด. บ้านปิล๊อกคี่ สร้างสุขอนามัยเด็กวัยเรียนเปิดตัวส้วมเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพฯ แห่งแรกของไทย"
กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
02
เมษายน
2557
ข่าวแจก "กรมอนามัย จับมือ VRH ยกเครื่องส้วมโรงเรียน ตชด. บ้านปิล๊อกคี่ สร้างสุขอนามัยเด็กวัยเรียนเปิดตัวส้วมเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพฯ แห่งแรกของไทย"
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับบริษัท วี อาร์ แฮนด์เดิล จำกัด และพันธมิตรหลายองค์กร ส่งมอบ ส้วมสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นพื้นที่แรกของประเทศ จำนวน 24 ห้อง หวังให้เด็กนักเรียนมีส้วมที่สะอาด เพียงพอ และปลอดภัย พร้อมปลูกฝังพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกต้อง ลดปัจจัยเสี่ยงโรคอุจจาระร่วง
วันนี้ (1 เมษายน 2557) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังพิธีส่งมอบและเปิดป้าย "ส้วมสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ โรงเรียนตำรวจตระเวน ชายแดนบ้านปิล๊อกคี่ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ว่า โครงการสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพ-รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2557 ด้วยการปรับปรุงและสร้างส้วมให้กับโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ 60 แห่ง จำนวน 600 ห้องส้วม เพื่อให้โรงเรียนได้มีส้วมสะอาดได้มาตรฐาน สร้างอนามัยพื้นฐานให้กับเด็กนักเรียน เพราะหากห้องส้วมไม่สะอาด สภาพห้องส้วมเก่า การระบายอากาศไม่ดี มีกลิ่นเหม็น และไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียน จะส่งผลต่อสุขภาพและเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะโรคอุจจาระร่วงได้
ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านปิล๊อกคี่ เป็นโรงเรียนแห่งแรกที่มีการพัฒนาส้วมให้ได้มาตรฐาน เพราะจากการสำรวจพบว่าตัวอาคารห้องน้ำชำรุดและทรุดโทรมขาดการดูแลอย่างถูกวิธี อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน อาทิ ก๊อกน้ำ อ่างน้ำ อีกทั้งระบบต่าง ๆ ของห้องส้วมยังไม่ถูกหลักสุขอนามัย ทั้งระบบส้วม บ่อบำบัด ระบบระบายน้ำ ระบบระบายอากาศ การถ่ายเท และแสงสว่างภายในอาคาร ซึ่งการปรับปรุงครั้งนี้กรมอนามัยได้รับการสนับสนุนจากบริษัท วี อาร์ แฮนด์เดิล จำกัด ดำเนินการปรับปรุงส้วม 24 ห้อง ประกอบด้วย ห้องน้ำหญิง จำนวน 10 ห้อง ห้องน้ำชาย จำนวน 8 ห้อง พร้อมแยกส่วนปัสสาวะ ห้องน้ำคณะผู้ติดตาม จำนวน 2 ห้อง และห้องน้ำอาคารพักพักเรียนบ้านไกล จำนวน 4 ห้อง นอกจากนี้บริษัทได้สนับสนุนอุปกรณ์ก๊อกน้ำและอุปกรณ์สำหรับจัดทำห้องน้ำ ในอีก 71 โรงเรียนทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังได้รับมอบสิ่งของสนับสนุนสิ่งจากพันธมิตรหลากหลายองค์กร ได้แก่ อุปกรณ์การเรียน จากการประปาส่วนภูมิภาค ผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ ไมโล โกโก้ครันซ์ จากบริษัทเนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผลิตภัณฑ์โรซ่า จากบริษัท ไฮคิว ผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด อุปกรณ์กีฬา จากมูลนิธิ ฮารนามซิงห์ ฮารบันส์กอร์ (สัจจเทพ) เป็นต้น
"ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติได้รายงานว่าในจำนวนประขากร 7,000 ล้านคน ไม่มีห้องส้วมใช้ 2,500 ล้านคน และ มี 1,100 ล้านคน ขับถ่ายในที่สาธารณะ กลายเป็นสิ่งคุกคามต่อสุขภาพของประชาชน เนื่องจากในแต่ละปีมีเด็กวัยต่ำกว่า 5 ขวบ จำนวน 760,000 คนทั่วประเทศ เสียชีวิตจากการเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินอาหาร ซึ่งจากการศึกษาได้พิสูจน์แล้วว่าถ้ามีการสุขาภิบาลดีสามารถลดจำนวนผู้ตายจากโรคอุจจาระร่วงได้มากกว่าร้อยละ 32 และการมีสุขอนามัยที่ดี เช่น ส่งเสริมให้มีการล้างมือจะช่วยลดอัตราตายได้มากกว่าร้อยละ 45 ชี้ให้เห็นว่าการป้องกันเด็กให้สามารถมีชีวิตรอดได้โดยการดำเนินงานสุขาภิบาลขั้นพื้นฐานให้ดีนั้นไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณมาก ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวองค์การสหประชาชาติจึงได้ประกาศเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (MDG) ว่า ในปี ค.ศ. 2025 ประชากรทั่วโลกทุกคนจะต้องเข้าถึงน้ำสะอาด การสุขาภิบาลและการมีสุขอนามัยดี? ดร.นพ.พรเทพ กล่าว
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า การส่งมอบส้วมสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนส้วมในโรงเรียนให้ได้มาตรฐาน HAS คือ สะอาด (Healthy) เพียงพอ (Accessibility) และ ปลอดภัย(Safety) เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจถึงความสำคัญของส้วม และเรียนรู้วิธีการใช้ส้วมที่ถูกต้อง สร้างทัศนคติที่ดีในการใช้พื้นที่สาธารณะร่วมกัน อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างให้เด็กเกิดความเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง มีส่วนร่วมในการคิดวางแผนและตัดสินใจที่จะร่วมกันรักษาดูแลและจัดการส้วมของโรงเรียนให้คงสภาพที่สะอาดน่าใช้เสมอ พร้อมทั้งปลูกฝังให้เด็กนักเรียนมีพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกสุขลักษณะ คือ 1) ไม่ขึ้นไปเหยียบบนโถส้วมแบบชักโครก 2) ไม่ทิ้งวัสดุอื่นใดนอกจากกระดาษชำระลงโถส้วม 3) ราดน้ำหรือกดชักโครกทุกครั้งหลังการใช้ส้วม และ 4) ล้างมือทุกครั้งหลังการใช้ส้วม เพื่อช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดส้วมในโรงเรียนและลดจุดเสี่ยงของการเกิดโรค
***
สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง / 1 เมษายน 2557