คุณกำลังมองหาอะไร?

ข่า

ข่าวแจก "กรมอนามัย เตือนกินหอยหน้าร้อน หวั่นเจอขี้ปลาวาฬ ทำปากชา แน่นหน้าอก"

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

25.03.2557
0
0
แชร์
25
มีนาคม
2557

ข่าวแจก "กรมอนามัย เตือนกินหอยหน้าร้อน หวั่นเจอขี้ปลาวาฬ ทำปากชา แน่นหน้าอก"

 
 
 
        กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะกินอาหารหน้าร้อนปลอดภัย เลี่ยงอาหารประเภทหอย แหล่งสะสม ขี้ปลาวาฬ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้ปากชา แน่นหน้าอก พร้อมเตือนอันตรายจากแบคทีเรียที่ปนเปื้อนในอาหารทะเล เน้นย้ำให้เลือกกินที่สด สะอาด และผ่านการปรุงสุกทุกครั้ง
        ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า อุณหภูมิที่สูงในช่วงหน้าร้อนทำให้เชื้อจุลินทรีย์ที่อยู่ในอาหารทะเลเจริญเติบโตได้ง่าย อีกทั้งยังพบมีโลหะหนักหลายชนิด ทั้งตะกั่ว สังกะสี แคดเมียม และทองแดง ในอาหารทะเล ประเภทปูม้า หอยนางรม และปลาหมึก โดยสารพิษเหล่านี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี และยังมีพิษอื่น ๆ ที่อาจพบได้ในอาหารทะเล อาทิ ขี้ปลาวาฬ ที่เกิดขึ้นจากแพลงตอนจำพวกไดโนแฟลกเจลเลต (dinoflagellate) สามารถพบได้ในน้ำทะเลทั่ว ๆ ไป สังเกตได้จากน้ำมีสีน้ำตาลแดง เมื่อมีอากาศร้อนจัดสัตว์ชนิดนี้จะแบ่งเซลล์และเจริญเติบโตได้ในน้ำทะเลอย่างรวดเร็ว โดยขี้ปลาวาฬจะเข้าสู่สัตว์ทะเลผ่านทางห่วงโซ่อาหาร พบมากในหอย ซึ่งจะสร้างสารพิษพวกไบโอท็อกซิน (biotaxin) ที่ทนความร้อน ไม่สามารถทำลายได้ในกระบวนการปรุงอาหาร เมื่อกินเข้าไปจะทำให้มีอาการชาบริเวณปากและทำให้แน่นหน้าอก เคลื่อนไหวลำบาก บางรายมีอาการอาเจียนด้วย
        ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจวิเคราะห์น้ำตัวอย่าง 1 ลิตร พบขี้ปลาวาฬสูงถึง 40,000 เซลล์ และตรวจพบไบโอท็อกซินในปริมาณที่สูงมาก ส่วนใหญ่พบในหอยสองฝา เช่น หอยกะพง หอยนางรม ซึ่งกินแพลงตอนทุกชนิด โดยเฉพาะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน เป็นช่วงที่มีแพลงตอนชนิดนี้มากในน้ำทะเล โอกาสที่หอยนางรมเป็นพิษก็เกิดได้มากเช่นเดียวกัน ก่อนกินจึงควรนำไปแช่น้ำปูนเพื่อลดความเป็นพิษ หรืองดกินในช่วงนี้ก็จะเป็นการดี นอกจากนี้ในอาหารทะเลยังพบแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของโรคท้องร่วงมากที่สุดคือ เชื้ออหิวาต์เทียมหรือวิบริโอ พารา ฮีโมไลติคัส (vibrio parahaemolyticus) เชื้อชนิดนี้สามารถพบได้ทั้งในน้ำทะเลและอาหารทะเล เช่น ปลา ปูม้า หอย กุ้ง กั้ง ปูทะเล และปลาหมึก เป็นต้น และยังพบในอาหารประเภทหอยแครงลวก ปลาดิบ ยำหอยนางรม ปูดอง หอยดอง ซึ่งพบเชื้อได้ทั้งปีแต่จะพบมากช่วงหน้าร้อนในเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ซึ่งอาการที่ปรากฏชัดหลังจากกินเข้าไป 12-24 ชั่วโมง คือ ท้องเสีย อาเจียน ปวดท้องอย่างรุนแรง อาจมีอาการปวดศีรษะและหนาวสั่นร่วมด้วย
        "ดังนั้น การเลือกกินหอยให้ปลอดภัยจากขี้ปลาวาฬในช่วงหน้าร้อน ผู้บริโภคจึงต้องหมั่นฟังข่าวจากสื่อต่าง ๆ ว่ามีขี้ปลาวาฬเกิดขึ้นในช่วงใด บริเวณใด ก็ควรงดกินในช่วงนั้น หรือให้เลือกกินอาหารทะเลที่สดและสะอาด มีการ ล้างน้ำทำความสะอาดทุกครั้งโดยเฉพาะสัตว์ทะเลที่มีผิว เปลือก หรือกระดอง เพื่อกำจัดแบคทีเรียที่ปนเปื้อน สำหรับกุ้งถ้าจะเก็บให้เด็ดหัวทิ้งก่อนแช่แข็งจะช่วยลดแบคทีเรียได้ถึงร้อยละ 50 และที่สำคัญเพื่อความปลอดภัยต้องผ่านการ ปรุงสุกทุกครั้ง? อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
 
***
สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง / 25 มีนาคม 2557
 

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน