กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะกินผักให้ปลอดภัยจากอันตรายยาฆ่าแมลงตกค้าง หวั่นสะสมในร่างกายทำให้เสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม แนะล้างให้สะอาดก่อนกินหรือปรุงอาหาร พร้อมส่งเสริมให้คนไทยกินผักมากขึ้นอย่างน้อย วันละ 400 กรัม ตามที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ
ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า การกินผักแต่ละครั้งผู้บริโภคควรคำนึงถึงความปลอดภัยและอันตรายจากสารเคมีตกค้างหรือการสะสมจากยาฆ่าแมลง ยาฆ่าวัชพืช ที่เป็นสารก่อมะเร็งไม่ให้มีมากในร่างกาย โดยเฉพาะยาฆ่าแมลงจำพวกคลอริเนตเตทไฮโดรคาร์บอน (Chlorinated hydrocarbon) หรือเรียกว่าออร์กาโนคลอรีน (organochlorine) ได้แก่ อัลดริน เคลเธน ดีดีที คลอเดน ดรีลดริน เป็นต้น ซึ่งใช้กำจัดแมลงได้ หลายชนิด อยู่ในธรรมชาติได้นานไม่สลายตัวได้งาย ก่อให้เกิดปัญหาสารพิษตกค้างและเป็นอันตรายมาก เมื่อได้รับสารนี้ในปริมาณมากจะทำให้เวียนศีรษะ หน้ามืด ท้องร่วง อาจเกิดหัวใจวายและตาย แต่ถ้าได้รับในปริมาณน้อย ๆ ค่อย ๆ สะสมในร่างกายจะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งได้
ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า ผู้บริโภคควรหลีกเลี่ยงกินผักนอกฤดูกาลเนื่องจากมีแนวโน้มของการใช้สารเคมีมากกว่าผักตามฤดูกาล โดยก่อนกินผักหรือนำมาปรุงอาหารทุกครั้ง ควรนำมาล้างน้ำให้สะอาด เพื่อป้องกันสารเคมีและยาฆ่าแมลงตกค้างด้วยการลอกเปลือกด้านนอกออกล้างผ่านน้ำก๊อกที่ไหลนาน 2 นาที หรือแช่ในน้ำผสมเกลือ หรือน้ำผสมน้ำส้มสายชู ทิ้งไว้นาน 10-15 นาที หรือแช่ในน้ำผสมโซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 1 กะละมัง หรือน้ำประมาณ 4 ลิตร จากนั้นนำมาผักมาล้างน้ำสะอาดอีก 2-3 ครั้ง เพื่อให้สารพิษที่ตกค้างออกให้หมดช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งโดยเฉพาะโรคมะเร็งเต้านม
"ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกแนะนำให้กินผักและผลไม้อย่างน้อยวันละ 400 กรัมเพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อ โรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่าง ๆ เข่น หัวใจขาดเลือด เส้นเลือดในสมองตีบ และมะเร็ง บางชนิด เนื่องจากคนไทยกินผักน้อยลง โดยเฉพาะเด็กไทยร้อยละ 58.9 ไม่ได้กินผักทุกวัน กินผักเพียงช้อนครึ่งต่อวัน ทั้งๆที่ควรกินผักให้ได้วันละ 12 ช้อนกินข้าว ส่วนผู้ใหญ่พบว่า กินผักน้อยมากเช่นกัน ซึ่งพบว่ากินผักเพียงวันละ 2 ช้อนครึ่งเท่านั้น ในขณะที่กรมอนามัยแนะนำให้ผู้ใหญ่กินผักถึง 18 ช้อนต่อวัน หรือ6 ทัพพี โดยให้กินผักที่หลากหลาย เพราะผักมีใยอาหารหรือเส้นใย ช่วยทำความสะอาดลำไส้และช่วยลดการดูดซึมไขมัน คอเลสเตอรอลในเลือด มีวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยปรับสมดุลเอนไซม์และฮอร์โมนในร่างกายให้ทำงานมีประสิทธิภาพ ให้สารพฤษเคมีที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านการอักเสบของเซลล์และเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย? อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
***
สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง / 4 กุมภาพันธ์ 2557