คุณกำลังมองหาอะไร?

ข่า

ข่าวแจก "สธ. เผยคนไทยกว่าร้อยละ 60 มีปัญหาฟันผุ ปริทันต์และสูญเสียฟัน ตั้งกองทุนทันตกรรม 1,200 ล้านบาท รองรับ"

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

01.02.2555
5
0
แชร์
01
กุมภาพันธ์
2555

ข่าวแจก "สธ. เผยคนไทยกว่าร้อยละ 60 มีปัญหาฟันผุ ปริทันต์และสูญเสียฟัน ตั้งกองทุนทันตกรรม 1,200 ล้านบาท รองรับ"

             กระทรวงสาธารณสุข แก้ปัญหาทันตสุขภาพทุกกลุ่มวัยหลังพบกว่าร้อยละ 60 มีปัญหาช่องปาก ทั้งโรคฟันผุ ปริทันต์ และการสูญเสียฟัน ตั้งกองทุนทันตกรรม 1,200 ล้านบาท รองรับ และจัดทำแผนบริการให้ประชาชนเข้าถึงได้มากขึ้น พร้อมจัดประชุมวิชาการทันตสาธารณสุขครั้งที่ 1 เป็นเวทีนำเสนอผลงานและมอบรางวัลหน่วยงานที่มีผลงานเด่น สร้างกำลังใจทันตบุคลากรทั่วประเทศ
             วันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2555) นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการทันตสาธารณสุข ครั้งที่ 1 ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร ว่า จากผลการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพครั้งที่ 6 พบว่า กลุ่มเด็กวัยก่อนเรียนและวัยเรียน มีฟันผุร้อยละ 60 กลุ่มวัยทำงานและผู้สูงอายุเป็นโรคปริทันต์ร้อยละ 80 สูญเสียฟันทั้งปากร้อยละ 10 หรือประมาณ 650,000 ราย โดยในปี 2554 กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัยได้ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จัดตั้งกองทุนทันตกรรมขึ้นเพื่อแก้ปัญหาทันตสุขภาพของประชาชน โดยสามารถบรรลุเป้าหมายการใส่ฟันเทียมได้ 35,000 ราย เด็กประถมศึกษาได้รับการเคลือบร่องฟัน 280,000 ราย ผู้ปกครองและเด็กปฐมวัยได้รับบริการในโครงการรณรงค์ลูกรักฟันดีเริ่มที่ซี่แรก 120,000 ราย
              นายแพทย์สุรวิทย์ กล่าวต่อไปว่า แม้การแก้ไขปัญหาทันตสุขภาพจะประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่กลับพบว่าอัตราการเข้าถึงบริการในภาพรวมต่ำกว่าร้อยละ 10 จำเป็นต้องพัฒนาให้มีการเข้าถึงบริการอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในพื้นที่เขตชนบท ถ้าสามารถพัฒนางานทันตสาธารณสุขให้ประชาชนมีสุขภาพช่องปากที่ดี ก็จะส่งผลต่อสุขภาพองค์รวมทั้งด้านโภชนาการ การลดโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน และการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนตามมา ซึ่งการดำเนินงานในปี 2555 ได้จัดตั้งกองทุนทันตกรรม 1,200 ล้านบาทขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนให้หน่วยงานบริการทุกจังหวัดจัดทำแผนบูรณาการเชิงรุกเพื่อขยายงานบริการส่งเสริมป้องกันให้ประชาชนในพื้นที่สามารถเข้าถึงบริการได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งกลุ่มเด็กวัยก่อนเรียน จำนวน 400,000 คน เด็กวัยเรียน จำนวน 400,000 คน และผู้สูงอายุใส่ฟันเทียม จำนวน 45,000 คน
             ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การประชุมวิชาการทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ครั้งที่ 1 ในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่หน่วยงานที่มีผลงานเด่น โดยมอบเกียรติบัตรรางวัลที่ 1 ระดับเขตจำนวน 12 แห่ง ในโครงการประกวดเครือข่ายบริการสุขภาพดีเด่นด้านการส่งเสริมสุขภาพช่องปากแม่และเด็ก ภายใต้โครงการสายใยรักแห่งครอบครัว และการเพิ่มพูนความรู้แก่ทันตบุคลากรในเรื่องนโยบายการบูรณาการเชิงรุก การสร้างความร่วมมือกับท้องถิ่นในการจัดบริการส่งเสริมสุขภาพ การพัฒนาระบบบริการระดับปฐมภูมิ การเตรียมการรองรับการจ่ายค่าตอบแทนตามผลงาน
           นอกจากนี้ สนับสนุนให้หน่วยงานและทีมเครือข่ายทันตบุคลากรที่มีผลงานเด่นได้มีโอกาสนำเสนอผลงานเพื่อเผยแพร่และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทั้งด้านการพัฒนาการจัดบริการส่งเสริมสุขภาพช่องปากและด้านการบริหารจัดการในระดับจังหวัด อำเภอ และระดับตำบล โดยมีผลงานเด่นที่นำเสนอในการประชุมทั้งสิ้น 82 เรื่อง? อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
 
***
 
กลุ่มสื่อสารองค์กร / 1 กุมภาพันธ์ 2555
กระทรวงสาธารณสุข แก้ปัญหาทันตสุขภาพทุกกลุ่มวัยหลังพบกว่าร้อยละ 60 มีปัญหาช่องปาก ทั้งโรคฟันผุ ปริทันต์ และการสูญเสียฟัน ตั้งกองทุนทันตกรรม 1,200 ล้านบาท รองรับ และจัดทำแผนบริการให้ประชาชนเข้าถึงได้มากขึ้น พร้อมจัดประชุมวิชาการทันตสาธารณสุขครั้งที่ 1 เป็นเวทีนำเสนอผลงานและมอบรางวัลหน่วยงานที่มีผลงานเด่น สร้างกำลังใจทันตบุคลากรทั่วประเทศ วันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2555) นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการทันตสาธารณสุข ครั้งที่ 1 ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร ว่า จากผลการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพครั้งที่ 6 พบว่า กลุ่มเด็กวัยก่อนเรียนและวัยเรียน มีฟันผุร้อยละ 60 กลุ่มวัยทำงานและผู้สูงอายุเป็นโรคปริทันต์ร้อยละ 80 สูญเสียฟันทั้งปากร้อยละ 10 หรือประมาณ 650,000 ราย โดยในปี 2554 กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัยได้ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จัดตั้งกองทุนทันตกรรมขึ้นเพื่อแก้ปัญหาทันตสุขภาพของประชาชน โดยสามารถบรรลุเป้าหมายการใส่ฟันเทียมได้ 35,000 ราย เด็กประถมศึกษาได้รับการเคลือบร่องฟัน 280,000 ราย ผู้ปกครองและเด็กปฐมวัยได้รับบริการในโครงการรณรงค์ลูกรักฟันดีเริ่มที่ซี่แรก 120,000 ราย นายแพทย์สุรวิทย์ กล่าวต่อไปว่า แม้การแก้ไขปัญหาทันตสุขภาพจะประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่กลับพบว่าอัตราการเข้าถึงบริการในภาพรวมต่ำกว่าร้อยละ 10 จำเป็นต้องพัฒนาให้มีการเข้าถึงบริการอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในพื้นที่เขตชนบท ถ้าสามารถพัฒนางานทันตสาธารณสุขให้ประชาชนมีสุขภาพช่องปากที่ดี ก็จะส่งผลต่อสุขภาพองค์รวมทั้งด้านโภชนาการ การลดโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน และการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนตามมา ซึ่งการดำเนินงานในปี 2555 ได้จัดตั้งกองทุนทันตกรรม 1,200 ล้านบาทขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนให้หน่วยงานบริการทุกจังหวัดจัดทำแผนบูรณาการเชิงรุกเพื่อขยายงานบริการส่งเสริมป้องกันให้ประชาชนในพื้นที่สามารถเข้าถึงบริการได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งกลุ่มเด็กวัยก่อนเรียน จำนวน 400,000 คน เด็กวัยเรียน จำนวน 400,000 คน และผู้สูงอายุใส่ฟันเทียม จำนวน 45,000 คน ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การประชุมวิชาการทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ครั้งที่ 1 ในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่หน่วยงานที่มีผลงานเด่น โดยมอบเกียรติบัตรรางวัลที่ 1 ระดับเขตจำนวน 12 แห่ง ในโครงการประกวดเครือข่ายบริการสุขภาพดีเด่นด้านการส่งเสริมสุขภาพช่องปากแม่และเด็ก ภายใต้โครงการสายใยรักแห่งครอบครัว และการเพิ่มพูนความรู้แก่ทันตบุคลากรในเรื่องนโยบายการบูรณาการเชิงรุก การสร้างความร่วมมือกับท้องถิ่นในการจัดบริการส่งเสริมสุขภาพ การพัฒนาระบบบริการระดับปฐมภูมิ การเตรียมการรองรับการจ่ายค่าตอบแทนตามผลงาน \\นอกจากนี้ สนับสนุนให้หน่วยงานและทีมเครือข่ายทันตบุคลากรที่มีผลงานเด่นได้มีโอกาสนำเสนอผลงานเพื่อเผยแพร่และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทั้งด้านการพัฒนาการจัดบริการส่งเสริมสุขภาพช่องปากและด้านการบริหารจัดการในระดับจังหวัด อำเภอ และระดับตำบล โดยมีผลงานเด่นที่นำเสนอในการประชุมทั้งสิ้น 82 เรื่อง อธิบดีกรมอนามัย กล่าว *** กลุ่มสื่อสารองค์กร / 1 กุมภาพันธ์ 2555

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน