คุณกำลังมองหาอะไร?

ข่า

ข่าวแจก "กรมอนามัย สร้าง 200 เครือข่าย 2,000 โรงเรียน รณรงค์เด็กไทยฟันดีแก้ปัญหาฟันผุในเด็ก"

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

28.02.2555
0
0
แชร์
28
กุมภาพันธ์
2555

ข่าวแจก "กรมอนามัย สร้าง 200 เครือข่าย 2,000 โรงเรียน รณรงค์เด็กไทยฟันดีแก้ปัญหาฟันผุในเด็ก"

              กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยเด็กไทยฟันผุถึงร้อยละ 57 ส่งผลให้ขาดเรียนถึง 4 แสนคน เร่งขยายเครือข่ายเด็กไทยฟันดี 68 จังหวัดทั่วประเทศ รวม 200 เครือข่าย 2,000 โรงเรียน พร้อมมอบเกียรติบัตรและรางวัลแก่โรงเรียนที่นำเสนอนวัตกรรมการดูแลฟันดีเด่น
              วันนี้ (22 กุมภาพันธ์ 2555) ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานมอบเกียรติบัตรแก่ภาคีเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี ปี 2555 ณ โรงแรมมณเฑียรริเวอร์ไซด์ ถนนพระราม 3 กรุงเทพมหานคร ว่า เด็กวัยเรียนเป็นกลุ่มวัยสำคัญที่ต้องได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพและจำเป็นต้องมีสุขภาพดี จากผลสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากของคนไทยโดยกรมอนามัย ปี 2550 พบว่า เด็กวัยเรียนมีปัญหาโรคฟันผุอยู่มาก โดยพบว่า เด็กอายุ 12 ปี หรือประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสบการณ์การเกิดโรคฟันผุถึงร้อยละ 57 ซึ่งปัญหาฟันผุในเด็กสาเหตุหลัก ๆ เกิดจากพฤติกรรมการบริโภค เด็กจะนิยมกินอาหารหรือขนมที่หาซื้อได้ง่าย เช่น น้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ นอกจากจะทำให้เกิดปัญหาฟันผุในเด็ก ยังก่อให้เกิดความเจ็บปวด การติดเชื้อ และสร้างปัญหาการบดเคี้ยวอาหาร ซึ่งมีผลต่อน้ำหนัก การเจริญเติบโต และบุคลิกภาพของเด็ก ที่สำคัญคือกระทบต่อการเรียน ทำให้เด็กหยุดเรียนถึงปีละ 400,000 คน และปัญหาฟันผุซึ่งนำไปสู่การสูญเสียฟันในวัยเด็กยังอาจสะสมจนกลายเป็นการสูญเสียฟันทั้งปากในวัยสูงอายุตามมา
             ดร.นพ.สมยศ กล่าวต่อไปว่า การแก้ปัญหาดังกล่าว กรมอนามัยได้จัดทำโครงการพัฒนาเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดีขึ้นตั้งแต่ปี 2551 เพื่อพัฒนาแนวทางการสร้างเครือข่ายเด็กไทยฟันดี ขยายผลสู่การดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืน ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2551-2554 มีจังหวัดเข้าร่วมโครงการจำนวน 68 จังหวัด เกิดเครือข่ายจำนวนกว่า 200 เครือข่าย และกว่า 2,000 โรงเรียน
           ทั้งนี้ การดำเนินงานในรูปแบบของเครือข่ายทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในประเด็นการส่งเสริมสุขภาพจากโรงเรียนหนึ่งขยายสู่โรงเรียนอื่น โดยมีแนวทางและวิธีการที่แต่ละโรงเรียนให้ความสนใจโดยครูและนักเรียนร่วมกันออกแบบกิจกรรมและดำเนินการตามความพร้อมของโรงเรียน ส่งผลดีต่อสุขภาพของนักเรียน กระตุ้นให้เกิดความร่วมมือจากผู้ปกครองและชุมชน รวมทั้งร่วมกันหาแนวทางเพื่อกำหนดนโยบายสาธารณะในโรงเรียน มุ่งเน้นการจัดการขนมและเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของน้ำตาล การบูรณาการในกลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมการพัฒนาผู้เรียน สร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ป้ายนิเทศ ไม่วางน้ำตาลในพวงเครื่องปรุง จัดสถานที่แปรงฟัน มุมทันตสุขภาพ สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน ก่อตั้งชมรมคนรักฟัน และอสม.ช่วยตรวจฟัน เป็นต้น?
            ดร.นพ.สมยศ กล่าว อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า การขยายผลการดำเนินงานในระยะต่อ ๆ ไป กรมอนามัยได้กำหนดแนวทางสร้างเครือข่ายขยายผลการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง แสวงหาความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน ผู้ปกครอง กระตุ้นให้เกิดการรวมกลุ่มให้เป็นเครือข่ายการเรียนรู้ในประเด็นสุขภาพ และจัดการประชุมวิชาการเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดีปี 2555 ในครั้งนี้ขึ้น เพื่อให้แกนนำและผู้ร่วมโครงการฯ ได้นำเสนอผลงาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และนำเสนอนวัตกรรมด้านการส่งเสริมสุขภาพในโรงเรียน นอกจากนี้ในการประชุมยังได้มอบเกียรติบัตรให้กับภาคีหลักและผู้แทนเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดีปี 2554 มอบรางวัลผู้ชนะการประกวดเกมเพื่อทันตสุขภาพ ผู้ชนะการประกวดวาดภาพทางทันตสุขภาพระดับประเทศและระดับโลก และพิธีลงนามในบันทึกความร่วมมือโครงการ ฟ.ฟันสวย ยิ้มใส ระหว่างกรมอนามัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และบริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด
 
***
 
กลุ่มสื่อสารองค์กร / 22 กุมภาพันธ์ 2555
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยเด็กไทยฟันผุถึงร้อยละ 57 ส่งผลให้ขาดเรียนถึง 4 แสนคน เร่งขยายเครือข่ายเด็กไทยฟันดี 68 จังหวัดทั่วประเทศ รวม 200 เครือข่าย 2,000 โรงเรียน พร้อมมอบเกียรติบัตรและรางวัลแก่โรงเรียนที่นำเสนอนวัตกรรมการดูแลฟันดีเด่น วันนี้ (22 กุมภาพันธ์ 2555) ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานมอบเกียรติบัตรแก่ภาคีเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี ปี 2555 ณ โรงแรมมณเฑียรริเวอร์ไซด์ ถนนพระราม 3 กรุงเทพมหานคร ว่า เด็กวัยเรียนเป็นกลุ่มวัยสำคัญที่ต้องได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพและจำเป็นต้องมีสุขภาพดี จากผลสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากของคนไทยโดยกรมอนามัย ปี 2550 พบว่า เด็กวัยเรียนมีปัญหาโรคฟันผุอยู่มาก โดยพบว่า เด็กอายุ 12 ปี หรือประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสบการณ์การเกิดโรคฟันผุถึงร้อยละ 57 ซึ่งปัญหาฟันผุในเด็กสาเหตุหลัก ๆ เกิดจากพฤติกรรมการบริโภค เด็กจะนิยมกินอาหารหรือขนมที่หาซื้อได้ง่าย เช่น น้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ นอกจากจะทำให้เกิดปัญหาฟันผุในเด็ก ยังก่อให้เกิดความเจ็บปวด การติดเชื้อ และสร้างปัญหาการบดเคี้ยวอาหาร ซึ่งมีผลต่อน้ำหนัก การเจริญเติบโต และบุคลิกภาพของเด็ก ที่สำคัญคือกระทบต่อการเรียน ทำให้เด็กหยุดเรียนถึงปีละ 400,000 คน และปัญหาฟันผุซึ่งนำไปสู่การสูญเสียฟันในวัยเด็กยังอาจสะสมจนกลายเป็นการสูญเสียฟันทั้งปากในวัยสูงอายุตามมา ดร.นพ.สมยศ กล่าวต่อไปว่า การแก้ปัญหาดังกล่าว กรมอนามัยได้จัดทำโครงการพัฒนาเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดีขึ้นตั้งแต่ปี 2551 เพื่อพัฒนาแนวทางการสร้างเครือข่ายเด็กไทยฟันดี ขยายผลสู่การดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืน ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2551-2554 มีจังหวัดเข้าร่วมโครงการจำนวน 68 จังหวัด เกิดเครือข่ายจำนวนกว่า 200 เครือข่าย และกว่า 2,000 โรงเรียน \\ทั้งนี้ การดำเนินงานในรูปแบบของเครือข่ายทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในประเด็นการส่งเสริมสุขภาพจากโรงเรียนหนึ่งขยายสู่โรงเรียนอื่น โดยมีแนวทางและวิธีการที่แต่ละโรงเรียนให้ความสนใจโดยครูและนักเรียนร่วมกันออกแบบกิจกรรมและดำเนินการตามความพร้อมของโรงเรียน ส่งผลดีต่อสุขภาพของนักเรียน กระตุ้นให้เกิดความร่วมมือจากผู้ปกครองและชุมชน รวมทั้งร่วมกันหาแนวทางเพื่อกำหนดนโยบายสาธารณะในโรงเรียน มุ่งเน้นการจัดการขนมและเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของน้ำตาล การบูรณาการในกลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมการพัฒนาผู้เรียน สร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ป้ายนิเทศ ไม่วางน้ำตาลในพวงเครื่องปรุง จัดสถานที่แปรงฟัน มุมทันตสุขภาพ สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน ก่อตั้งชมรมคนรักฟัน และอสม.ช่วยตรวจฟัน เป็นต้น ดร.นพ.สมยศ กล่าว อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า การขยายผลการดำเนินงานในระยะต่อ ๆ ไป กรมอนามัยได้กำหนดแนวทางสร้างเครือข่ายขยายผลการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง แสวงหาความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน ผู้ปกครอง กระตุ้นให้เกิดการรวมกลุ่มให้เป็นเครือข่ายการเรียนรู้ในประเด็นสุขภาพ และจัดการประชุมวิชาการเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดีปี 2555 ในครั้งนี้ขึ้น เพื่อให้แกนนำและผู้ร่วมโครงการฯ ได้นำเสนอผลงาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และนำเสนอนวัตกรรมด้านการส่งเสริมสุขภาพในโรงเรียน นอกจากนี้ในการประชุมยังได้มอบเกียรติบัตรให้กับภาคีหลักและผู้แทนเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดีปี 2554 มอบรางวัลผู้ชนะการประกวดเกมเพื่อทันตสุขภาพ ผู้ชนะการประกวดวาดภาพทางทันตสุขภาพระดับประเทศและระดับโลก และพิธีลงนามในบันทึกความร่วมมือโครงการ ฟ.ฟันสวย ยิ้มใส ระหว่างกรมอนามัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และบริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด *** กลุ่มสื่อสารองค์กร / 22 กุมภาพันธ์ 2555

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน