ข่า
วแจก "พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ เสด็จเปิดการประชุมสัมมนารวมพลัง ฝ่าวิกฤตโลกร้อน ด้วยการลดคาร์บอนฟุตพริ้น
กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
26
มีนาคม
2555
ข่าวแจก "พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ เสด็จเปิดการประชุมสัมมนารวมพลัง ฝ่าวิกฤตโลกร้อน ด้วยการลดคาร์บอนฟุตพริ้น
วันนี้ (26 มีนาคม 2555) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเปิดงานสัมมนา รวมพลัง ฝ่าวิกฤตโลกร้อน ด้วยการลดคาร์บอนฟุตพริ้น? ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร โดยมี นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขเฝ้าฯ รับเสด็จ
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กราบทูลรายงานว่า ปัญหาสำคัญของโลกในปัจจุบัน คือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณก๊าซเรือนกระจก ก่อให้เกิดผลกระทบหลายด้านทั้งอุทกภัย ภัยแล้ง การเกิดโรคอุบัติใหม่ อุบัติซ้ำ หากไม่เร่งดำเนินการป้องกันและแก้ไข ย่อมส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อโลกและสิ่งมีชีวิตทั้งมวล กระทรวงสาธารณสุขมีความตระหนักต่อปัญหาภาวะโลกร้อนที่คุกคามต่อความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเล็งเห็นว่าสถานบริการสาธารณสุขซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้บริการประชาชนนั้น ในแต่ละวันมีผู้มาใช้บริการจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดของเสีย เช่น เศษอาหารจากตึกผู้ป่วย สิ่งปฏิกูลที่เกิดจากการขับถ่ายและน้ำเสีย ตลอดจนมูลฝอยและการใช้สารเคมี ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก
นายวิทยา กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขจึงได้จัดทำโครงการ สาธารณสุขรวมใจ รณรงค์ลดโลกร้อน ด้วยการสุขาภิบาลอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม? ขึ้นในปี 2553 โดยใช้หลักการ GREEN & CLEAN ประกอบด้วยกิจกรรม GREEN G : Garbage คือ การจัดการมูลฝอยและใช้ประโยชน์จากสิ่งปฏิกูล R : Restroom คือ การพัฒนาส้วมในสถานบริการสาธารณสุขให้ได้มาตรฐานส้วมสาธารณะไทย (HAS) E : Energy คือ การลดการใช้พลังงาน หรือใช้พลังงานทดแทนจากชีวภาพและชีวมวล E : Environment คือ การจัดการสิ่งแวดล้อมที่ช่วยลดโลกร้อนและ เอื้อต่อสุขภาพ N : Nutrition รณรงค์อาหารปลอดสารพิษ การปลูกผักเพื่อบริโภคในครัวเรือน เพื่อลดการใช้สารเคมี และในปี 2554 ได้พัฒนาเว็บไซต์เพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายและภาคีเครือข่าย รวมทั้งพัฒนาโปรแกรมคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้น เพื่อให้สถานบริการสาธารณสุขใช้คำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของหน่วยงาน และนำมาวางแผนปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อให้สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งประเมินผลความสำเร็จของการดำเนินโครงการฯ
ผลการดำเนินงานโครงการฯ มีสถานบริการสาธารณสุขสมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 3,442 แห่ง ซึ่งได้พัฒนาเป็นสถานบริการสาธารณสุขต้นแบบลดโลกร้อน จำนวน 13 แห่ง คิดเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 1,009.48 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี หรือคิดเทียบเป็นการปลูกต้นไม้จำนวน 112,164 ต้น แต่หากโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งหมดพัฒนาเป็นสถานบริการสาธารณสุขต้นแบบฯ คาดว่าจะสามารถการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 55,178.83 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี หรือคิดเทียบเป็นการปลูกต้นไม้จำนวน 6,130,981 ต้น ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานเกิดความต่อเนื่องรวมทั้งมีการขยายเครือข่ายเพิ่มขึ้น กระทรวงสาธารณสุขจึงได้จัด การประชุมสัมมนา รวมพลัง ฝ่าวิกฤตโลกร้อน ด้วยการลดคาร์บอนฟุตพริ้น? ขึ้น เพื่อให้สถานบริการสาธารณสุข มีความรู้ความเข้าใจการดำเนินการลดโลกร้อนด้วยคาร์บอนฟุตพริ้น รวมถึงการขยายเครือข่ายสาธารณสุขลดโลกร้อน? รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
***
กลุ่มสื่อสารองค์กร / 26 มีนาคม 2555
วันนี้ (26 มีนาคม 2555) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเปิดงานสัมมนา \\รวมพลัง ฝ่าวิกฤตโลกร้อน ด้วยการลดคาร์บอนฟุตพริ้น ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร โดยมี นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขเฝ้าฯ รับเสด็จ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กราบทูลรายงานว่า ปัญหาสำคัญของโลกในปัจจุบัน คือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณก๊าซเรือนกระจก ก่อให้เกิดผลกระทบหลายด้านทั้งอุทกภัย ภัยแล้ง การเกิดโรคอุบัติใหม่ อุบัติซ้ำ หากไม่เร่งดำเนินการป้องกันและแก้ไข ย่อมส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อโลกและสิ่งมีชีวิตทั้งมวล กระทรวงสาธารณสุขมีความตระหนักต่อปัญหาภาวะโลกร้อนที่คุกคามต่อความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเล็งเห็นว่าสถานบริการสาธารณสุขซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้บริการประชาชนนั้น ในแต่ละวันมีผู้มาใช้บริการจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดของเสีย เช่น เศษอาหารจากตึกผู้ป่วย สิ่งปฏิกูลที่เกิดจากการขับถ่ายและน้ำเสีย ตลอดจนมูลฝอยและการใช้สารเคมี ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก นายวิทยา กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขจึงได้จัดทำโครงการ \\สาธารณสุขรวมใจ รณรงค์ลดโลกร้อน ด้วยการสุขาภิบาลอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขึ้นในปี 2553 โดยใช้หลักการ GREEN & CLEAN ประกอบด้วยกิจกรรม GREEN G : Garbage คือ การจัดการมูลฝอยและใช้ประโยชน์จากสิ่งปฏิกูล R : Restroom คือ การพัฒนาส้วมในสถานบริการสาธารณสุขให้ได้มาตรฐานส้วมสาธารณะไทย (HAS) E : Energy คือ การลดการใช้พลังงาน หรือใช้พลังงานทดแทนจากชีวภาพและชีวมวล E : Environment คือ การจัดการสิ่งแวดล้อมที่ช่วยลดโลกร้อนและ เอื้อต่อสุขภาพ N : Nutrition รณรงค์อาหารปลอดสารพิษ การปลูกผักเพื่อบริโภคในครัวเรือน เพื่อลดการใช้สารเคมี และในปี 2554 ได้พัฒนาเว็บไซต์เพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายและภาคีเครือข่าย รวมทั้งพัฒนาโปรแกรมคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้น เพื่อให้สถานบริการสาธารณสุขใช้คำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของหน่วยงาน และนำมาวางแผนปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อให้สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งประเมินผลความสำเร็จของการดำเนินโครงการฯ \\ผลการดำเนินงานโครงการฯ มีสถานบริการสาธารณสุขสมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 3,442 แห่ง ซึ่งได้พัฒนาเป็นสถานบริการสาธารณสุขต้นแบบลดโลกร้อน จำนวน 13 แห่ง คิดเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 1,009.48 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี หรือคิดเทียบเป็นการปลูกต้นไม้จำนวน 112,164 ต้น แต่หากโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งหมดพัฒนาเป็นสถานบริการสาธารณสุขต้นแบบฯ คาดว่าจะสามารถการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 55,178.83 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี หรือคิดเทียบเป็นการปลูกต้นไม้จำนวน 6,130,981 ต้น ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานเกิดความต่อเนื่องรวมทั้งมีการขยายเครือข่ายเพิ่มขึ้น กระทรวงสาธารณสุขจึงได้จัด การประชุมสัมมนา \\รวมพลัง ฝ่าวิกฤตโลกร้อน ด้วยการลดคาร์บอนฟุตพริ้น ขึ้น เพื่อให้สถานบริการสาธารณสุข มีความรู้ความเข้าใจการดำเนินการลดโลกร้อนด้วยคาร์บอนฟุตพริ้น รวมถึงการขยายเครือข่ายสาธารณสุขลดโลกร้อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว *** กลุ่มสื่อสารองค์กร / 26 มีนาคม 2555