คุณกำลังมองหาอะไร?

ข่า

ข่าวแจก "สธ. เผย ทุกปีคนไทย 1.2 ล้าน ป่วยโรคเกี่ยวกับน้ำ จับมือท้องถิ่นเร่งพัฒนามาตรฐานระบบประปา"

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

22.03.2555
13
0
แชร์
22
มีนาคม
2555

ข่าวแจก "สธ. เผย ทุกปีคนไทย 1.2 ล้าน ป่วยโรคเกี่ยวกับน้ำ จับมือท้องถิ่นเร่งพัฒนามาตรฐานระบบประปา"

                   กระทรวงสาธารณสุข เร่งรณรงค์ท้องถิ่นพัฒนาระบบประปาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้ดื่มน้ำสะอาด ปลอดภัย ลดอัตราป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับน้ำ 1.2 ล้านคนต่อปี ภายใต้คำขวัญปี 2555 Water and Food Security? ซึ่งทุกภาคส่วนจะต้องดูแลคุณภาพน้ำและอาหารให้มีความมั่นคงและปลอดภัย
                  วันนี้ (22 มีนาคม 2555) นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำบริโภคทั่วประเทศของกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัยร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ตั้งแต่ปี 2551?2554 พบว่า คุณภาพน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาคมากกว่าร้อยละ 80 อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนคุณภาพน้ำประปาของเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้ำบริโภคของกรมอนามัยร้อยละ 20-40 สำหรับน้ำฝน น้ำบาดาล น้ำบ่อตื้น และน้ำตู้หยอดเหรียญ พบว่า คุณภาพน้ำส่วนใหญ่ไม่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และจากการตรวจวัดคุณภาพแหล่งน้ำดิบเพื่อการประปาพบว่าแม่น้ำสายต่าง ๆ มีสภาพเสื่อมโทรมลง แหล่งน้ำใต้ดินบางพื้นที่มีความเค็ม กระด้าง และปนเปื้อนสารเคมี เช่น ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ในบางจังหวัด ซึ่งเสี่ยงต่อปัญหาฟลูออไรด์และเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารหนู นอกจากนี้บางพื้นที่ยังพบปัญหาน้ำปนเปื้อนสารเคมี แคดเมียม ตะกั่ว แมงกานีส และไนเตรทที่สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งจากรายงานการเฝ้าระวังโรคของ กระทรวงสาธารณสุขพบว่าในทุก ๆ ปี มีประชาชนมากกว่า 1.2 ล้านคน เจ็บป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวกับน้ำและสุขอนามัยที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจำนวนมาก
                นายสุรวิทย์ กล่าวต่อไปว่า จากปัญหาดังกล่าวกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการแก้ไขและป้องกันมาอย่างต่อเนื่องด้วยการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพน้ำบริโภค และส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขอนามัยที่ดีร่วมกับภาคีเครือข่าย และสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งได้ดำเนินโครงการน้ำประปาดื่มได้เพื่อให้คุณภาพน้ำประปาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและให้ประชาชนมีความมั่นใจในการดื่มน้ำ โดยพัฒนาระบบประปาเป็นน้ำประปาดื่มได้จำนวน 853 แห่ง แบ่งเป็นระบบประปาเมือง จำนวน 177 แห่ง และระบบประปาหมู่บ้าน จำนวน 676แห่ง และยังได้ดำเนินการพัฒนาระบบการจัดบริการน้ำบริโภคสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีการพัฒนาคุณภาพน้ำบริโภคให้ระบบประปามีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้ำประปาดื่มได้ร้อยละ 30 และพัฒนาคุณภาพน้ำฝน น้ำบ่อบาดาล น้ำประปา น้ำบ่อตื้น น้ำบรรจุขวด และน้ำตู้หยอดเหรียญ ให้มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้ำบริโภคกรมอนามัยร้อยละ 50 และตั้งเป้าปี 2555 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการพัฒนาคุณภาพ น้ำบริโภคเพิ่มขึ้นอีก 48 แห่ง พัฒนาและส่งเสริมให้ระบบประปามีการควบคุมและเฝ้าระวังคุณภาพน้ำตามเกณฑ์ประปาดื่มได้ปีละ 140 แห่ง และยังได้เฝ้าระวังคุณภาพน้ำบริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับศูนย์อนามัยเขตสุ่มตรวจอีกประมาณปีละ 400 ตัวอย่าง
               ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า วันที่ 22 มีนาคมของทุกปี สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้กำหนดให้เป็นวันน้ำโลก โดยคำขวัญรณรงค์ในปีนี้คือ Water and Food Security? หมายถึงทุกภาคส่วนจะต้องดูแลคุณภาพน้ำและอาหารให้มีความมั่นคงและปลอดภัย กรมอนามัยจึงได้จัดการสัมมนาเนื่องในวันน้ำโลกขึ้น เพื่อส่งเสริมความเข้าใจและความร่วมมือในการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพน้ำบริโภคที่ปลอดภัยและส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขอนามัยที่ถูกต้อง และเพื่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษด้านคุณภาพตามที่ประเทศไทยกำหนด พร้อมทั้งมอบเกียรติบัตรให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินงานพัฒนาระบบการจัดบริการน้ำบริโภคปลอดภัย ซึ่งมุ่งผลถึงสุขภาพประชาชน จำนวนกว่า 66 แห่ง


***
 
กลุ่มสื่อสารองค์กร/ 22 มีนาคม 2555
กระทรวงสาธารณสุข เร่งรณรงค์ท้องถิ่นพัฒนาระบบประปาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้ดื่มน้ำสะอาด ปลอดภัย ลดอัตราป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับน้ำ 1.2 ล้านคนต่อปี ภายใต้คำขวัญปี 2555 \\Water and Food Security ซึ่งทุกภาคส่วนจะต้องดูแลคุณภาพน้ำและอาหารให้มีความมั่นคงและปลอดภัย วันนี้ (22 มีนาคม 2555) นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำบริโภคทั่วประเทศของกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัยร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ตั้งแต่ปี 25512554 พบว่า คุณภาพน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาคมากกว่าร้อยละ 80 อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนคุณภาพน้ำประปาของเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้ำบริโภคของกรมอนามัยร้อยละ 20-40 สำหรับน้ำฝน น้ำบาดาล น้ำบ่อตื้น และน้ำตู้หยอดเหรียญ พบว่า คุณภาพน้ำส่วนใหญ่ไม่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และจากการตรวจวัดคุณภาพแหล่งน้ำดิบเพื่อการประปาพบว่าแม่น้ำสายต่าง ๆ มีสภาพเสื่อมโทรมลง แหล่งน้ำใต้ดินบางพื้นที่มีความเค็ม กระด้าง และปนเปื้อนสารเคมี เช่น ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ในบางจังหวัด ซึ่งเสี่ยงต่อปัญหาฟลูออไรด์และเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารหนู นอกจากนี้บางพื้นที่ยังพบปัญหาน้ำปนเปื้อนสารเคมี แคดเมียม ตะกั่ว แมงกานีส และไนเตรทที่สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งจากรายงานการเฝ้าระวังโรคของ กระทรวงสาธารณสุขพบว่าในทุก ๆ ปี มีประชาชนมากกว่า 1.2 ล้านคน เจ็บป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวกับน้ำและสุขอนามัยที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจำนวนมาก นายสุรวิทย์ กล่าวต่อไปว่า จากปัญหาดังกล่าวกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการแก้ไขและป้องกันมาอย่างต่อเนื่องด้วยการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพน้ำบริโภค และส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขอนามัยที่ดีร่วมกับภาคีเครือข่าย และสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งได้ดำเนินโครงการน้ำประปาดื่มได้เพื่อให้คุณภาพน้ำประปาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและให้ประชาชนมีความมั่นใจในการดื่มน้ำ โดยพัฒนาระบบประปาเป็นน้ำประปาดื่มได้จำนวน 853 แห่ง แบ่งเป็นระบบประปาเมือง จำนวน 177 แห่ง และระบบประปาหมู่บ้าน จำนวน 676แห่ง และยังได้ดำเนินการพัฒนาระบบการจัดบริการน้ำบริโภคสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีการพัฒนาคุณภาพน้ำบริโภคให้ระบบประปามีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้ำประปาดื่มได้ร้อยละ 30 และพัฒนาคุณภาพน้ำฝน น้ำบ่อบาดาล น้ำประปา น้ำบ่อตื้น น้ำบรรจุขวด และน้ำตู้หยอดเหรียญ ให้มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้ำบริโภคกรมอนามัยร้อยละ 50 และตั้งเป้าปี 2555 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการพัฒนาคุณภาพ น้ำบริโภคเพิ่มขึ้นอีก 48 แห่ง พัฒนาและส่งเสริมให้ระบบประปามีการควบคุมและเฝ้าระวังคุณภาพน้ำตามเกณฑ์ประปาดื่มได้ปีละ 140 แห่ง และยังได้เฝ้าระวังคุณภาพน้ำบริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับศูนย์อนามัยเขตสุ่มตรวจอีกประมาณปีละ 400 ตัวอย่าง ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า วันที่ 22 มีนาคมของทุกปี สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้กำหนดให้เป็นวันน้ำโลก โดยคำขวัญรณรงค์ในปีนี้คือ \\Water and Food Security หมายถึงทุกภาคส่วนจะต้องดูแลคุณภาพน้ำและอาหารให้มีความมั่นคงและปลอดภัย กรมอนามัยจึงได้จัดการสัมมนาเนื่องในวันน้ำโลกขึ้น เพื่อส่งเสริมความเข้าใจและความร่วมมือในการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพน้ำบริโภคที่ปลอดภัยและส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขอนามัยที่ถูกต้อง และเพื่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษด้านคุณภาพตามที่ประเทศไทยกำหนด พร้อมทั้งมอบเกียรติบัตรให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินงานพัฒนาระบบการจัดบริการน้ำบริโภคปลอดภัย ซึ่งมุ่งผลถึงสุขภาพประชาชน จำนวนกว่า 66 แห่ง *** กลุ่มสื่อสารองค์กร/ 22 มีนาคม 2555

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน

ติดตามข่าวสารได้ที่

แทงบอลออนไลน์ || ดูบอลสด