ข่า
วแจก"กรมอนามัย จับมือเมืองพัทยา เทศบาลนครนนทบุรี สร้าง Age-friendly Cities เมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ"
กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
12
ธันวาคม
2556
ข่าวแจก"กรมอนามัย จับมือเมืองพัทยา เทศบาลนครนนทบุรี สร้าง Age-friendly Cities เมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ"
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมมือในการดำเนินงานเมืองพัทยา เทศบาลนครนนทบุรีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กันในด้านวิชาการ การส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ และการดูแลผู้สูงอายุอย่างองค์รวม การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกกลุ่มวัย โดยเฉพาะกลุ่มวัยสูงอายุ เพื่อเตรียมการรองรับระบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาวโดยท้องถิ่น ชุมชนมีส่วนร่วม
วันนี้ (12 ธันวาคม 2556) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาวิชาการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุระดับชาติ ครั้งที่ 2 เรื่องประชาคมอาเซียนกับสังคมผู้สูงวัย : AEC and Ageing Society? ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ว่า สังคมไทย ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ หมายความว่าประชากรที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีจำนวนและสัดส่วนมากขึ้น โดยพบว่าประชากรผู้สูงอายุของประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 7 ล้านคน หรือร้อยละ 10.7 ในปี 2550 เป็น 7.5 ล้านคน หรือร้อยละ 11.7 ในปี 2553 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 14.5 ล้านคน หรือร้อยละ 20 ในปี 2568 หรือ 1 ใน 5 จะเป็นประชากรผู้สูงอายุ ในขณะที่แนวโน้มผู้สูงอายุอยู่คนเดียวหรืออยู่ลำพังกับคู่สมรสเพิ่มมากขึ้น โดยพบว่าผู้สูงอายุอยู่คนเดียวเพิ่มจากร้อยละ 3.6 ในปี 2537 เป็น 7.6 ในปี 2550 ซึ่งมีผลต่อการให้การดูแลผู้สูงอายุทั้งด้านร่างกายและจิตใจ อายุยิ่งสูงยิ่งเจ็บป่วย โดยเฉพาะเจ็บป่วยด้วยโรคไร้เชื้อ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือไขมันในเลือดสูง มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น รักษาไม่หาย มีภาวะการพึ่งพาต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่องและการดูแลระยะยาว อีกทั้งปัญหาด้านการมองเห็นมีผู้สูงอายุเพียง 1 ใน 4 ที่มองเห็นชัดเจน ปัญหาด้านการบดเคี้ยวอาหารและสุขภาพช่องปาก เกือบครึ่งหนึ่งของผู้สูงอายุร้อยละ 48.6 มีฟันแท้เหลือน้อยกว่า 20 ซี่ จากสถานการณ์ของผู้สูงอายุที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนอกจากส่งผลกระทบทางด้านสุขภาพแล้วยังส่งผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ สังคม
ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า การเตรียมการเพื่อรองรับสภาพปัญหาของผู้สูงอายุจึงเป็นประเด็นที่สำคัญ ประกอบกับกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดวิสัยทัศน์ ภายในทศวรรษต่อไป คนไทยทุกคนจะมีสุขภาพแข็งแรงเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างยั่งยืน? โดยกำหนดผลกระทบระดับชาติ 10 ปี ไว้ คือ
1. อายุคาดเฉลี่ยเมื่อแรกเกิด ไม่น้อยกว่า 80 ปี และ
2. อายุคาดเฉลี่ยของการมีสุขภาพดี ไม่น้อยกว่า 72 ปี กรมอนามัย กรมการแพทย์ กรมสุขภาพจิต และ กรมควบคุมโรค ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มวัยสูงอายุ จึงได้ร่วมกันดำเนินงาน แผนงานส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ และผู้พิการ ขึ้น ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนโยบายรัฐบาล การทำงานแบบบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมอนามัยซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบหลักยุทธศาสตร์การสร้างความเข้มแข็งและการมีส่วนร่วมของท้องถิ่นในการส่งเสริมสุขภาพและดูแลผู้สูงอายุในชุมชน จึงได้ดำเนินการจัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรและภาคีเครือข่าย อำเภอสุขภาพดี 80 ปี ยังแจ๋ว ? ปี 2556 ขึ้น เพื่อดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
ทั้งนี้ กรมอนามัยตระหนักและเห็นคุณค่าของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นปูชนียบุคคล จึงได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานประเด็นยุทธศาสตร์การส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ที่เน้น การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาว(Long Term Care) โดยมีชุมชนเป็นฐาน? อย่างเป็นระบบภายใต้ศักยภาพของผู้สูงอายุ ตามความสามารถในการประกอบกิจวัตรประจำวัน ด้วยกลยุทธ์ เข้าใจ เข้าถึง พึ่งได้....ท้องถิ่นเข้มแข็งประชาชนแข็งแรง? นอกจากนี้ จึงได้ลงนามบันทึกความร่วมมือในการดำเนินงาน Age-friendly Cities เมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ ระหว่างกรมอนามัยกับเมืองพัทยาและเทศบาลเมืองนนทบุรี ที่แม้จะเน้นที่ผู้สูงอายุ แต่จุดมุ่งหมายหลักคือ เมืองที่เป็นมิตรกับทุกกลุ่มวัย และยังมีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ผู้สุงอายุสุขภาพดี 80 ปียังแจ๋วต้นแบบดีเด่น จำนวน 76 โล่รางวัล ผู้ดูแลสูงอายุดีเด่น 12 โล่รางวัล ภาคีเครือข่ายที่มีผลการดำเนินงานดีเด่นได้แก่อำเภอสุขภาพดี 80 ปียังแจ๋วดีเด่น จำนวน 12 โล่รางวัล ตำบลดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาวดีเด่น 76 รางวัล และมอบประกาศเกียรติคุณภาคีเครือข่ายร่วมจัดนิทรรศการจำนวน 12 ภาคีเครือข่าย อีกทั้งยังได้เปิดตัวสมุดบันทึกสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ โดยได้รับความร่วมมือจากทุกกรมวิชาการที่เกี่ยวข้องในกระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้ผู้สูงอายุได้ใช้ทั่วประเทศอีกด้วย? อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
***
สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง/ 12 ธันวาคม 2556
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมมือในการดำเนินงานเมืองพัทยา เทศบาลนครนนทบุรีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กันในด้านวิชาการ การส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ และการดูแลผู้สูงอายุอย่างองค์รวม การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกกลุ่มวัย โดยเฉพาะกลุ่มวัยสูงอายุ เพื่อเตรียมการรองรับระบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาวโดยท้องถิ่น ชุมชนมีส่วนร่วม วันนี้ (12 ธันวาคม 2556) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาวิชาการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุระดับชาติ ครั้งที่ 2 \\เรื่องประชาคมอาเซียนกับสังคมผู้สูงวัย : AEC and Ageing Society ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ว่า สังคมไทย ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ หมายความว่าประชากรที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีจำนวนและสัดส่วนมากขึ้น โดยพบว่าประชากรผู้สูงอายุของประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 7 ล้านคน หรือร้อยละ 10.7 ในปี 2550 เป็น 7.5 ล้านคน หรือร้อยละ 11.7 ในปี 2553 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 14.5 ล้านคน หรือร้อยละ 20 ในปี 2568 หรือ 1 ใน 5 จะเป็นประชากรผู้สูงอายุ ในขณะที่แนวโน้มผู้สูงอายุอยู่คนเดียวหรืออยู่ลำพังกับคู่สมรสเพิ่มมากขึ้น โดยพบว่าผู้สูงอายุอยู่คนเดียวเพิ่มจากร้อยละ 3.6 ในปี 2537 เป็น 7.6 ในปี 2550 ซึ่งมีผลต่อการให้การดูแลผู้สูงอายุทั้งด้านร่างกายและจิตใจ อายุยิ่งสูงยิ่งเจ็บป่วย โดยเฉพาะเจ็บป่วยด้วยโรคไร้เชื้อ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือไขมันในเลือดสูง มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น รักษาไม่หาย มีภาวะการพึ่งพาต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่องและการดูแลระยะยาว อีกทั้งปัญหาด้านการมองเห็นมีผู้สูงอายุเพียง 1 ใน 4 ที่มองเห็นชัดเจน ปัญหาด้านการบดเคี้ยวอาหารและสุขภาพช่องปาก เกือบครึ่งหนึ่งของผู้สูงอายุร้อยละ 48.6 มีฟันแท้เหลือน้อยกว่า 20 ซี่ จากสถานการณ์ของผู้สูงอายุที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนอกจากส่งผลกระทบทางด้านสุขภาพแล้วยังส่งผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า การเตรียมการเพื่อรองรับสภาพปัญหาของผู้สูงอายุจึงเป็นประเด็นที่สำคัญ ประกอบกับกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดวิสัยทัศน์ \\ภายในทศวรรษต่อไป คนไทยทุกคนจะมีสุขภาพแข็งแรงเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างยั่งยืน โดยกำหนดผลกระทบระดับชาติ 10 ปี ไว้ คือ1. อายุคาดเฉลี่ยเมื่อแรกเกิด ไม่น้อยกว่า 80 ปี และ2. อายุคาดเฉลี่ยของการมีสุขภาพดี ไม่น้อยกว่า 72 ปี กรมอนามัย กรมการแพทย์ กรมสุขภาพจิต และ กรมควบคุมโรค ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มวัยสูงอายุ จึงได้ร่วมกันดำเนินงาน แผนงานส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ และผู้พิการ ขึ้น ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนโยบายรัฐบาล การทำงานแบบบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมอนามัยซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบหลักยุทธศาสตร์การสร้างความเข้มแข็งและการมีส่วนร่วมของท้องถิ่นในการส่งเสริมสุขภาพและดูแลผู้สูงอายุในชุมชน จึงได้ดำเนินการจัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรและภาคีเครือข่าย \\อำเภอสุขภาพดี 80 ปี ยังแจ๋ว ปี 2556 ขึ้น เพื่อดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี \\ทั้งนี้ กรมอนามัยตระหนักและเห็นคุณค่าของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นปูชนียบุคคล จึงได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานประเด็นยุทธศาสตร์การส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ที่เน้น \\การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาว(Long Term Care) โดยมีชุมชนเป็นฐาน อย่างเป็นระบบภายใต้ศักยภาพของผู้สูงอายุ ตามความสามารถในการประกอบกิจวัตรประจำวัน ด้วยกลยุทธ์ \\เข้าใจ เข้าถึง พึ่งได้....ท้องถิ่นเข้มแข็งประชาชนแข็งแรง นอกจากนี้ จึงได้ลงนามบันทึกความร่วมมือในการดำเนินงาน Age-friendly Cities เมืองที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ ระหว่างกรมอนามัยกับเมืองพัทยาและเทศบาลเมืองนนทบุรี ที่แม้จะเน้นที่ผู้สูงอายุ แต่จุดมุ่งหมายหลักคือ เมืองที่เป็นมิตรกับทุกกลุ่มวัย และยังมีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ผู้สุงอายุสุขภาพดี 80 ปียังแจ๋วต้นแบบดีเด่น จำนวน 76 โล่รางวัล ผู้ดูแลสูงอายุดีเด่น 12 โล่รางวัล ภาคีเครือข่ายที่มีผลการดำเนินงานดีเด่นได้แก่อำเภอสุขภาพดี 80 ปียังแจ๋วดีเด่น จำนวน 12 โล่รางวัล ตำบลดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาวดีเด่น 76 รางวัล และมอบประกาศเกียรติคุณภาคีเครือข่ายร่วมจัดนิทรรศการจำนวน 12 ภาคีเครือข่าย อีกทั้งยังได้เปิดตัวสมุดบันทึกสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ โดยได้รับความร่วมมือจากทุกกรมวิชาการที่เกี่ยวข้องในกระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้ผู้สูงอายุได้ใช้ทั่วประเทศอีกด้วย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด *** สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง/ 12 ธันวาคม 2556