ข่าวแจก "กรมอนามัย ขับเคลื่อน ตำบลฟันดี แก้ปัญหาเด็กไทยฟันผุ"
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมวิชาการทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ครั้งที่ 2 มหกรรมตำบลฟันดี?เพื่อพัฒนาวิชาการด้านการส่งเสริมสุขภาพช่องปากและระบบบริการทันตสุขภาพให้มีประสิทธิภาพ หวังแก้ปัญหาเด็กฟันผุ
วันนี้ (25 กรกฎาคม 2556) นายแพทย์ธีรพล โตพันธานนท์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ครั้งที่ 2 ปี 2556 มหกรรมตำบลฟันดี? ณ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่น โฮเทล กรุงเทพมหานคร ว่า ปัญหาสุขภาพช่องปากของประชาชนไทยในทุกกลุ่มวัยยังคงมีแนวโน้มที่สูงขณะที่การเข้าถึงบริการยังมีข้อจำกัด สุขภาพช่องปากที่ดีมีผลต่อระบบร่างกายของทุกคนและทุกวัย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กปฐมวัยจะมีผลต่อพัฒนาการสมวัย หากป้องกันปัญหาโรคฟันผุและเหงือกอักเสบในวัยเด็กได้ โอกาสที่จะเกิดปัญหาของโรคในช่องปากในวัยที่สูงขึ้นน่าจะลดลง ซึ่งสาเหตุของโรคในช่องปากประเด็นหลักมาจากขาดการทำความสะอาดช่องปากอย่างสม่ำเสมอและจากพฤติกรรมการบริโภคที่มีสิ่งจูงใจจากการโฆษณาทางสื่อต่างๆ การแก้ปัญหาให้ได้ผล จึงต้องขยายขอบเขตการทำงานโดยบูรณาการร่วมกับงานสุขภาพอื่นๆอย่างเป็นองค์รวม
นายแพทย์ธีรพล กล่าวต่อไปว่า นับตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ดำเนินโครงการฟันเทียมพระราชทานในกลุ่มผู้สูงวัย โครงการยิ้มสดใสเด็กไทยฟันดี ดำเนินการตรวจสุขภาพช่องปากและเคลือบหลุมร่องฟันในเด็กวัยเรียน ลดการบริโภคหวาน (น้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ) ของเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน อีกทั้งดำเนินโครงการขับเคลื่อนการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากภายใต้กองทุนทันตกรรมในระบบหลักประกันสุขภาพ โดยใช้มาตรการสื่อสารสาธารณะ เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปากที่เหมาะสมตั้งแต่เด็ก ภายใต้ชื่อโครงการ ลูกรักฟันดีเริ่มที่ซี่แรก? และมุ่งเน้นพัฒนากลไกการเผยแพร่ความรู้ที่สอดคล้องและสนับสนุนการดำเนินงานระหว่างส่วนกลางกับพื้นที่ รวมถึงจัดการความรู้เพื่อให้เกิดข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่เอื้อต่อการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากของเด็กก่อนวัยเรียนในระดับตำบล ภายใต้แนวคิด ตำบลฟันดี?
นายแพทย์ธีรพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากของคนไทยโดยกรมอนามัยล่าสุด ปี 2555 พบว่า เด็กวัยเรียนมีปัญหาโรคฟันผุอยู่มาก โดยพบเด็กอายุ 12 ปี หรือประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสบการณ์เกิดโรคฟันผุถึงร้อยละ 52.3 ซึ่งปัญหาฟันผุในเด็กมีสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการบริโภค ของเด็กที่นิยมกินอาหารหรือขนมที่หาซื้อได้ง่าย เช่น น้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ นอกจากจะทำให้เกิดปัญหาฟันผุในเด็ก ยังก่อให้เกิดความเจ็บปวด การติดเชื้อ และสร้างปัญหาการบดเคี้ยวอาหาร ซึ่งมีผลต่อน้ำหนัก การเจริญเติบโต และบุคลิกภาพของเด็ก ที่สำคัญคือมีผลกระทบต่อการเรียน ทำให้เด็กหยุดเรียน และปัญหาฟันผุซึ่งนำไปสู่การสูญเสียฟันในวัยเด็กยังอาจสะสมจนกลายเป็นการสูญเสียฟันทั้งปากในวัยสูงอายุตามมา
การประชุมในครั้งนี้ ถือเป็นเวทีวิชาการระดับชาติให้แก่ทันตบุคลากรและภาคีเครือข่ายต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาสุขภาพช่องปากให้ครอบคลุมทุกกลุ่มวัย ได้นำเสนอผลงานหรือโครงการนวัตกรรมระดับจังหวัด อำเภอ และระดับตำบล ควบคู่ไปกับการสร้างเสริมสุขภาพช่องปาก โดยมุ่งหวังให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยเกิดความตระหนัก และมีพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพช่องปากของตนเองและครอบครัวอย่างเหมาะสม? รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
***
กลุ่มสื่อสารองค์กร / 25 กรกฎาคม 2556
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมวิชาการทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ครั้งที่ 2 \\มหกรรมตำบลฟันดีเพื่อพัฒนาวิชาการด้านการส่งเสริมสุขภาพช่องปากและระบบบริการทันตสุขภาพให้มีประสิทธิภาพ หวังแก้ปัญหาเด็กฟันผุ วันนี้ (25 กรกฎาคม 2556) นายแพทย์ธีรพล โตพันธานนท์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ครั้งที่ 2 ปี 2556 \\มหกรรมตำบลฟันดี ณ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่น โฮเทล กรุงเทพมหานคร ว่า ปัญหาสุขภาพช่องปากของประชาชนไทยในทุกกลุ่มวัยยังคงมีแนวโน้มที่สูงขณะที่การเข้าถึงบริการยังมีข้อจำกัด สุขภาพช่องปากที่ดีมีผลต่อระบบร่างกายของทุกคนและทุกวัย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กปฐมวัยจะมีผลต่อพัฒนาการสมวัย หากป้องกันปัญหาโรคฟันผุและเหงือกอักเสบในวัยเด็กได้ โอกาสที่จะเกิดปัญหาของโรคในช่องปากในวัยที่สูงขึ้นน่าจะลดลง ซึ่งสาเหตุของโรคในช่องปากประเด็นหลักมาจากขาดการทำความสะอาดช่องปากอย่างสม่ำเสมอและจากพฤติกรรมการบริโภคที่มีสิ่งจูงใจจากการโฆษณาทางสื่อต่างๆ การแก้ปัญหาให้ได้ผล จึงต้องขยายขอบเขตการทำงานโดยบูรณาการร่วมกับงานสุขภาพอื่นๆอย่างเป็นองค์รวม นายแพทย์ธีรพล กล่าวต่อไปว่า นับตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ดำเนินโครงการฟันเทียมพระราชทานในกลุ่มผู้สูงวัย โครงการยิ้มสดใสเด็กไทยฟันดี ดำเนินการตรวจสุขภาพช่องปากและเคลือบหลุมร่องฟันในเด็กวัยเรียน ลดการบริโภคหวาน (น้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ) ของเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน อีกทั้งดำเนินโครงการขับเคลื่อนการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากภายใต้กองทุนทันตกรรมในระบบหลักประกันสุขภาพ โดยใช้มาตรการสื่อสารสาธารณะ เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปากที่เหมาะสมตั้งแต่เด็ก ภายใต้ชื่อโครงการ \\ลูกรักฟันดีเริ่มที่ซี่แรก และมุ่งเน้นพัฒนากลไกการเผยแพร่ความรู้ที่สอดคล้องและสนับสนุนการดำเนินงานระหว่างส่วนกลางกับพื้นที่ รวมถึงจัดการความรู้เพื่อให้เกิดข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่เอื้อต่อการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากของเด็กก่อนวัยเรียนในระดับตำบล ภายใต้แนวคิด \\ตำบลฟันดี นายแพทย์ธีรพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากของคนไทยโดยกรมอนามัยล่าสุด ปี 2555 พบว่า เด็กวัยเรียนมีปัญหาโรคฟันผุอยู่มาก โดยพบเด็กอายุ 12 ปี หรือประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสบการณ์เกิดโรคฟันผุถึงร้อยละ 52.3 ซึ่งปัญหาฟันผุในเด็กมีสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการบริโภค ของเด็กที่นิยมกินอาหารหรือขนมที่หาซื้อได้ง่าย เช่น น้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ นอกจากจะทำให้เกิดปัญหาฟันผุในเด็ก ยังก่อให้เกิดความเจ็บปวด การติดเชื้อ และสร้างปัญหาการบดเคี้ยวอาหาร ซึ่งมีผลต่อน้ำหนัก การเจริญเติบโต และบุคลิกภาพของเด็ก ที่สำคัญคือมีผลกระทบต่อการเรียน ทำให้เด็กหยุดเรียน และปัญหาฟันผุซึ่งนำไปสู่การสูญเสียฟันในวัยเด็กยังอาจสะสมจนกลายเป็นการสูญเสียฟันทั้งปากในวัยสูงอายุตามมา \\การประชุมในครั้งนี้ ถือเป็นเวทีวิชาการระดับชาติให้แก่ทันตบุคลากรและภาคีเครือข่ายต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาสุขภาพช่องปากให้ครอบคลุมทุกกลุ่มวัย ได้นำเสนอผลงานหรือโครงการนวัตกรรมระดับจังหวัด อำเภอ และระดับตำบล ควบคู่ไปกับการสร้างเสริมสุขภาพช่องปาก โดยมุ่งหวังให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยเกิดความตระหนัก และมีพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพช่องปากของตนเองและครอบครัวอย่างเหมาะสม รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด ***กลุ่มสื่อสารองค์กร / 25 กรกฎาคม 2556