คุณกำลังมองหาอะไร?

ข่า

ข่าวแจก"กรมอนามัย-มูลนิธิโอสถสภา-สสจ.อยุธยา มอบฟันเทียมผู้สูงวัย 100 ราย ลดปัญหาไม่มีฟัน"

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

25.06.2556
11
0
แชร์
25
มิถุนายน
2556

ข่าวแจก"กรมอนามัย-มูลนิธิโอสถสภา-สสจ.อยุธยา มอบฟันเทียมผู้สูงวัย 100 ราย ลดปัญหาไม่มีฟัน"

        กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับมูลนิธิโอสถสภา และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยามอบฟันเทียมพระราชทานแก่ผู้สูงอายุในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 100 ราย แก้ปัญหาการสูญเสียฟันจนไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ พร้อมส่งเสริมการดูแลสุขภาพช่องปากด้วยตนเอง
        วันนี้ (25 มิถุนายน 2556) นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังพิธีมอบฟันเทียมพระราชทาน ณ ห้องประชุมโรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธาน ว่า จากการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 7 ปี 2555 พบว่า ผู้สูงอายุจำเป็นต้องใส่ฟันทั้งปากลดลงเหลือจากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 2.5 แต่ถ้าคิดตามประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก็ยังเป็นปริมาณที่สูง ประมาณ 236,000 ราย และพบความต้องการสูงสุดในภาคใต้ รองลงมาเป็นภาคกลาง นอกจากนี้ยังพบว่าความต้องการใส่ฟันเทียมบางส่วนร้อยละ 72.7 โดยผลการดำเนินงานที่ผ่านมาทำให้ปัจจุบันมีผู้สูงอายุที่สูญเสียฟันทั้งปากได้รับบริการใส่ฟันเทียมพระราชทานเกือบ 300,000 ราย เฉลี่ยปีละ 35,000 ราย ซึ่งกรมอนามัยยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลผู้สูงอายุที่สูญเสียฟันทั้งปากและบางส่วนไปพร้อม ๆ กันลดการสูญเสียฟันให้มากขึ้น ด้วยการบูรณาการกับโครงการส่งเสริมสุขภาพด้านอื่น ๆ เช่น ตำบลการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว วัดส่งเสริมสุขภาพ เป็นต้น เพื่อให้บรรลุเกณฑ์ด้านทันตสุขภาพในมาตรฐานผู้สูงอายุพึงประสงค์ คือมีฟันใช้งานได้อย่างน้อย 20 ซี่
        นายแพทย์ณรงค์ กล่าวต่อไปว่า การดำเนินงานโครงการฟันเทียมพระราชทานที่ผ่านมา กรมอนามัยได้รับการสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งจากมูลนิธิโอสถสภาที่เห็นความสำคัญของการมีฟันใช้เคี้ยวอาหาร โดยจัดบริการใส่ฟันเทียมทั้งปากแก่ผู้สูงอายุเพิ่มเติมให้กับจังหวัด ๆ ละ 100 ราย ตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา รวมงบประมาณสนับสนุนแล้วทั้งสิ้นกว่า 9,800,000 บาท ซึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยานับเป็นจังหวัดที่ 18 ที่ได้ดำเนินการมอบฟันเทียมพระราชทานให้กับผู้สูงอายุ จำนวน 100 ราย เนื่องจากขณะนี้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยมีประชากรสูงอายุคิดเป็นร้อยละ 16.24 จากประชากรทั้งหมด มีคลินิกผู้สูงอายุให้บริการในโรงพยาบาลทั้ง 16 แห่ง มีชมรมผู้สูงอายุในพื้นที่ที่มีการรวมตัวกันอย่างเข้มแข็ง มีการทำงานร่วมกันระหว่างเครือข่ายองค์กรที่เกี่ยวข้องกับงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในตำบลต้นแบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาวหรือ Long Term Care
        จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เข้มแข็งในการดำเนินงานโครงการฟันเทียมพระราชทาน โดยในปีนี้จังหวัดยังมีโครงการสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพช่องปากและป้องกันโรคแบบผสมผสานสำหรับผู้สูงอายุ อาทิ กิจกรรมสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพช่องปากในชมรมผู้สูงอายุและหน่วยบริการภาครัฐ ให้บริการส่งเสริมสุขภาพช่องปาก การ ส่งต่อเพื่อรับบริการทันตกรรมป้องกันตามชุดสิทธิประโยชน์ รวมทั้งสนับสนุนการแก้ปัญหาผู้สูงอายุที่สูญเสียฟันทั้งปาก ด้วยการใส่ฟันเทียมพระราชทาน และสำหรับผู้ที่ใส่ฟันเทียมแล้วหลวมได้จัดบริการทำรากฟันเทียมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเคี้ยวอาหาร ทำให้ผู้สูงอายุในจังหวัดมีฟันใช้บดเคี้ยวอาหารครบ 4 คู่ในฟันหลังเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 46 ในปี 2548 เป็นร้อยละ 53 ในปี 2554? รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
 
***
 กลุ่มสื่อสารองค์กร / 25 มิถุนายน 2556
 
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับมูลนิธิโอสถสภา และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยามอบฟันเทียมพระราชทานแก่ผู้สูงอายุในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 100 ราย แก้ปัญหาการสูญเสียฟันจนไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ พร้อมส่งเสริมการดูแลสุขภาพช่องปากด้วยตนเอง วันนี้ (25 มิถุนายน 2556) นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังพิธีมอบฟันเทียมพระราชทาน ณ ห้องประชุมโรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธาน ว่า จากการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 7 ปี 2555 พบว่า ผู้สูงอายุจำเป็นต้องใส่ฟันทั้งปากลดลงเหลือจากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 2.5 แต่ถ้าคิดตามประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก็ยังเป็นปริมาณที่สูง ประมาณ 236,000 ราย และพบความต้องการสูงสุดในภาคใต้ รองลงมาเป็นภาคกลาง นอกจากนี้ยังพบว่าความต้องการใส่ฟันเทียมบางส่วนร้อยละ 72.7 โดยผลการดำเนินงานที่ผ่านมาทำให้ปัจจุบันมีผู้สูงอายุที่สูญเสียฟันทั้งปากได้รับบริการใส่ฟันเทียมพระราชทานเกือบ 300,000 ราย เฉลี่ยปีละ 35,000 ราย ซึ่งกรมอนามัยยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลผู้สูงอายุที่สูญเสียฟันทั้งปากและบางส่วนไปพร้อม ๆ กันลดการสูญเสียฟันให้มากขึ้น ด้วยการบูรณาการกับโครงการส่งเสริมสุขภาพด้านอื่น ๆ เช่น ตำบลการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว วัดส่งเสริมสุขภาพ เป็นต้น เพื่อให้บรรลุเกณฑ์ด้านทันตสุขภาพในมาตรฐานผู้สูงอายุพึงประสงค์ คือมีฟันใช้งานได้อย่างน้อย 20 ซี่ นายแพทย์ณรงค์ กล่าวต่อไปว่า การดำเนินงานโครงการฟันเทียมพระราชทานที่ผ่านมา กรมอนามัยได้รับการสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งจากมูลนิธิโอสถสภาที่เห็นความสำคัญของการมีฟันใช้เคี้ยวอาหาร โดยจัดบริการใส่ฟันเทียมทั้งปากแก่ผู้สูงอายุเพิ่มเติมให้กับจังหวัด ๆ ละ 100 ราย ตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา รวมงบประมาณสนับสนุนแล้วทั้งสิ้นกว่า 9,800,000 บาท ซึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยานับเป็นจังหวัดที่ 18 ที่ได้ดำเนินการมอบฟันเทียมพระราชทานให้กับผู้สูงอายุ จำนวน 100 ราย เนื่องจากขณะนี้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยมีประชากรสูงอายุคิดเป็นร้อยละ 16.24 จากประชากรทั้งหมด มีคลินิกผู้สูงอายุให้บริการในโรงพยาบาลทั้ง 16 แห่ง มีชมรมผู้สูงอายุในพื้นที่ที่มีการรวมตัวกันอย่างเข้มแข็ง มีการทำงานร่วมกันระหว่างเครือข่ายองค์กรที่เกี่ยวข้องกับงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในตำบลต้นแบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาวหรือ Long Term Care \\จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เข้มแข็งในการดำเนินงานโครงการฟันเทียมพระราชทาน โดยในปีนี้จังหวัดยังมีโครงการสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพช่องปากและป้องกันโรคแบบผสมผสานสำหรับผู้สูงอายุ อาทิ กิจกรรมสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพช่องปากในชมรมผู้สูงอายุและหน่วยบริการภาครัฐ ให้บริการส่งเสริมสุขภาพช่องปาก การ ส่งต่อเพื่อรับบริการทันตกรรมป้องกันตามชุดสิทธิประโยชน์ รวมทั้งสนับสนุนการแก้ปัญหาผู้สูงอายุที่สูญเสียฟันทั้งปาก ด้วยการใส่ฟันเทียมพระราชทาน และสำหรับผู้ที่ใส่ฟันเทียมแล้วหลวมได้จัดบริการทำรากฟันเทียมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเคี้ยวอาหาร ทำให้ผู้สูงอายุในจังหวัดมีฟันใช้บดเคี้ยวอาหารครบ 4 คู่ในฟันหลังเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 46 ในปี 2548 เป็นร้อยละ 53 ในปี 2554 รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด *** กลุ่มสื่อสารองค์กร / 25 มิถุนายน 2556

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน

ติดตามข่าวสารได้ที่

แทงบอลออนไลน์ || ดูบอลสด