คุณกำลังมองหาอะไร?

ข่า

ข่าวแจก"กรมอนามัย เผยความดัน-เบาหวาน-กระดูกและข้อ 3 โรคฮิตในวัยทอง ระดมนักวิชาการสร้างความรู้รับมือ"

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

30.04.2556
7
0
แชร์
30
เมษายน
2556

ข่าวแจก"กรมอนามัย เผยความดัน-เบาหวาน-กระดูกและข้อ 3 โรคฮิตในวัยทอง ระดมนักวิชาการสร้างความรู้รับมือ"

        กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยหญิงชายวัยทองป่วยด้วยโรคประจำตัวมาก 3 อันดับแรก ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคกระดูกและข้อ จัดประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพวัยทอง เพื่อวางแผนกำหนดทิศทางการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพประชากรวัยทองในประเทศไทย และพัฒนาองค์ความรู้และศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขให้สามารถดูแลและส่งเสริมสุขภาพประชากรวัยทองได้อย่างยั่งยืน
        วันนี้ (30 เมษายน 2556) นายแพทย์ดนัย ธีวันดา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพประชากรวัยทอง ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ บางพลัด กรุงเทพมหานคร ว่า ประชากรวัยทองประกอบด้วยหญิงวัยทองหรือหญิงวัยหมดระดูอายุระหว่าง 45? 59 ปี ชายวัยทอง อายุ 40-59 ปี เป็นช่วงวัยสำคัญที่มีการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ที่มีผลจากความเสื่อมของร่างกาย และเกิดการลดลงของฮอร์โมนเพศทำให้มีปัญหาสุขภาพที่แตกต่างจากวัยอื่น ซึ่งข้อมูลด้านภาวะสุขภาพพบว่า หญิงและชายวัยทอง ร้อยละ 41.3 มีโรคประจำตัว โดยพบมาก 3 อันดับแรก ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคกระดูก และข้อ นอกจากนี้ หญิงวัยทองพบภาวะอ้วนลงพุง ร้อยละ 57.4 ส่วนชายวัยทอง พบร้อยละ 28.9 ซึ่งจากการประเมินอาการวัยทองพบว่า หญิงวัยทองร้อยละ 27.8 มีความเสี่ยงต่อการมีอาการวัยทอง ในขณะที่ชายวัยทอง ร้อยละ 36.7 มีอาการวัยทองเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น
        นายแพทย์ดนัย กล่าวต่อไปว่า ผลการศึกษาภาวะสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพในหญิงและชายวัยทอง ของสำนักส่งเสริมสุขภาพกรมอนามัย ปี 2554 พบว่า หญิงและชายวัยทองยังมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ดื่มแอลกอฮอล์พบในผู้หญิงวัยทอง ร้อยละ 39.9 และผู้ชายวัยทอง ร้อยละ 68.3 ส่วนพฤติกรรมการสูบบุหรี่ในหญิง วัยทองมีเพียงเล็กน้อย ร้อยละ 2.7 โดยพบมากในผู้ชายวัยทอง ร้อยละ 40.6 พฤติกรรมไม่ออกกำลังกาย พบว่า ผู้หญิงวัยทองไม่ออกกำลังกาย ร้อยละ 23.6 ผู้ชายวัยทองไม่ออกกำลังกาย ร้อยละ 15.3 ด้านพฤติกรรมการบริโภคอาหารยังพบว่าส่วนใหญ่ยังมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่มันจัด เค็มจัด และหวานจัด ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อสภาวะสุขภาพทำให้ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับ Metabolic syndrome ได้ 
        ทั้งนี้ ประชากรวัยทองเป็นวัยที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศ จึงควรได้รับการดูแลสุขภาพให้เหมาะสมกับวัย หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงและปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อให้หญิงและชายวัยทองมีสุขภาพดี ลดโรค ที่สามารถป้องกันได้ ชะลอการเสื่อมถอยของร่างกายและก้าวสู่วัยสูงอายุที่มีคุณภาพไม่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังสามารถพึ่งพาตนเองได้และสามารถทำประโยชน์ให้กับสังคมต่อไป? ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ กล่าวในที่สุด
                                                                                  
***
ฝ่ายประชาสัมพันธ์/ 30 เมษายน 2556
 
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยหญิงชายวัยทองป่วยด้วยโรคประจำตัวมาก 3 อันดับแรก ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคกระดูกและข้อ จัดประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพวัยทอง เพื่อวางแผนกำหนดทิศทางการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพประชากรวัยทองในประเทศไทย และพัฒนาองค์ความรู้และศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขให้สามารถดูแลและส่งเสริมสุขภาพประชากรวัยทองได้อย่างยั่งยืน วันนี้ (30 เมษายน 2556) นายแพทย์ดนัย ธีวันดา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพประชากรวัยทอง ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ บางพลัด กรุงเทพมหานคร ว่า ประชากรวัยทองประกอบด้วยหญิงวัยทองหรือหญิงวัยหมดระดูอายุระหว่าง 45 59 ปี ชายวัยทอง อายุ 40-59 ปี เป็นช่วงวัยสำคัญที่มีการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ที่มีผลจากความเสื่อมของร่างกาย และเกิดการลดลงของฮอร์โมนเพศทำให้มีปัญหาสุขภาพที่แตกต่างจากวัยอื่น ซึ่งข้อมูลด้านภาวะสุขภาพพบว่า หญิงและชายวัยทอง ร้อยละ 41.3 มีโรคประจำตัว โดยพบมาก 3 อันดับแรก ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคกระดูก และข้อ นอกจากนี้ หญิงวัยทองพบภาวะอ้วนลงพุง ร้อยละ 57.4 ส่วนชายวัยทอง พบร้อยละ 28.9 ซึ่งจากการประเมินอาการวัยทองพบว่า หญิงวัยทองร้อยละ 27.8 มีความเสี่ยงต่อการมีอาการวัยทอง ในขณะที่ชายวัยทอง ร้อยละ 36.7 มีอาการวัยทองเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น นายแพทย์ดนัย กล่าวต่อไปว่า ผลการศึกษาภาวะสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพในหญิงและชายวัยทอง ของสำนักส่งเสริมสุขภาพกรมอนามัย ปี 2554 พบว่า หญิงและชายวัยทองยังมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ดื่มแอลกอฮอล์พบในผู้หญิงวัยทอง ร้อยละ 39.9 และผู้ชายวัยทอง ร้อยละ 68.3 ส่วนพฤติกรรมการสูบบุหรี่ในหญิง วัยทองมีเพียงเล็กน้อย ร้อยละ 2.7 โดยพบมากในผู้ชายวัยทอง ร้อยละ 40.6 พฤติกรรมไม่ออกกำลังกาย พบว่า ผู้หญิงวัยทองไม่ออกกำลังกาย ร้อยละ 23.6 ผู้ชายวัยทองไม่ออกกำลังกาย ร้อยละ 15.3 ด้านพฤติกรรมการบริโภคอาหารยังพบว่าส่วนใหญ่ยังมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่มันจัด เค็มจัด และหวานจัด ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อสภาวะสุขภาพทำให้ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับ Metabolic syndrome ได้ \\ทั้งนี้ ประชากรวัยทองเป็นวัยที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศ จึงควรได้รับการดูแลสุขภาพให้เหมาะสมกับวัย หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงและปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อให้หญิงและชายวัยทองมีสุขภาพดี ลดโรค ที่สามารถป้องกันได้ ชะลอการเสื่อมถอยของร่างกายและก้าวสู่วัยสูงอายุที่มีคุณภาพไม่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังสามารถพึ่งพาตนเองได้และสามารถทำประโยชน์ให้กับสังคมต่อไป ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ กล่าวในที่สุด *** ฝ่ายประชาสัมพันธ์/ 30 เมษายน 2556

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน

ติดตามข่าวสารได้ที่

แทงบอลออนไลน์ || ดูบอลสด