ข่า
วแจก "กรมอนามัย เผยพบสิงห์อมควันเพิ่ม 13 ล้านคน จับมือกรมควบคุมโรค เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ป้องกันควบคุมการสูบบุหรี่ในรพ"
กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
12
มีนาคม
2556
ข่าวแจก "กรมอนามัย เผยพบสิงห์อมควันเพิ่ม 13 ล้านคน จับมือกรมควบคุมโรค เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ป้องกันควบคุมการสูบบุหรี่ในรพ"
กรมอนามัย ร่วมกับกรมควบคุมโรค และเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อส่งเสริมสนับสนุนโรงพยาบาล และสถานพยาบาลในการดำเนินงานควบคุมการบริโภคยาสูบ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนโรงพยาบาลและสถานพยาบาลในการดำเนินงานป้องกันควบคุมการบริโภคยาสูบได้อย่างประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น
นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อส่งเสริมสนับสนุนโรงพยาบาล/สถานพยาบาล ในการดำเนินงานควบคุมการบริโภคยาสูบ ณ ห้องสมบูรณ์ วัชโรทัย อาคาร 1ชั้น 2 กรมอนามัย ว่า จากสถิติของสำนักควบคุมการบริโภคยาสูบ กรมควบคุมโรค พบว่าจำนวนคนไทยที่สูบบุหรี่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มีผู้สูบบุหรี่ทุกชนิดรวม 13 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2552 จำนวน 5 แสนคน เป็นผู้ชายร้อยละ 46.6 ผู้หญิงร้อยละ 2.6 โดยสูบบุหรี่จากโรงงานอย่างเดียวมากที่สุด 5.1 ล้านคน รองลงมาคือบุหรี่มวนเอง 4.7 ล้านคน ที่น่าเป็นห่วงคือ ผลสำรวจยัง พบว่ามีคนไทยที่สูดควันบุหรี่มือสองในตลาดสดหรือตลาดนัดมากที่สุดร้อยละ 68.8 ในบ้านร้อยละ 36 และในที่ทำงานร้อยละ 30.5
นายแพทย์เจษฎา กล่าวต่อไปว่า กระทรวงสาธารณสุข มีบทบาทหน้าที่สำคัญในการดูแลสุขภาพของประชาชน เพื่อให้เกิดการมีพฤติกรรมสุขภาพ มีการป้องกันโรค และมีสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพโรงพยาบาลและสถานบริการสุขภาพในทุกระดับ ซึ่งจะต้องเป็นสถานที่ที่เป็นแบบอย่างของการส่งเสริมสุขภาพสุขภาพ หรือ Healthy Workplace ที่สร้างและควบคุมมิให้เกิดสภาวะที่มีผลอันตรายต่อสุขภาพของผู้ที่ปฏิบัติงาน และผู้มารับบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากควันบุหรี่ที่มีผลเสียต่อผู้สูบและผู้ไม่สูบบุหรี่ที่มำให้เกิดมะเร็งปอด โรคหลอดเลือด หัวใจตีบ และโรคทางเดินหายใจ เป็นต้น
ทั้งนี้ การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของพลังภาคีเครือข่ายที่มีเป้าหมายเดียวกันให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนการทำงาน และกลไกการพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของกรมอนามัย และกรมควบคุมโรค โดยมีส่วนส่งเสริมให้โรงพยาบาล และสถานพยาบาล เป็นเขตปลอดบุหรี่ตามกฎหมายควบคุมยาสูบ โดยมีกระบวนการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกัน และการเฝ้าระวัง รวมทั้งการบำบัดรักษาผู้ที่ติดสารนิโคตินให้เป็นไปตามแนวทางของเครือข่ายวิชาชีพแพทย์ในการควบคุมการบริโภคยาสูบมาตรฐานโรงพยาบาลและสถานพยาบาลปลอดบุหรี่ เพื่อที่ให้โรงพยาบาลและบุคลากรสาธารณสุขเป็นองค์กรและบุคลากรต้นแบบ ในการเลิกสูบบุหรี่ ที่มีผลกระทบโดยตรงต่อผู้มารับบริการ และประชาชนทั่วไป ในการรณรงค์ การเลิก การสูบบุหรี่ เพื่อสุขภาพดีของคนไทย? อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
***
กลุ่มสื่อสารองค์กร/ 12 มีนาคม 2556
กรมอนามัย ร่วมกับกรมควบคุมโรค และเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อส่งเสริมสนับสนุนโรงพยาบาล และสถานพยาบาลในการดำเนินงานควบคุมการบริโภคยาสูบ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนโรงพยาบาลและสถานพยาบาลในการดำเนินงานป้องกันควบคุมการบริโภคยาสูบได้อย่างประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อส่งเสริมสนับสนุนโรงพยาบาล/สถานพยาบาล ในการดำเนินงานควบคุมการบริโภคยาสูบ ณ ห้องสมบูรณ์ วัชโรทัย อาคาร 1ชั้น 2 กรมอนามัย ว่า จากสถิติของสำนักควบคุมการบริโภคยาสูบ กรมควบคุมโรค พบว่าจำนวนคนไทยที่สูบบุหรี่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มีผู้สูบบุหรี่ทุกชนิดรวม 13 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2552 จำนวน 5 แสนคน เป็นผู้ชายร้อยละ 46.6 ผู้หญิงร้อยละ 2.6 โดยสูบบุหรี่จากโรงงานอย่างเดียวมากที่สุด 5.1 ล้านคน รองลงมาคือบุหรี่มวนเอง 4.7 ล้านคน ที่น่าเป็นห่วงคือ ผลสำรวจยัง พบว่ามีคนไทยที่สูดควันบุหรี่มือสองในตลาดสดหรือตลาดนัดมากที่สุดร้อยละ 68.8 ในบ้านร้อยละ 36 และในที่ทำงานร้อยละ 30.5 นายแพทย์เจษฎา กล่าวต่อไปว่า กระทรวงสาธารณสุข มีบทบาทหน้าที่สำคัญในการดูแลสุขภาพของประชาชน เพื่อให้เกิดการมีพฤติกรรมสุขภาพ มีการป้องกันโรค และมีสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพโรงพยาบาลและสถานบริการสุขภาพในทุกระดับ ซึ่งจะต้องเป็นสถานที่ที่เป็นแบบอย่างของการส่งเสริมสุขภาพสุขภาพ หรือ Healthy Workplace ที่สร้างและควบคุมมิให้เกิดสภาวะที่มีผลอันตรายต่อสุขภาพของผู้ที่ปฏิบัติงาน และผู้มารับบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากควันบุหรี่ที่มีผลเสียต่อผู้สูบและผู้ไม่สูบบุหรี่ที่มำให้เกิดมะเร็งปอด โรคหลอดเลือด หัวใจตีบ และโรคทางเดินหายใจ เป็นต้น \\ทั้งนี้ การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของพลังภาคีเครือข่ายที่มีเป้าหมายเดียวกันให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนการทำงาน และกลไกการพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของกรมอนามัย และกรมควบคุมโรค โดยมีส่วนส่งเสริมให้โรงพยาบาล และสถานพยาบาล เป็นเขตปลอดบุหรี่ตามกฎหมายควบคุมยาสูบ โดยมีกระบวนการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกัน และการเฝ้าระวัง รวมทั้งการบำบัดรักษาผู้ที่ติดสารนิโคตินให้เป็นไปตามแนวทางของเครือข่ายวิชาชีพแพทย์ในการควบคุมการบริโภคยาสูบมาตรฐานโรงพยาบาลและสถานพยาบาลปลอดบุหรี่ เพื่อที่ให้โรงพยาบาลและบุคลากรสาธารณสุขเป็นองค์กรและบุคลากรต้นแบบ ในการเลิกสูบบุหรี่ ที่มีผลกระทบโดยตรงต่อผู้มารับบริการ และประชาชนทั่วไป ในการรณรงค์ การเลิก การสูบบุหรี่ เพื่อสุขภาพดีของคนไทย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด *** กลุ่มสื่อสารองค์กร/ 12 มีนาคม 2556