คุณกำลังมองหาอะไร?

ข่า

ข่าวแจก "กรมอนามัย แนะกินอาหารย่อยง่าย เน้นผักผลไม้สด ปรับร่างกายหลังออกเจ"

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

24.10.2555
7
0
แชร์
24
ตุลาคม
2555

ข่าวแจก "กรมอนามัย แนะกินอาหารย่อยง่าย เน้นผักผลไม้สด ปรับร่างกายหลังออกเจ"

        กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนกินอาหารที่ย่อยง่าย และกินผักสด ผลไม้รสไม่หวานจัด หลังออกเจ ควบคู่กับการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่ดี
        นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงการบริโภคอาหารหลังเทศกาลกินเจว่า ในช่วงกินเจติต่อกันเป็นเวลา 9 วันส่งผลให้ร่างกายมีการปรับระบบการย่อยอาหารจากที่ย่อยเนื้อสัตว์มาเป็นพืชผักแทน ดังนั้นเมื่อร่างกายต้องกลับมากินอาหารประเภทหนักๆ ตามปกติผู้บริโภคจึงต้องมีการปรับสภาพร่างกายด้วยการกินอาหารย่อยง่าย เช่น เนื้อปลา ผักและผลไม้ เช่น ผักกาดขาว แอปเปิ้ลก่อน หลีกเลี่ยงอาหารย่อยยากประเภท เนื้อวัว เนื้อหมู เนื่องจากระยะแรกร่างกายอาจจะต้องมีการปรับระบบการย่อยอาหารจากพืชผักมาเป็นเนื้อสัตว์ ซึ่งหากมีการบริโภคอาหารทีย่อยยากในช่วงแรกอาจทำให้เกิดอาหารท้องอืด จุกเสียด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อยได้ โดยภายหลังจากที่ร่างกายสามารถปรับสภาพการย่อยอาหารได้กลับมาสู่ภาวะเดิม ผู้บริโภคจะสามารถกินอาหารตามปกติได้ และทางที่ดีควรกินอาหารที่มีประโยชน์ และปลอดภัย
        นายแพทย์เจษฎา กล่าวต่อไปว่า การกินอาหารที่ทำให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน ที่ผู้บริโภคควรปฏิบัติตามข้อปฏิบัติการกินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย คือ
1. กินอาหารให้ครบ ทั้ง 5 หมู่แต่ละหมู่ให้หลากหลายและหมั่นดูแลน้ำหนัก
2. กินข้าวเป็นอาหารหลัก สลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ
3. กินพืชผักให้มากและกินผลไม้เป็นประจำ
4. กินปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ โดยเด็กสามารถกินไข่วันละ 1 ฟองได้ทุกวันแต่ผู้ใหญ่ควรกินไม่เกินสัปดาห์ละ 2-3 ฟอง
5. ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัยเพราะนมเป็นแหล่งโปรตีน วิตามินบีและแคลเซียม
6. กินอาหารที่มีไขมันแต่พอเหมาะ ซึ่งโดยปกติร่างกายควรได้รับไขมันในแต่ละวันไม่เกินร้อยละ 30 ของพลังงานที่ได้รับจากสารอาหารทั้งหมดไม่ควรเกินวันละ 6 ช้อนชา
7) หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่หวานจัดและเค็มจัด
8) กินอาหาร ที่สะอาด ปราศจากการปนเปื้อน และ
9) งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งผู้บริโภคแต่ละคนจะได้รับปริมาณสารอาหารที่มากน้อยแตกต่างกัน ดังนั้น ผู้ที่ได้รับสารอาหารในปริมาณที่มากเกินความต้องการของร่างกาย จะส่งผลให้เกิดภาวะโภชนาการเกินตามมาได้
        ทั้งนี้ การกินอาหารที่ทำให้ได้รับสารอาหารครบถ้วนไม่เพียงแต่เฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจเท่านั้นแต่ควร กินอาหารที่มีประโยชน์ และถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะควรกินผักผลไม้สดทุกวัน ควบคู่อาหาร 5 หมู่ และหลากหลาย เพราะการกินผักผลไม้เป็นประจำ จะช่วยลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจได้ เนื่องจากผักผลไม้อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรค เช่น วิตามินซี และเบต้าแคโรทีน มีไฟเบอร์หรือใยอาหาร ที่นอกจากจะช่วยให้การเคลื่อนตัวของลำไส้ดีและขับถ่ายสะดวกแล้ว ยังช่วยดูดซึมเอาสารก่อมะเร็ง ไขมัน น้ำตาล ที่ติดไปกับอาหารออกจากร่างกายได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งจากผลการศึกษาวิจัยจำนวนมากเกี่ยวกับการรับประทานผักและผลไม้ พบว่า คนที่บริโภคเป็นประจำอย่างน้อย วันละ 500 กรัมหรือประมาณ 2 ทัพพีต่อมื้อจะสามารถลดความเสี่ยงต่อโรค ดังกล่าวได้ประมาณร้อยละ 30 นอกจากนี้ ควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5วันๆละ 30 นาที - 1 ชั่วโมง เป็นประจำก็จะนำไปสู่การมีสุขภาพดีในระยะยาวต่อไป ? อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
 
***
กลุ่มสื่อสารองค์กร/ 24 ตุลาคม 2555
 
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนกินอาหารที่ย่อยง่าย และกินผักสด ผลไม้รสไม่หวานจัด หลังออกเจ ควบคู่กับการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่ดี นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงการบริโภคอาหารหลังเทศกาลกินเจว่า ในช่วงกินเจติต่อกันเป็นเวลา 9 วันส่งผลให้ร่างกายมีการปรับระบบการย่อยอาหารจากที่ย่อยเนื้อสัตว์มาเป็นพืชผักแทน ดังนั้นเมื่อร่างกายต้องกลับมากินอาหารประเภทหนักๆ ตามปกติผู้บริโภคจึงต้องมีการปรับสภาพร่างกายด้วยการกินอาหารย่อยง่าย เช่น เนื้อปลา ผักและผลไม้ เช่น ผักกาดขาว แอปเปิ้ลก่อน หลีกเลี่ยงอาหารย่อยยากประเภท เนื้อวัว เนื้อหมู เนื่องจากระยะแรกร่างกายอาจจะต้องมีการปรับระบบการย่อยอาหารจากพืชผักมาเป็นเนื้อสัตว์ ซึ่งหากมีการบริโภคอาหารทีย่อยยากในช่วงแรกอาจทำให้เกิดอาหารท้องอืด จุกเสียด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อยได้ โดยภายหลังจากที่ร่างกายสามารถปรับสภาพการย่อยอาหารได้กลับมาสู่ภาวะเดิม ผู้บริโภคจะสามารถกินอาหารตามปกติได้ และทางที่ดีควรกินอาหารที่มีประโยชน์ และปลอดภัย นายแพทย์เจษฎา กล่าวต่อไปว่า การกินอาหารที่ทำให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน ที่ผู้บริโภคควรปฏิบัติตามข้อปฏิบัติการกินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย คือ1. กินอาหารให้ครบ ทั้ง 5 หมู่แต่ละหมู่ให้หลากหลายและหมั่นดูแลน้ำหนัก2. กินข้าวเป็นอาหารหลัก สลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ3. กินพืชผักให้มากและกินผลไม้เป็นประจำ4. กินปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ โดยเด็กสามารถกินไข่วันละ 1 ฟองได้ทุกวันแต่ผู้ใหญ่ควรกินไม่เกินสัปดาห์ละ 2-3 ฟอง5. ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัยเพราะนมเป็นแหล่งโปรตีน วิตามินบีและแคลเซียม6. กินอาหารที่มีไขมันแต่พอเหมาะ ซึ่งโดยปกติร่างกายควรได้รับไขมันในแต่ละวันไม่เกินร้อยละ 30 ของพลังงานที่ได้รับจากสารอาหารทั้งหมดไม่ควรเกินวันละ 6 ช้อนชา7) หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่หวานจัดและเค็มจัด8) กินอาหาร ที่สะอาด ปราศจากการปนเปื้อน และ9) งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งผู้บริโภคแต่ละคนจะได้รับปริมาณสารอาหารที่มากน้อยแตกต่างกัน ดังนั้น ผู้ที่ได้รับสารอาหารในปริมาณที่มากเกินความต้องการของร่างกาย จะส่งผลให้เกิดภาวะโภชนาการเกินตามมาได้ \\ทั้งนี้ การกินอาหารที่ทำให้ได้รับสารอาหารครบถ้วนไม่เพียงแต่เฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจเท่านั้นแต่ควร กินอาหารที่มีประโยชน์ และถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะควรกินผักผลไม้สดทุกวัน ควบคู่อาหาร 5 หมู่ และหลากหลาย เพราะการกินผักผลไม้เป็นประจำ จะช่วยลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจได้ เนื่องจากผักผลไม้อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรค เช่น วิตามินซี และเบต้าแคโรทีน มีไฟเบอร์หรือใยอาหาร ที่นอกจากจะช่วยให้การเคลื่อนตัวของลำไส้ดีและขับถ่ายสะดวกแล้ว ยังช่วยดูดซึมเอาสารก่อมะเร็ง ไขมัน น้ำตาล ที่ติดไปกับอาหารออกจากร่างกายได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งจากผลการศึกษาวิจัยจำนวนมากเกี่ยวกับการรับประทานผักและผลไม้ พบว่า คนที่บริโภคเป็นประจำอย่างน้อย วันละ 500 กรัมหรือประมาณ 2 ทัพพีต่อมื้อจะสามารถลดความเสี่ยงต่อโรค ดังกล่าวได้ประมาณร้อยละ 30 นอกจากนี้ ควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5วันๆละ 30 นาที - 1 ชั่วโมง เป็นประจำก็จะนำไปสู่การมีสุขภาพดีในระยะยาวต่อไป อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด *** กลุ่มสื่อสารองค์กร/ 24 ตุลาคม 2555

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน

ติดตามข่าวสารได้ที่

แทงบอลออนไลน์ || ดูบอลสด