ข่าวแจก"กรมอนามัย สานต่อการเจริญตามรอยพระยุคลบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พัฒนารูปแบบการจัดการด้านอาหาร โภชนาการและสุขภาพเด็กในโรงเรียนอย่างครบวงจร"
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สานต่อการเจริญตามรอยพระยุคลบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โครงการเด็กไทยแก้มใส หวังลดปัญหาภาวะอ้วน ผอม ตั้งเป้าภายในปี 2579 ส่วนสูงเฉลี่ยที่อายุ 19 ปี ชายไทยสูง 180 เซนติเมตร หญิง 170 เซนติเมตร เน้นพื้นที่มีส่วนร่วมมากขึ้น พร้อมผลักดันเป็นพันธกิจที่สำคัญของโรงเรียนและชุมชน
วันนี้ (2 พฤศจิกายน 2559) นายแพทย์ณัฐพร วงษ์ศุทธิภากร รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เดินหน้าเพื่อพัฒนาเด็กไทยแก้มใสสู่ความยั่งยืน ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ว่า กรมอนามัยร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กรุงเทพมหานคร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดำเนินการขับเคลื่อนงานการเจริญ ตามรอยพระยุคลบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โครงการเด็กไทยแก้มใสมาตั้งแต่ปี 2557โดยการน้อมนำรูปแบบที่ดีด้านอาหาร โภชนาการ และสุขภาพในโรงเรียนอย่างครบวงจร โดยมี 8กิจกรรมสำคัญ ได้แก่ เกษตรในโรงเรียน สหกรณ์นักเรียน การจัดบริการอาหารของโรงเรียน การติดติดตามภาวะโภชนาการนักเรียนการพัฒนาสุขนิสัยนักเรียน การพัฒนางานอนามัยสิ่งแวดล้อม การจัดบริการสุขภาพนักเรียน และการจัดการเรียนรู้เกษตร โภชนาการและสุขภาพ ซึ่งขณะนี้ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 มีโรงเรียนที่ร่วมพัฒนาการเจริญตามรอยพระยุคลบาทฯโครงการเด็กไทยแก้มใส ในแผนงานกรมอนามัย จำนวน 422 แห่ง ที่ยังต้องได้รับการสนับสนุนองค์ความรู้ เสริมพลังทางบวกเพื่อก้าวสู่การเป็นแหล่งเรียนรู้การเจริญตามรอยพระยุคลบาทฯ ด้านการจัดการอาหาร โภชนาการและสุขภาพอย่างครบวงจรจาก 72 จังหวัด โดยในวันนี้ เป็นการประชุม ในรุ่นที่ 1 กลุ่มภาคกลางและภาคใต้ มีจังหวัดเข้าร่วมการประชุม 36 จังหวัด 52 สพป. 164 โรงเรียน
นายแพทย์ณัฐพร กล่าวต่อไปว่า กรมอนามัยตั้งเป้าส่งเสริมให้เด็กวัยเรียนสูง สมส่วน แข็งแรง และฉลาดมีภาวะโภชนาการอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน มีสมรรถภาพทางกายที่ดีโดยผู้ชายมีส่วนสูงเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 180 เซนติเมตร ผู้หญิงเฉลี่ย 170 เซนติเมตร ภาวะทุพโภชนาการในภาพรวมของประเทศลดลง นักเรียนมีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วนไม่เกินร้อยละ 10 ภาวะผอมไม่เกินร้อยละ 7 และภาวะเตี้ยไม่เกินร้อยละ 5 รวมทั้งปัญหาฟันผุในนักเรียนลดลงหรือไม่เพิ่มขึ้น ควบคู่กับการส่งเสริมให้นักเรียนมีความฉลาดทางสุขภาวะ มีพื้นฐานในการคิด เรียนรู้ เกิดทักษะในการดำรงชีวิต และมี จิตสาธารณะ เพื่อนำไปสู่การมีภาวะสุขภาพที่ดี ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลด้านการพัฒนาศักยภาพคนตามช่วงวัย และสอดคล้องกับการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
"ทั้งนี้ หน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านอาหาร โภชนาการ และสุขภาพ คือ ศูนย์อนามัย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานประมงจังหวัด สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด สำนักงานสหกรณ์จังหวัด สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์จังหวัด ซึ่งเป็นหน่วยงานส่วนภูมิภาคที่จะสนับสนุนให้โรงเรียนเกิดการพัฒนาการเจริญตามรอยพระยุคลบาทฯ โครงการเด็กไทยแก้มใสได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของโรงเรียน และบรรลุผลสำเร็จตาม เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีกิจกรรมสำคัญ คือ 1)พัฒนาโรงเรียนให้เป็นแหล่งเรียนรู้การเจริญตามรอย พระ ยุคลบาทฯ โครงการเด็กไทยแก้มใส 2) พัฒนาฐานข้อมูลด้านอาหารโภชนาการและสุขภาพ 3) พัฒนา สื่อ นวัตกรรมระดับพื้นที่ 4) นิเทศ ติดตาม แบบเสริมพลัง และ 5)ขยายผลและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะด้านอาหาร โภชนาการและสุขภาพระดับท้องถิ่น เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการควบคุมป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านอาหาร โภชนาการ และสุขภาพ? นายแพทย์ณัฐพร กล่าว
รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการเดินหน้าเพื่อพัฒนาเด็กไทยแก้มใสสู่ความยั่งยืนในครั้งนี้จะช่วยเสริมพลังและแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นในการดำเนินงาน อีกทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และพร้อมที่จะร่วมกันผลักดันการดำเนินงานเด็กไทยแก้มใสให้เป็นพันธกิจสำคัญของโรงเรียนและชุมชน อันจะส่งผลให้เด็กไทยได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสุขภาพดี มีภาวะโภชนาการสมวัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ในอนาคตต่อไป
***
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 2 พฤศจิกายน 2559
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สานต่อการเจริญตามรอยพระยุคลบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โครงการเด็กไทยแก้มใส หวังลดปัญหาภาวะอ้วน ผอม ตั้งเป้าภายในปี 2579 ส่วนสูงเฉลี่ยที่อายุ 19 ปี ชายไทยสูง 180 เซนติเมตร หญิง 170 เซนติเมตร เน้นพื้นที่มีส่วนร่วมมากขึ้น พร้อมผลักดันเป็นพันธกิจที่สำคัญของโรงเรียนและชุมชน วันนี้ (2 พฤศจิกายน 2559) นายแพทย์ณัฐพร วงษ์ศุทธิภากร รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เดินหน้าเพื่อพัฒนาเด็กไทยแก้มใสสู่ความยั่งยืน ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ว่า กรมอนามัยร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กรุงเทพมหานคร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดำเนินการขับเคลื่อนงานการเจริญ ตามรอยพระยุคลบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โครงการเด็กไทยแก้มใสมาตั้งแต่ปี 2557โดยการน้อมนำรูปแบบที่ดีด้านอาหาร โภชนาการ และสุขภาพในโรงเรียนอย่างครบวงจร โดยมี 8กิจกรรมสำคัญ ได้แก่ เกษตรในโรงเรียน สหกรณ์นักเรียน การจัดบริการอาหารของโรงเรียน การติดติดตามภาวะโภชนาการนักเรียนการพัฒนาสุขนิสัยนักเรียน การพัฒนางานอนามัยสิ่งแวดล้อม การจัดบริการสุขภาพนักเรียน และการจัดการเรียนรู้เกษตร โภชนาการและสุขภาพ ซึ่งขณะนี้ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 มีโรงเรียนที่ร่วมพัฒนาการเจริญตามรอยพระยุคลบาทฯโครงการเด็กไทยแก้มใส ในแผนงานกรมอนามัย จำนวน 422 แห่ง ที่ยังต้องได้รับการสนับสนุนองค์ความรู้ เสริมพลังทางบวกเพื่อก้าวสู่การเป็นแหล่งเรียนรู้การเจริญตามรอยพระยุคลบาทฯ ด้านการจัดการอาหาร โภชนาการและสุขภาพอย่างครบวงจรจาก 72 จังหวัด โดยในวันนี้ เป็นการประชุม ในรุ่นที่ 1 กลุ่มภาคกลางและภาคใต้ มีจังหวัดเข้าร่วมการประชุม 36 จังหวัด 52 สพป. 164 โรงเรียน นายแพทย์ณัฐพร กล่าวต่อไปว่า กรมอนามัยตั้งเป้าส่งเสริมให้เด็กวัยเรียนสูง สมส่วน แข็งแรง และฉลาดมีภาวะโภชนาการอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน มีสมรรถภาพทางกายที่ดีโดยผู้ชายมีส่วนสูงเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 180 เซนติเมตร ผู้หญิงเฉลี่ย 170 เซนติเมตร ภาวะทุพโภชนาการในภาพรวมของประเทศลดลง นักเรียนมีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วนไม่เกินร้อยละ 10 ภาวะผอมไม่เกินร้อยละ 7 และภาวะเตี้ยไม่เกินร้อยละ 5 รวมทั้งปัญหาฟันผุในนักเรียนลดลงหรือไม่เพิ่มขึ้น ควบคู่กับการส่งเสริมให้นักเรียนมีความฉลาดทางสุขภาวะ มีพื้นฐานในการคิด เรียนรู้ เกิดทักษะในการดำรงชีวิต และมี จิตสาธารณะ เพื่อนำไปสู่การมีภาวะสุขภาพที่ดี ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลด้านการพัฒนาศักยภาพคนตามช่วงวัย และสอดคล้องกับการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ทั้งนี้ หน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านอาหาร โภชนาการ และสุขภาพ คือ ศูนย์อนามัย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานประมงจังหวัด สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด สำนักงานสหกรณ์จังหวัด สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์จังหวัด ซึ่งเป็นหน่วยงานส่วนภูมิภาคที่จะสนับสนุนให้โรงเรียนเกิดการพัฒนาการเจริญตามรอยพระยุคลบาทฯ โครงการเด็กไทยแก้มใสได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของโรงเรียน และบรรลุผลสำเร็จตาม เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีกิจกรรมสำคัญ คือ 1)พัฒนาโรงเรียนให้เป็นแหล่งเรียนรู้การเจริญตามรอย พระ ยุคลบาทฯ โครงการเด็กไทยแก้มใส 2) พัฒนาฐานข้อมูลด้านอาหารโภชนาการและสุขภาพ 3) พัฒนา สื่อ นวัตกรรมระดับพื้นที่ 4) นิเทศ ติดตาม แบบเสริมพลัง และ 5)ขยายผลและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะด้านอาหาร โภชนาการและสุขภาพระดับท้องถิ่น เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการควบคุมป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านอาหาร โภชนาการ และสุขภาพ นายแพทย์ณัฐพร กล่าว รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการเดินหน้าเพื่อพัฒนาเด็กไทยแก้มใสสู่ความยั่งยืนในครั้งนี้จะช่วยเสริมพลังและแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นในการดำเนินงาน อีกทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และพร้อมที่จะร่วมกันผลักดันการดำเนินงานเด็กไทยแก้มใสให้เป็นพันธกิจสำคัญของโรงเรียนและชุมชน อันจะส่งผลให้เด็กไทยได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสุขภาพดี มีภาวะโภชนาการสมวัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ในอนาคตต่อไป *** ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 2 พฤศจิกายน 2559