ข่าวแจก"กรมอนามัย ช่วยเด็กอีสานในถิ่นทุรกันดารมีส้วมสะอาดใช้ มอบเพิ่มให้ รร.ตชด. จ.สุรินทร์"
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สร้างและส่งมอบส้วมสุขอนามัยในถิ่นทุรกันดาร ตามโครงการสุขอนามัย เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้กับพื้นที่ภาคอีสาน จังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้มีส้วมใช้งานตามมาตรฐาน HAS สะอาด เพียงพอ และปลอดภัย
วันนี้ (25 กรกฎาคม 2559) นางสาวสิริวรรณ จันทนจุลกะ ผู้อำนวยการสำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานเปิดงานพิธีส่งมอบและเปิดป้ายส้วมสุขอนามัยในโครงการสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระยะที่ 2 ปี 2559 ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนท่านผู้หญิงสุประภาดา เกษมสันต์ อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ว่า กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่เป้าหมาย ให้ความสำคัญในกลุ่มเด็กและเยาวชนในโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารในพื้นที่เป้าหมายตามพระราชดำริ มุ่งให้โรงเรียนเป็นฐานการพัฒนา พึ่งตนเอง สร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน และใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างประหยัดและเกิดประสิทธิผลสูงสุด ซึ่งที่ผ่านมาพบว่านักเรียนในโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารมีปัญหาในเรื่องของส้วมไม่เพียงพอและไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น ชำรุด มีกลิ่นเหม็น และไม่สะอาด โดยพบว่ามีส้วมที่ชำรุดและไม่สามารถใช้งานได้ในโรงเรียนมากถึงร้อยละ 50 นับเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ส่งผลต่อการดำรงชีวิตประจำวัน รวมทั้งมีอัตราการใช้ส้วมไม่เหมาะสมและจำนวนส้วมไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารกำหนดว่านักเรียน 50 คน ต้องมีส้วม 1 ห้อง โดยกรมอนามัยได้กำหนดให้ควรมีส้วมทั้ง 2 แบบ ให้เลือกใช้คือแบบนั่งยองและแบบนั่งราบหรือแบบชักโครก เพื่อให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน เช่น หากเป็นเด็กจะให้มีส้วมทั้ง 2 แบบ เพราะเด็กส่วนใหญ่จะใช้ส้วมแบบนั่งยองจนเคยชิน แต่โรงเรียนจะต้องฝึกให้นักเรียนใช้ส้วมแบบนั่งราบด้วย ให้เด็กเกิดการเรียนรู้และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้เมื่อเจอส้วมแบบนั่งราบ แต่หากเป็นผู้ใหญ่โดยเฉพาะผู้สูงอายุจะเน้นการสร้างส้วมแบบนั่งราบเพื่อป้องกันปัญหาเรื่องข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควร ที่สำคัญเด็กนักเรียน ครู และประชาชนในชุมชน ควรดูแลทำความสะอาดส้วมให้ถูกหลักสุขาภิบาล เพื่อไม่ให้กลายเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรค โดยเฉพาะส้วมในโรงเรียนต้องมีความสะอาด ปลอดภัย เพียงพอ และควรปลูกฝังพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกวิธีควบคู่กันไปด้วย
นางสาวสิริวรรณ กล่าวต่อไปว่า ในปี 2558 มีโรงเรียนเป้าหมายในถิ่นทุรกันดารได้รับส้วมสุขอนามัยในโครงการสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา ฯ มาตรฐาน HAS ทั่วประเทศแล้ว จำนวน 81 แห่ง โดยได้ส่งมอบให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนพิกัดกระจายทั่วพื้นที่ภาคอีสาน 11 แห่ง ใน 2 จังหวัด ๆ ละ 2 แห่ง คือ สุรินทร์ อุบลราชธานี และจังหวัดละ 1 แห่ง คือ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ นครพนม สกลนคร อุดรธานี และบึงกาฬ โดยครั้งนี้เป็นการส่งมอบส้วมสุขอนามัย ระยะที่ 2 ปี 2559 เพิ่มในโซนพื้นที่ภาคอีสานอีก 3 แห่ง คือ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนท่านผู้หญิง สุประภาดา เกษมสันต์ อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านตาเอ็ม อำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านห้วยเป้า อำเภอปากชม จังหวัดเลย เป็นการพัฒนาให้โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเป็นต้นแบบด้านสุขาภิบาลสุขอนามัยต่อไป "ทั้งนี้ การดำเนินงานโครงการสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษาฯ ระยะที่ 2 ปี 2559 นี้ ได้รับพระราชทาน พระราชานุญาตให้สร้างและปรับปรุงส้วมโรงเรียนเป้าหมายในถิ่นทุรกันดารขยายผลตามความขาดแคลนและความจำเป็นของโรงเรียน ภายใต้การมีส่วนร่วมกับภาคีเครือข่ายอย่างเข้มแข็ง เช่น บริษัท องค์กร ภาคเอกชน และภาคประชาชน ที่ให้การสนับสนุนเงินบริจาคสมทบกองทุนกพด. ปูนซีเมนต์ สุขภัณฑ์ และวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับใช้ในการสร้างและปรับปรุงส้วมให้กับโรงเรียนเป้าหมายในถิ่นทุรกันดาร และจะทำการทยอยส่งมอบส้วมสุขอนามัยให้กับโรงเรียนเป้าหมาย จนครบ 120 แห่ง ในโอกาสอันเป็นมงคลดังกล่าว? ผู้อำนวยการสำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม กล่าวในที่สุด
***
สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง / 25 กรกฎาคม 2559
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สร้างและส่งมอบส้วมสุขอนามัยในถิ่นทุรกันดาร ตามโครงการสุขอนามัย เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้กับพื้นที่ภาคอีสาน จังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้มีส้วมใช้งานตามมาตรฐาน HAS สะอาด เพียงพอ และปลอดภัย วันนี้ (25 กรกฎาคม 2559) นางสาวสิริวรรณ จันทนจุลกะ ผู้อำนวยการสำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานเปิดงานพิธีส่งมอบและเปิดป้ายส้วมสุขอนามัยในโครงการสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระยะที่ 2 ปี 2559 ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนท่านผู้หญิงสุประภาดา เกษมสันต์ อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ว่า กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่เป้าหมาย ให้ความสำคัญในกลุ่มเด็กและเยาวชนในโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารในพื้นที่เป้าหมายตามพระราชดำริ มุ่งให้โรงเรียนเป็นฐานการพัฒนา พึ่งตนเอง สร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน และใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างประหยัดและเกิดประสิทธิผลสูงสุด ซึ่งที่ผ่านมาพบว่านักเรียนในโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารมีปัญหาในเรื่องของส้วมไม่เพียงพอและไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น ชำรุด มีกลิ่นเหม็น และไม่สะอาด โดยพบว่ามีส้วมที่ชำรุดและไม่สามารถใช้งานได้ในโรงเรียนมากถึงร้อยละ 50 นับเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ส่งผลต่อการดำรงชีวิตประจำวัน รวมทั้งมีอัตราการใช้ส้วมไม่เหมาะสมและจำนวนส้วมไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารกำหนดว่านักเรียน 50 คน ต้องมีส้วม 1 ห้อง โดยกรมอนามัยได้กำหนดให้ควรมีส้วมทั้ง 2 แบบ ให้เลือกใช้คือแบบนั่งยองและแบบนั่งราบหรือแบบชักโครก เพื่อให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน เช่น หากเป็นเด็กจะให้มีส้วมทั้ง 2 แบบ เพราะเด็กส่วนใหญ่จะใช้ส้วมแบบนั่งยองจนเคยชิน แต่โรงเรียนจะต้องฝึกให้นักเรียนใช้ส้วมแบบนั่งราบด้วย ให้เด็กเกิดการเรียนรู้และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้เมื่อเจอส้วมแบบนั่งราบ แต่หากเป็นผู้ใหญ่โดยเฉพาะผู้สูงอายุจะเน้นการสร้างส้วมแบบนั่งราบเพื่อป้องกันปัญหาเรื่องข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควร ที่สำคัญเด็กนักเรียน ครู และประชาชนในชุมชน ควรดูแลทำความสะอาดส้วมให้ถูกหลักสุขาภิบาล เพื่อไม่ให้กลายเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรค โดยเฉพาะส้วมในโรงเรียนต้องมีความสะอาด ปลอดภัย เพียงพอ และควรปลูกฝังพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกวิธีควบคู่กันไปด้วย นางสาวสิริวรรณ กล่าวต่อไปว่า ในปี 2558 มีโรงเรียนเป้าหมายในถิ่นทุรกันดารได้รับส้วมสุขอนามัยในโครงการสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา ฯ มาตรฐาน HAS ทั่วประเทศแล้ว จำนวน 81 แห่ง โดยได้ส่งมอบให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนพิกัดกระจายทั่วพื้นที่ภาคอีสาน 11 แห่ง ใน 2 จังหวัด ๆ ละ 2 แห่ง คือ สุรินทร์ อุบลราชธานี และจังหวัดละ 1 แห่ง คือ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ นครพนม สกลนคร อุดรธานี และบึงกาฬ โดยครั้งนี้เป็นการส่งมอบส้วมสุขอนามัย ระยะที่ 2 ปี 2559 เพิ่มในโซนพื้นที่ภาคอีสานอีก 3 แห่ง คือ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนท่านผู้หญิง สุประภาดา เกษมสันต์ อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านตาเอ็ม อำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านห้วยเป้า อำเภอปากชม จังหวัดเลย เป็นการพัฒนาให้โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเป็นต้นแบบด้านสุขาภิบาลสุขอนามัยต่อไป ทั้งนี้ การดำเนินงานโครงการสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษาฯ ระยะที่ 2 ปี 2559 นี้ ได้รับพระราชทาน พระราชานุญาตให้สร้างและปรับปรุงส้วมโรงเรียนเป้าหมายในถิ่นทุรกันดารขยายผลตามความขาดแคลนและความจำเป็นของโรงเรียน ภายใต้การมีส่วนร่วมกับภาคีเครือข่ายอย่างเข้มแข็ง เช่น บริษัท องค์กร ภาคเอกชน และภาคประชาชน ที่ให้การสนับสนุนเงินบริจาคสมทบกองทุนกพด. ปูนซีเมนต์ สุขภัณฑ์ และวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับใช้ในการสร้างและปรับปรุงส้วมให้กับโรงเรียนเป้าหมายในถิ่นทุรกันดาร และจะทำการทยอยส่งมอบส้วมสุขอนามัยให้กับโรงเรียนเป้าหมาย จนครบ 120 แห่ง ในโอกาสอันเป็นมงคลดังกล่าว ผู้อำนวยการสำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม กล่าวในที่สุด *** สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง / 25 กรกฎาคม 2559