ก
รมอนามัย ร่วมกับภาคีเครือข่ายส่งเสริมเด็กไทยดื่มนมฟลูออไรด์ สืบสานพระราชปณิธาน รัชกาลที่ 9 สร้างเด็กไทยฟันดีอย่างยั่งยืน
กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
11
พ.ค.
2561
กรมอนามัย ร่วมกับภาคีเครือข่ายส่งเสริมเด็กไทยดื่มนมฟลูออไรด์ สืบสานพระราชปณิธาน รัชกาลที่ 9 สร้างเด็กไทยฟันดีอย่างยั่งยืน
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และภาคีเครือข่ายดำเนินงานส่งเสริมเด็กไทยดื่มนมฟลูออไรด์ พร้อมสร้างพฤติกรรมลดการบริโภคหวาน เพื่อสืบสานพระราชปณิธานแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 สร้างเด็กไทยฟันดีอย่างยั่งยืน
นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงการดำเนินงานโครงการนมฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ ในประเทศไทย ว่า กรมอนามัยร่วมกับโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินงานโครงการนมฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2543 จนกระทั่งถึงปัจจุบันเพื่อสืบสานพระราชปณิธานแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 สร้างเด็กไทยฟันดีอย่างยั่งยืน ภายใต้การสนับสนุนด้านวิชาการจากองค์การอนามัยโลก และการสนับสนุนงบประมาณจากมูลนิธิ The Borrow Foundation ประเทศอังกฤษ ในรูปแบบการเสริมฟลูออไรด์ผ่านทางนมซึ่งอยู่ในโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนเพื่อป้องกันฟันผุ โดยเริ่มครั้งแรกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากพบปัญหาฟันผุสูงและมีฟลูออไรด์ในน้ำบริโภคต่ำ โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา จึงได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตนมฟลูออไรด์เป็นแห่งแรกในประเทศ ในรูปแบบนมพาสเจอร์ไรซ์ขนาดถุงละ 200 มิลลิลิตร มีปริมาณฟลูออไรด์ 0.5 มิลลิกรัม/ถุง ตามที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ ซึ่งปัจจุบันโครงการนมฟลูออไรด์ฯ ได้ดำเนินการใน 12 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชุมพร ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี สระแก้ว ชลบุรี กระบี่ พัทลุง ตรัง ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส มีโรงนมที่ร่วมผลิตนมฟลูออไรด์ รวมทั้งสิ้น 21 แห่ง
นายแพทย์ดนัย กล่าวต่อไปว่า จากผลการศึกษาพบว่าการดื่มนมฟลูออไรด์อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี สามารถลดโรคฟันผุในฟันแท้ได้ ร้อยละ 34.4 โดยปริมาณฟลูออไรด์ที่ได้รับถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมมีความปลอดภัย ไม่พบผลเสียเรื่องฟันตกกระ และเด็กยังคงต้องแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ตามปกติ นอกจากนี้โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา ได้จัดอบรมเพิ่มความรู้ทักษะในการผลิตนมฟลูออไรด์พร้อมการตรวจวิเคราะห์ให้กับเจ้าหน้าที่ของโรงนมทุกแห่งสามารถผลิตนมฟลูออไรด์ที่อยู่ในค่ามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง ช่วยลดโรคฟันผุได้ทั้งในฟันน้ำนมและฟันถาวรร้อยละ 11.5 ถึง 83.6 ซึ่งที่ผ่านมาจากการกำกับ เฝ้าระวังปริมาณฟลูออไรด์โดยรวมทั้ง 12 จังหวัด พบว่าเด็กได้รับฟลูออไรด์อยู่ในระดับพอเหมาะในการป้องกันฟันผุตามค่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลก และในปีนี้ได้มีแผนการปรับปรุงข้อมูลปริมาณฟลูออไรด์ในแหล่งน้ำบริโภคของจังหวัดที่ร่วมโครงการ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจวิเคราะห์และจัดทำเป็นแผนที่ฟลูออไรด์ต่อไป
"ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกด้านทันตสุขภาพได้แนะนำว่านอกเหนือจากการแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์แล้ว การเสริมฟลูออไรด์ในชุมชนผ่านทางน้ำประปา เกลือ หรือนมทางใดทางหนึ่ง เป็นมาตรการที่เพิ่มประสิทธิผลในการป้องกันฟันผุอย่างทั่วถึง เท่าเทียมและคุ้มทุน โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีฐานะปานกลางถึงต่ำ ซึ่งปัญหาฟันผุในเด็กไทยเป็นปัญหาทางทันตสาธารณสุขของประเทศ และมีความเป็นไปได้ในการเสริมฟลูออไรด์ในนมภายใต้โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนมีความสอดคล้องกับวิถีชีวิตของเด็กไทยที่มีการดื่มนมที่โรงเรียนทุกวันเรียน ทำให้ได้รับประโยชน์ในการป้องกันฟันผุเพิ่มเติมจากที่ได้รับคุณค่าทางโภชนาการของนมตามปกติ นอกจากการส่งเสริมให้เด็กดื่มนมทุกคน ทุกวันแล้ว ยังมีการรณรงค์ปรับลดพฤติกรรมการบริโภคหวาน และเพิ่มการดูแลอนามัยช่องปากและเร่งรัดงานส่งเสริมสุขภาพในทุกด้าน เพื่อให้เด็กไทยแข็งแรงฟันไม่ผุอย่างยั่งยืน? รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
"ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกด้านทันตสุขภาพได้แนะนำว่านอกเหนือจากการแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์แล้ว การเสริมฟลูออไรด์ในชุมชนผ่านทางน้ำประปา เกลือ หรือนมทางใดทางหนึ่ง เป็นมาตรการที่เพิ่มประสิทธิผลในการป้องกันฟันผุอย่างทั่วถึง เท่าเทียมและคุ้มทุน โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีฐานะปานกลางถึงต่ำ ซึ่งปัญหาฟันผุในเด็กไทยเป็นปัญหาทางทันตสาธารณสุขของประเทศ และมีความเป็นไปได้ในการเสริมฟลูออไรด์ในนมภายใต้โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนมีความสอดคล้องกับวิถีชีวิตของเด็กไทยที่มีการดื่มนมที่โรงเรียนทุกวันเรียน ทำให้ได้รับประโยชน์ในการป้องกันฟันผุเพิ่มเติมจากที่ได้รับคุณค่าทางโภชนาการของนมตามปกติ นอกจากการส่งเสริมให้เด็กดื่มนมทุกคน ทุกวันแล้ว ยังมีการรณรงค์ปรับลดพฤติกรรมการบริโภคหวาน และเพิ่มการดูแลอนามัยช่องปากและเร่งรัดงานส่งเสริมสุขภาพในทุกด้าน เพื่อให้เด็กไทยแข็งแรงฟันไม่ผุอย่างยั่งยืน? รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
***
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ/ 11 พฤษภาคม 2561
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และภาคีเครือข่ายดำเนินงานส่งเสริมเด็กไทยดื่มนมฟลูออไรด์ พร้อมสร้างพฤติกรรมลดการบริโภคหวาน เพื่อสืบสานพระราชปณิธานแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 สร้างเด็กไทยฟันดีอย่างยั่งยืน นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงการดำเนินงานโครงการนมฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ ในประเทศไทย ว่า กรมอนามัยร่วมกับโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินงานโครงการนมฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2543 จนกระทั่งถึงปัจจุบันเพื่อสืบสานพระราชปณิธานแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 สร้างเด็กไทยฟันดีอย่างยั่งยืน ภายใต้การสนับสนุนด้านวิชาการจากองค์การอนามัยโลก และการสนับสนุนงบประมาณจากมูลนิธิ The Borrow Foundation ประเทศอังกฤษ ในรูปแบบการเสริมฟลูออไรด์ผ่านทางนมซึ่งอยู่ในโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนเพื่อป้องกันฟันผุ โดยเริ่มครั้งแรกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากพบปัญหาฟันผุสูงและมีฟลูออไรด์ในน้ำบริโภคต่ำ โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา จึงได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตนมฟลูออไรด์เป็นแห่งแรกในประเทศ ในรูปแบบนมพาสเจอร์ไรซ์ขนาดถุงละ 200 มิลลิลิตร มีปริมาณฟลูออไรด์ 0.5 มิลลิกรัม/ถุง ตามที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ ซึ่งปัจจุบันโครงการนมฟลูออไรด์ฯ ได้ดำเนินการใน 12 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชุมพร ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี สระแก้ว ชลบุรี กระบี่ พัทลุง ตรัง ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส มีโรงนมที่ร่วมผลิตนมฟลูออไรด์ รวมทั้งสิ้น 21 แห่ง นายแพทย์ดนัย กล่าวต่อไปว่า จากผลการศึกษาพบว่าการดื่มนมฟลูออไรด์อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี สามารถลดโรคฟันผุในฟันแท้ได้ ร้อยละ 34.4 โดยปริมาณฟลูออไรด์ที่ได้รับถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมมีความปลอดภัย ไม่พบผลเสียเรื่องฟันตกกระ และเด็กยังคงต้องแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ตามปกติ นอกจากนี้โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา ได้จัดอบรมเพิ่มความรู้ทักษะในการผลิตนมฟลูออไรด์พร้อมการตรวจวิเคราะห์ให้กับเจ้าหน้าที่ของโรงนมทุกแห่งสามารถผลิตนมฟลูออไรด์ที่อยู่ในค่ามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง ช่วยลดโรคฟันผุได้ทั้งในฟันน้ำนมและฟันถาวรร้อยละ 11.5 ถึง 83.6 ซึ่งที่ผ่านมาจากการกำกับ เฝ้าระวังปริมาณฟลูออไรด์โดยรวมทั้ง 12 จังหวัด พบว่าเด็กได้รับฟลูออไรด์อยู่ในระดับพอเหมาะในการป้องกันฟันผุตามค่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลก และในปีนี้ได้มีแผนการปรับปรุงข้อมูลปริมาณฟลูออไรด์ในแหล่งน้ำบริโภคของจังหวัดที่ร่วมโครงการ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจวิเคราะห์และจัดทำเป็นแผนที่ฟลูออไรด์ต่อไป ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกด้านทันตสุขภาพได้แนะนำว่านอกเหนือจากการแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์แล้ว การเสริมฟลูออไรด์ในชุมชนผ่านทางน้ำประปา เกลือ หรือนมทางใดทางหนึ่ง เป็นมาตรการที่เพิ่มประสิทธิผลในการป้องกันฟันผุอย่างทั่วถึง เท่าเทียมและคุ้มทุน โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีฐานะปานกลางถึงต่ำ ซึ่งปัญหาฟันผุในเด็กไทยเป็นปัญหาทางทันตสาธารณสุขของประเทศ และมีความเป็นไปได้ในการเสริมฟลูออไรด์ในนมภายใต้โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนมีความสอดคล้องกับวิถีชีวิตของเด็กไทยที่มีการดื่มนมที่โรงเรียนทุกวันเรียน ทำให้ได้รับประโยชน์ในการป้องกันฟันผุเพิ่มเติมจากที่ได้รับคุณค่าทางโภชนาการของนมตามปกติ นอกจากการส่งเสริมให้เด็กดื่มนมทุกคน ทุกวันแล้ว ยังมีการรณรงค์ปรับลดพฤติกรรมการบริโภคหวาน และเพิ่มการดูแลอนามัยช่องปากและเร่งรัดงานส่งเสริมสุขภาพในทุกด้าน เพื่อให้เด็กไทยแข็งแรงฟันไม่ผุอย่างยั่งยืน รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด *** ศูนย์สื่อสารสาธารณะ/ 11 พฤษภาคม 2561