ข่า
วแจก "กรมอนามัยร่วมภาคภูมิใจกับชาวตะกั่วป่า ในพิธีประกาศพื้นที่น้ำประปาดื่มได้"
กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
21
สิงหาคม
2555
ข่าวแจก "กรมอนามัยร่วมภาคภูมิใจกับชาวตะกั่วป่า ในพิธีประกาศพื้นที่น้ำประปาดื่มได้"
นางสุรีย์ วงศ์ปิยชน รักษาการ นักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ ผู้แทนอธิบดีกรมอนามัย นายสมชาย มนต์บุรีนนท์ รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ 5) การประปาส่วนภูมิภาค ร่วมเป็นประธานในพิธีประกาศรับรองพื้นที่น้ำประปาดื่มได้สาขาตะกั่วป่า (หน่วยบริการบ้านลำแก่น) เป็นพื้นที่น้ำประปาดื่มได้ ในวันพุธที่ 1 สิงหาคม 2555 ณ บริเวณสระเก็บน้ำหนองมูลตะกั่ว บ้านบางเนียง ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา นับเป็นระบบประปาในสังกัดการประปาส่วนภูมิภาคลำดับที่ 153 ที่ได้รับการรับรองน้ำประปาดื่มได้จากกรมอนามัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าน้ำที่ใช้บริโภคมีความสะอาดปลอดภัยตั้งแต่แหล่งผลิตจนถึงปลายท่อบ้านผู้ใช้น้ำ ตามเกณฑ์คุณภาพน้ำประปาที่กรมอนามัยกำหนด โดยมี นายอภิวัฒน์ นาวานุกูล ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาตะกั่วป่า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา ศูนย์อนามัยที่ 11 นครศรีธรรมราช หัวหน้าส่วนราชการทุกท่านและคณะเจ้าหน้าที่ ร่วมแสดงความยินดีและมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ประปาตะกั่วป่าประสบความสำเร็จรวมถึงชาวบ้านตะกั่วป่าทุกคน
การประปาตะกั่วป่าก่อสร้างในปี 2503 โดยใช้แหล่งน้ำดิบจากน้ำตกเขาบางอี มีอัตราการผลิตในขณะนั้น 20 ลบ.ม. /ชม. และทำการจ่ายน้ำให้ประชาชนบริเวณตลาดตะกั่วป่า ครั้งแรกวันที่ 1 มิถุนายน 2504 จากนั้นมีการพัฒนาปรับปรุงระบบจนกระทั่งปัจจุบัน สามารถให้บริการครอบคลุมพื้นที่ ตำบลบางนายสี ตำบลบางไทร ตำบลบางม่วง ตำบลโคกเคียน ตำบลเกาะคอเขา และเทศบาลเมืองตะกั่วป่า ใช้แหล่งน้ำดิบจากน้ำตกบางอีและขุมเหมืองโคกเคียน โดยมีจำนวนผู้ใช้น้ำทั้งหมดรวม 3,836 ราย มีกำลังผลิตทั้งสิ้น 120 ลบ.ม./ชม
อนึ่ง การจัดพิธีประกาศรับรองพื้นที่น้ำประปาดื่มได้นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นใจว่าคุณภาพน้ำประปามีความสะอาดปลอดภัยได้ตามมาตรฐานน้ำบริโภคกรมอนามัย ช่วยให้ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่าย จากการซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดและลดปัญหาสิ่งแวดล้อมจากขยะขวดพลาสติก ซึ่งภายหลังจากการประกาศพื้นที่น้ำประปาดื่มได้แล้ว การประปาส่วนภูมิภาคจะจัดคณะทำงานดำเนินการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำประปา เพื่อควบคุมให้ได้มาตรฐานน้ำบริโภคกรมอนามัยอย่างต่อเนื่อง อันจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการบริโภคน้ำประปาที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน สะอาด และปลอดภัย ได้เป็นอย่างดี
***
สำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ / 21 สิงหาคม 2555
นางสุรีย์ วงศ์ปิยชน รักษาการ นักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ ผู้แทนอธิบดีกรมอนามัย นายสมชาย มนต์บุรีนนท์ รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ 5) การประปาส่วนภูมิภาค ร่วมเป็นประธานในพิธีประกาศรับรองพื้นที่น้ำประปาดื่มได้สาขาตะกั่วป่า (หน่วยบริการบ้านลำแก่น) เป็นพื้นที่น้ำประปาดื่มได้ ในวันพุธที่ 1 สิงหาคม 2555 ณ บริเวณสระเก็บน้ำหนองมูลตะกั่ว บ้านบางเนียง ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา นับเป็นระบบประปาในสังกัดการประปาส่วนภูมิภาคลำดับที่ 153 ที่ได้รับการรับรองน้ำประปาดื่มได้จากกรมอนามัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าน้ำที่ใช้บริโภคมีความสะอาดปลอดภัยตั้งแต่แหล่งผลิตจนถึงปลายท่อบ้านผู้ใช้น้ำ ตามเกณฑ์คุณภาพน้ำประปาที่กรมอนามัยกำหนด โดยมี นายอภิวัฒน์ นาวานุกูล ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาตะกั่วป่า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา ศูนย์อนามัยที่ 11 นครศรีธรรมราช หัวหน้าส่วนราชการทุกท่านและคณะเจ้าหน้าที่ ร่วมแสดงความยินดีและมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ประปาตะกั่วป่าประสบความสำเร็จรวมถึงชาวบ้านตะกั่วป่าทุกคน การประปาตะกั่วป่าก่อสร้างในปี 2503 โดยใช้แหล่งน้ำดิบจากน้ำตกเขาบางอี มีอัตราการผลิตในขณะนั้น 20 ลบ.ม. /ชม. และทำการจ่ายน้ำให้ประชาชนบริเวณตลาดตะกั่วป่า ครั้งแรกวันที่ 1 มิถุนายน 2504 จากนั้นมีการพัฒนาปรับปรุงระบบจนกระทั่งปัจจุบัน สามารถให้บริการครอบคลุมพื้นที่ ตำบลบางนายสี ตำบลบางไทร ตำบลบางม่วง ตำบลโคกเคียน ตำบลเกาะคอเขา และเทศบาลเมืองตะกั่วป่า ใช้แหล่งน้ำดิบจากน้ำตกบางอีและขุมเหมืองโคกเคียน โดยมีจำนวนผู้ใช้น้ำทั้งหมดรวม 3,836 ราย มีกำลังผลิตทั้งสิ้น 120 ลบ.ม./ชม อนึ่ง การจัดพิธีประกาศรับรองพื้นที่น้ำประปาดื่มได้นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นใจว่าคุณภาพน้ำประปามีความสะอาดปลอดภัยได้ตามมาตรฐานน้ำบริโภคกรมอนามัย ช่วยให้ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่าย จากการซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดและลดปัญหาสิ่งแวดล้อมจากขยะขวดพลาสติก ซึ่งภายหลังจากการประกาศพื้นที่น้ำประปาดื่มได้แล้ว การประปาส่วนภูมิภาคจะจัดคณะทำงานดำเนินการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำประปา เพื่อควบคุมให้ได้มาตรฐานน้ำบริโภคกรมอนามัยอย่างต่อเนื่อง อันจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการบริโภคน้ำประปาที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน สะอาด และปลอดภัย ได้เป็นอย่างดี ***สำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ / 21 สิงหาคม 2555