กระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมภาคีเครือข่ายชมรมผู้ประกอบการค้าอาหาร พร้อมลงนามบันทึกความร่วมมือ รวมพลังผู้ประกอบการค้าอาหารทั่วไทย ส่งเสริมให้คนไทยสุขภาพดี หวังพัฒนาสถานประกอบกิจการด้านอาหารให้ได้มาตรฐานอย่างยั่งยืน รับประชาคมอาเซียนในปี 2558
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2555 นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมภาคีเครือข่ายชมรมผู้ประกอบการค้าอาหาร มหกรรมรวมพลังผู้ประกอบการค้าอาหารทั่วไทย ส่งเสริมให้คนไทยสุขภาดี ประจำปี 2555ณ โรงแรมวรบุรี อโยธยา คอนเวนชั่น รีสอร์ท จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ผนึกกำลังความร่วมมือกับกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาสถานประกอบการค้าอาหารมาตั้งแต่ปี 2542 ภายใต้โครงการอาหารสะอาด รสชาติอร่อย (Clean Food Good Taste)เป็นกลไกในการขับเคลื่อนเพื่อกระตุ้นเร่งรัดให้ผู้ประกอบการค้าอาหารได้พัฒนาสถานประกอบการให้ถูกสุขหลักสุขาภิบาลอาหาร พร้อมจัดการประชุมชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารทั่วประเทศเป็นประจำทุกปีนับตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ส่งผลให้ปัจจุบันมีร้านอาหาร/แผงลอยจำหน่ายอาหาร จำนวน 139,144 แห่ง ผ่านเกณฑ์มาตรฐานและได้รับป้ายรับรอง อาหารสะอาด รสชาติอร่อย จำนวน 119,955 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 86.21
นายวิทยา กล่าวต่อไปว่า การดำเนินงานอาหารปลอดภัยในปี 2555 นี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ขับเคลื่อนงานโภชนาการทั้งเมนูชูสุขภาพ ลดหวาน มัน เค็ม รณรงค์กินรสจืด ยืดชีวิต เพื่อสร้างสุขภาพดีให้กับผู้บริโภคลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ มะเร็ง และโรคอ้วน อีกทั้งสนับสนุนนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลกของรัฐบาล และเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการค้าอาหารทั่วประเทศรับประชาคมอาเซียนในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับสมาคมภัตตาคารไทย สมาคมผู้ประกอบการอาหาร และสมาคมผู้ประกอบการร้านอาหารและแผงลอยแห่งประเทศไทย ภายใต้ 3 ข้อหลัก คือ
1) ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาร้านอาหาร แผงลอย ให้ถูกหลักสุขาภิบาลอาหารและเลือกวัตถุดิบในการประกอบอาหารที่สะอาด ปลอดภัย
2) ปรุงอาหารโดยลดหวาน มัน เค็ม เพิ่มผักผลไม้ในเมนูอาหาร และร่วมรณรงค์ให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคเพื่อลดโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวาน และ
3) จัดร้านอาหารให้เป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อส่งเสริมให้คนไทยสุขภาพดี และเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558
นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การพัฒนาสถานประกอบการให้ได้ตามมาตรฐานนั้นผู้สัมผัสอาหารถือว่าเป็นบุคคลที่สำคัญ กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัยจึงได้จัดทำหลักสูตรการสุขาภิบาลอาหารสำหรับผู้สัมผัสอาหารขึ้น เพื่อให้ผู้สัมผัสอาหารมีความรู้ด้านสุขาภิบาลอาหารและน้ำ และสามารถนำไปปฏิบัติเพื่อพัฒนาสถานประกอบการให้ได้มาตรฐานดียิ่งขึ้น โดยผู้สัมผัสอาหารที่ผ่านหลักสูตรการสุขาภิบาลอาหารสำหรับผู้สัมผัสอาหาร จะได้รับบัตรประจำตัวผู้สัมผัสอาหารเป็นเครื่องหมายแสดงถึงความเป็นมืออาชีพด้านความปลอดภัยของอาหาร ช่วยให้ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวมั่นใจในความสะอาด ปลอดภัย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้มอบบัตรประจำตัวผู้ผ่านการอบรมตามหลักสูตรการสุขาภิบาลอาหารสำหรับผู้สัมผัสอาหารตามมาตรฐานของกรมอนามัยแล้วกว่า 10,000
นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้การบริโภคอาหารของประชาชนจะมุ่งเน้นที่ความสะอาดปลอดภัยและคุณค่าทางโภชนาการ รวมถึงคำนึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัยจึงได้สนับสนุนให้ผู้ประกอบการค้าอาหารปรุงอาหารที่ลดปริมาณความเค็มและหวานให้น้อยลง โดยผ่านทางชมรม สมาคม ผู้ประกอบการค้าอาหาร ซึ่งปัจจุบันมีชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารระดับจังหวัด ระดับอำเภอและระดับเทศบาลครอบคลุมทุกจังหวัด นอกจากนี้ยังมีการจดทะเบียนเป็นองค์กรนิติบุคคลในนามสมาคมอีก 3 สมาคม ได้แก่ สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมผู้ประกอบการอาหาร และสมาคมผู้ประกอบการร้านอาหารและแผงลอยแห่งประเทศไทย
ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การประชุมภาคีเครือข่ายชมรมผู้ประกอบการ ค้าอาหารฯ ในครั้งนี้ ประกอบด้วยนักวิชาการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารทั่วประเทศ สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมผู้ประกอบการค้าอาหาร และสมาคมผู้ประกอบการร้านอาหารฯ รวม 900 คน ซึ่งนับเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในกลุ่มชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารที่มีความจำเป็นเพื่อระดมความคิดเห็นในการหาแนวทางพัฒนาสถานประกอบกิจการด้านอาหารให้ได้มาตรฐานอย่างยั่งยืนต่อไป
***
กลุ่มสื่อสารองค์กร / 8 สิงหาคม 2555