ข่า
วแจก "สธ. ชวนคนไทยลดอ้วนสร้างบุญ ตั้งเป้า 10,000 ตัน ตลอดพรรษานี้"
กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
07
สิงหาคม
2555
ข่าวแจก "สธ. ชวนคนไทยลดอ้วนสร้างบุญ ตั้งเป้า 10,000 ตัน ตลอดพรรษานี้"
กระทรวงสาธารณสุข ชวนคนไทยลดอ้วนช่วงเข้าพรรษาในโครงการรณรงค์ทำความดีเข้าพรรษา ลดน้ำหนักสร้างสุขภาพดีวิถีชีวิตไทย ภายใต้แนวคิด เข้าพรรษา ลดอ้วน สร้างบุญ : ได้บุญล้นใจ คนไทยลดอ้วน? ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา 90 วัน และในปี พุทธชยันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้ขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า? ตั้งเป้าลดน้ำหนักในผู้ที่มีภาวะอ้วน 10,000 ตันทั่วประเทศ
วันนี้ (6 สิงหาคม 2555) นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการกรมอนามัยรณรงค์ทำความดีเข้าพรรษา ลดน้ำหนักสร้างสุขภาพดีวิถีไทย ภายใต้แนวคิด เข้าพรรษา ลดอ้วน สร้างบุญ : ได้บุญล้นใจ คนไทยลดอ้วน? ณ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายเร่งรัดมาตรการสร้างสุขภาพเพื่อลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ โรคเบาหวาน ความดัน-โลหิตสูง หัวใจ หลอดเลือดสมอง และมะเร็ง ภายใต้แนวคิด สุขภาพดีโดยไม่ต้องกินยา? ด้วยการชวนคนไทยร่วมทำบุญลดอ้วนช่วงเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 6 สิงหาคม ถึง 30 ตุลาคม 2555 รวม 90 วันหลังพบข้อมูลคนไทยมีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วนถึง 17 ล้านคน และเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 25 ต่อปี มีผู้เสียชีวิตจากโรคอ้วนถึงปีละ 20,000 คน
นายแพทย์สุรวิทย์ กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์โรคอ้วนและอ้วนลงพุงของคนไทย เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อ โรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่าง ๆ ขณะนี้คนไทยป่วยด้วยโรคหัวใจหลอดเลือดเพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 2 ราย เสียชีวิตชั่วโมงละ 1 ราย ในเพศหญิงโรคมะเร็งเต้านมพบมากที่สุด จากข้อมูลปี 2553 พบผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมรายใหม่ถึง 13,154 ราย และเสียชีวิต 4,665 ราย โดยผู้ป่วยโรคมะเร็งและโรคหัวใจร้อยละ 70 จะมีประวัติเป็นโรคอ้วนหรือมีไขมันในเลือดสูงมาก่อน จากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ภาครัฐต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษามากกว่าปีละ 100,000 ล้านบาท นับเป็นปัญหาสาธารณสุขที่ต้องเร่งดำเนินการป้องกันและรักษา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายลดปัญหาและป้องกันไม่ให้คนไทยป่วยเป็นโรคอ้วนและอ้วนลงพุง โดยถือโอกาสช่วงเข้าพรรษาตั้งเป้าหมายลดน้ำหนักในผู้ที่มีภาวะอ้วนทั้งประเทศ 10,000 ตัน
ทางด้าน ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้ดำเนินตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาโรคอ้วนคนไทย โดยส่งเสริมให้ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปี ขึ้นไป มีพฤติกรรมการบริโภคอาหารและออกกำลังกายที่เหมาะสม รวมถึงอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการลดโรค แต่จากรายงานการศึกษาเรื่องความชุกของภาวะเมตาบอลิกซินโดรมในกลุ่มเจ้าหน้าที่กรมอนามัยเฉพาะในส่วนกลางเมื่อปี 2552 ปรากฏว่าองค์ประกอบของภาวะเมตาบอลิกซินโดรมที่พบมากที่สุด 3 อันดับแรกในเพศหญิงคือ ร้อยละ 34.3 รอบเอวมากกว่า 80 เซนติเมตร ร้อยละ 27.8 ระดับน้ำตาลในเลือดสูง และร้อยละ 23.9 ไขมันชนิดดี (HDL-Cholesterol) ในเลือดต่ำ สำหรับในเพศชายพบมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ร้อยละ 48.5 มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ร้อยละ 37.9 ระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง และ ร้อยละ 18.2 ระดับความดันโลหิตสูงและภาวะอ้วนลงพุง การที่กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินโครงการรณรงค์ทำความดีเข้าพรรษา โดยตั้งเป้าลดน้ำหนักให้ได้ 10,000 ตัน ช่วงเข้าพรรษา กรมอนามัยในฐานะหน่วยงานหลักเพื่อแก้ปัญหาโรคอ้วนคนไทยได้นำเจ้าหน้าที่ กรมอนามัยจำนวน 4,000 คน เข้าร่วมโครงการดังกล่าว เพื่อเป็นหน่วยงานต้นแบบในการลดความอ้วนอย่างถูกวิธี พร้อมนำผู้บริหารของกรมอนามัยทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคร่วมลงนามในใบสัตยาธิษฐาน และได้นิมนต์พระสงฆ์ร่วมสวดชยันโตเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ก่อนนำใบสัตยาธิษฐานไปผูก ณ ต้นไม้ลดอ้วนต่อไป? ดร.นพ.สมยศ กล่าว
***
กลุ่มสื่อสารองค์กร / 6 สิงหาคม 2555
กระทรวงสาธารณสุข ชวนคนไทยลดอ้วนช่วงเข้าพรรษาในโครงการรณรงค์ทำความดีเข้าพรรษา ลดน้ำหนักสร้างสุขภาพดีวิถีชีวิตไทย ภายใต้แนวคิด \\เข้าพรรษา ลดอ้วน สร้างบุญ : ได้บุญล้นใจ คนไทยลดอ้วน ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา 90 วัน และในปี \\พุทธชยันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้ขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งเป้าลดน้ำหนักในผู้ที่มีภาวะอ้วน 10,000 ตันทั่วประเทศ วันนี้ (6 สิงหาคม 2555) นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการกรมอนามัยรณรงค์ทำความดีเข้าพรรษา ลดน้ำหนักสร้างสุขภาพดีวิถีไทย ภายใต้แนวคิด \\เข้าพรรษา ลดอ้วน สร้างบุญ : ได้บุญล้นใจ คนไทยลดอ้วน ณ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายเร่งรัดมาตรการสร้างสุขภาพเพื่อลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ โรคเบาหวาน ความดัน-โลหิตสูง หัวใจ หลอดเลือดสมอง และมะเร็ง ภายใต้แนวคิด \\สุขภาพดีโดยไม่ต้องกินยา ด้วยการชวนคนไทยร่วมทำบุญลดอ้วนช่วงเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 6 สิงหาคม ถึง 30 ตุลาคม 2555 รวม 90 วันหลังพบข้อมูลคนไทยมีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วนถึง 17 ล้านคน และเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 25 ต่อปี มีผู้เสียชีวิตจากโรคอ้วนถึงปีละ 20,000 คน นายแพทย์สุรวิทย์ กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์โรคอ้วนและอ้วนลงพุงของคนไทย เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อ โรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่าง ๆ ขณะนี้คนไทยป่วยด้วยโรคหัวใจหลอดเลือดเพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 2 ราย เสียชีวิตชั่วโมงละ 1 ราย ในเพศหญิงโรคมะเร็งเต้านมพบมากที่สุด จากข้อมูลปี 2553 พบผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมรายใหม่ถึง 13,154 ราย และเสียชีวิต 4,665 ราย โดยผู้ป่วยโรคมะเร็งและโรคหัวใจร้อยละ 70 จะมีประวัติเป็นโรคอ้วนหรือมีไขมันในเลือดสูงมาก่อน จากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ภาครัฐต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษามากกว่าปีละ 100,000 ล้านบาท นับเป็นปัญหาสาธารณสุขที่ต้องเร่งดำเนินการป้องกันและรักษา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายลดปัญหาและป้องกันไม่ให้คนไทยป่วยเป็นโรคอ้วนและอ้วนลงพุง โดยถือโอกาสช่วงเข้าพรรษาตั้งเป้าหมายลดน้ำหนักในผู้ที่มีภาวะอ้วนทั้งประเทศ 10,000 ตัน ทางด้าน ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้ดำเนินตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาโรคอ้วนคนไทย โดยส่งเสริมให้ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปี ขึ้นไป มีพฤติกรรมการบริโภคอาหารและออกกำลังกายที่เหมาะสม รวมถึงอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการลดโรค แต่จากรายงานการศึกษาเรื่องความชุกของภาวะเมตาบอลิกซินโดรมในกลุ่มเจ้าหน้าที่กรมอนามัยเฉพาะในส่วนกลางเมื่อปี 2552 ปรากฏว่าองค์ประกอบของภาวะเมตาบอลิกซินโดรมที่พบมากที่สุด 3 อันดับแรกในเพศหญิงคือ ร้อยละ 34.3 รอบเอวมากกว่า 80 เซนติเมตร ร้อยละ 27.8 ระดับน้ำตาลในเลือดสูง และร้อยละ 23.9 ไขมันชนิดดี (HDL-Cholesterol) ในเลือดต่ำ สำหรับในเพศชายพบมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ร้อยละ 48.5 มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ร้อยละ 37.9 ระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง และ ร้อยละ 18.2 ระดับความดันโลหิตสูงและภาวะอ้วนลงพุง \\การที่กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินโครงการรณรงค์ทำความดีเข้าพรรษา โดยตั้งเป้าลดน้ำหนักให้ได้ 10,000 ตัน ช่วงเข้าพรรษา กรมอนามัยในฐานะหน่วยงานหลักเพื่อแก้ปัญหาโรคอ้วนคนไทยได้นำเจ้าหน้าที่ กรมอนามัยจำนวน 4,000 คน เข้าร่วมโครงการดังกล่าว เพื่อเป็นหน่วยงานต้นแบบในการลดความอ้วนอย่างถูกวิธี พร้อมนำผู้บริหารของกรมอนามัยทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคร่วมลงนามในใบสัตยาธิษฐาน และได้นิมนต์พระสงฆ์ร่วมสวดชยันโตเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ก่อนนำใบสัตยาธิษฐานไปผูก ณ ต้นไม้ลดอ้วนต่อไป ดร.นพ.สมยศ กล่าว ***กลุ่มสื่อสารองค์กร / 6 สิงหาคม 2555