ข่าวแจก "กรม อ. เผย 6 จุดเปื้อนสุดเสี่ยง หวั่นเด็กถิ่นทุรกันดารรับเชื้อโรค สร้างส้วมมาตรฐาน HAS ป้องกัน"

      กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผย 6 จุดเสี่ยงปนเปื้อนอุจจาระในส้วมแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรค ห่วงสุขภาพเด็กไทยในถิ่นทุรกันดาร สร้างส้วมสะอาดมาตรฐาน HAS ล่าสุดส่งมอบเพิ่ม 6 แห่งในพื้นที่ภาคกลางตะวันออก 3 จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และกาญจนบุรี

      วันนี้ (23 มีนาคม 2558) นายพิษณุ แสนประเสริฐ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีส่งมอบและเปิดป้ายส้วมสุขอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านท่าวังหิน อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำริในการพัฒนาเด็กและเยาวชนตลอดจนประชาชนที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารเพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ยังพบว่าสภาวะสุขภาพเด็กและเยาวชนยังมีปัญหาด้านการเจริญเติบโต ทุพโภชนาการ จากสาเหตุหนอนพยาธิ สุขอนามัยส่วนบุคคล เนื่องมาจากการขาดแคลนส้วมในครัวเรือน รวมถึงพบความไม่เพียงพอของส้วมในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนและสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะ 6 จุดเสี่ยงปนเปื้อนอุจจารระ ได้แก่ สายฉีดน้ำชำระ พื้นห้องส้วม ที่รองนั่งส้วมแบบนั่งราบ ที่กดน้ำ ก๊อกน้ำ และกลอนประตู ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ เช่น ท้องเสีย อุจจาระร่วง บิด ไทฟอยด์ ไวรัสตับอักเสบชนิดเอ ที่สามารถติดต่อจากการสัมผัสสิ่งขับถ่ายที่ปนเปื้อนเชื้อโรค

      นายพิษณุ กล่าวต่อไปว่า กรมอนามัยได้จับมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนปรับปรุงและสร้างส้วมให้กับโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 เดิมตั้งเป้า 60 แห่ง จำนวน 600 ห้องส้วม ต่อมาเพิ่มเป็น 81 แห่ง เพื่อให้โรงเรียนได้มีส้วมสะอาดได้มาตรฐาน HAS สะอาด เพียงพอ และปลอดภัย พร้อมทั้งส่งเสริมพฤติกรรมการใช้ส้วมของนักเรียนให้ถูกสุขลักษณะ ซึ่งขณะนี้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว 28 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 34 และจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2558 อีก 47 แห่ง โดยรวมการส่งมอบส้วมในครั้งนี้จำนวน 6 แห่ง ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคกลางตะวันตก ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี และจะดำเนินการเสร็จสิ้นทั้งหมด 81 แห่งภายในเดือนเมษายน 2558

      ทั้งนี้ สถานการณ์การขาดแคลนส้วมในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกลหรือถิ่นทุรกันดารในภาพรวมของประเทศพบว่า มีไม่เพียงพอต่อการใช้งานถึงร้อยละ 13 สภาพส้วมชำรุดทรุดโทรมไม่ได้มาตรฐานร้อยละ 20 ส้วมไม่สะอาดมีคราบสกปรก ร้อยละ 48 นอกจากนี้ยังพบว่านักเรียนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ไม่ถูกวิธีชอบทำลายวัสดุ อุปกรณ์ ขีดเขียนข้อความหรือพ่นสีสเปรย์บนฝาผนัง จึงต้องสร้างความรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ส้วมให้ถูกวิธี โดยไม่ขึ้นไปเหยียบบนโถส้วมแบบชักโครก ไม่ทิ้งวัสดุอื่นใดนอกจากกระดาษชำระลงโถส้วม ราดน้ำหรือกดชักโครกทุกครั้งหลังการใช้ส้วมและล้างมือทุกครั้งหลังการใช้ส้วม?

      รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว ทางด้าน นายแพทย์ชลทิศ อุไรฤกษ์กุล ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 4 ราชบุรี กล่าวว่า พิธีส่งมอบและเปิดป้ายส้วมสุขอนามัยฯ ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคกลางตะวันตก กรมอนามัยได้รับความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานทุกระดับในสังกัดตำรวจตระเวนชายแดน บริษัทและห้างร้านต่าง ๆ ในการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ดำเนินการสร้างและปรับปรุงห้องส้วมให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน 6 แห่ง แบ่งเป็นจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 4 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านป่าหมาก โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนนเรศวรป่าละอู โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแพรกตะคร้อ และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านท่าวังหินสำหรับจังหวัดเพชรบุรีมีจำนวน 1 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านโป่งลึก และจังหวัดกาญจนบุรี อีก 1 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนวัดสุธาสิน

***

สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง / 23 มีนาคม 2558