คุณกำลังมองหาอะไร?

ข่า

ข่าวแจก"กรมอนามัย - โฮมโปร มอบส้วม HAS เพิ่มโอกาสผู้พิการ และนักเรียน ใช้ส้วมสะอาด"

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

24.02.2559
12
0
แชร์
24
กุมภาพันธ์
2559

ข่าวแจก"กรมอนามัย - โฮมโปร มอบส้วม HAS เพิ่มโอกาสผู้พิการ และนักเรียน ใช้ส้วมสะอาด"

      กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดห้องส้วมผู้พิการในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางพลับ และรับมอบ ส้วมโรงเรียนวัดสาลีโขภิตาราม (อุ่น-อนุสรณ์) ในโครงการห้องน้ำของหนู ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน HAS จากบริษัทโฮมโปร เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)
      วันนี้ (24 กุมภาพันธ์ 2559) นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดห้องส้วมผู้สูงอายุ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางพลับ และส่งมอบโครงการห้องน้ำของหนู ณ โรงเรียนวัดสาลีโขภิตาราม (อุ่น-อนุสรณ์)จังหวัดนนทบุรี ว่า กรมอนามัยได้ประกาศนโยบายพัฒนาส้วมสาธารณะ และจัดทำแผนแม่บทพัฒนาส้วมสาธารณะไทยขึ้นเมื่อปี 2548มีวัตถุประสงค์หลักให้ประเทศไทยมีส้วมสาธารณะที่สะอาด (Health,H) เพียงพอ (Accessibility,A) และปลอดภัย (Safety,S) หรือมาตรฐาน HAS และส่งเสริมให้คนไทยมีพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกต้อง กำหนดเป้าหมายเป็นส้วมในสถานที่สาธารณะ 12ประเภท ซึ่งโรงพยาบาลเป็น 1 สถานที่เป้าหมายหลักที่จะต้องดำเนินการให้ส้วมในโรงพยาบาล ได้มาตรฐาน HAS ของกรมอนามัย ซึ่งในเกณฑ์มาตรฐานจะกำหนดให้ส้วมที่ผ่านการรับรองจะต้องมีส้วมนั่งราบอย่างน้อย 1 ที่ ไว้บริการประชาชน สำหรับโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขก็เป็นอีกเป้าหมายที่สำคัญที่จะต้องพัฒนาส้วมให้ได้มาตรฐาน HAS และต้องมีส้วมนั่งราบพร้อมราวจับไว้ อย่างน้อย 1ที่ พร้อมส่งเสริมให้ส้วมของโรงพยาบาลมีส้วมสำหรับผู้พิการ หญิงตั้งครรภ์ คนชราที่ได้มาตรฐานไว้บริการโดยเฉพาะ โดยปัจจุบันส้วมในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขผ่านมาตรฐาน HASร้อยละ 99.08หากผู้ใช้บริการพบว่าส้วมในโรงพยาบาลยังไม่สะอาด สามารถแจ้งมาที่กรมอนามัย 02 590 4194 หรือ http://complain.anamai.go.th
      นายแพทย์วชิระ กล่าวต่อไปว่า หากไม่มีการจัดการส้วมที่ถูกหลักสุขาภิบาล รวมทั้งการปลูกฝังพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกวิธี ส้วมก็จะกลายเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรคได้ โดยเฉพาะส้วมในโรงเรียนต้องมีความสะอาด ปลอดภัย เพียงพอ แต่จากการสำรวจสภาพส้วมและพฤติกรรมการใช้ส้วมของนักเรียนพบว่า ส้วมมีสภาพชำรุดทรุดโทรมไม่ได้มาตรฐาน และนักเรียนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ไม่ถูกวิธี ชอบทำลายวัสดุ อุปกรณ์ ขีดเขียนข้อความหรือพ่นสีสเปรย์บนฝาผนังซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้ส้วมในโรงเรียนสกปรก กลิ่นเหม็น เป็นสาเหตุให้เด็กนักเรียนไม่กล้าใช้ส้วม และส่งผลเสียต่อสุขภาพของเด็กนักเรียน โดยเฉพาะโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ กรวยไตอักเสบ ที่เกิดจากการกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน รวมทั้งส้วมอาจกลายเป็นแหล่งแพร่กระจายของเชื้อโรค เช่น โรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร โรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ โรคพยาธิ โรคตาแดงและ โรคเชื้อราที่เกิดจากสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อโรคร่วมกับผู้อื่น
      นายแพทย์วชิระ กล่าวต่อว่า การดำเนินงานที่ผ่านมา กรมอนามัย ได้บูรณาการการดำเนินงานพัฒนาส้วมสาธารณะไทยร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการมีส้วมสะอาด เพียงพอ ปลอดภัย ซึ่งบริษัทโฮมโปร เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)เป็นภาคีเครือข่ายของกรมอนามัยมาตั้งแต่ปี 2549ในการสนับสนุนงบประมาณ สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ในการสร้าง และปรับปรุงส้วมตามสถานที่สาธารณะต่างๆ และได้ดำเนินโครงการห้องน้ำของหนูด้วยการสร้างและปรับปรุงส้วมให้โรงเรียนในพื้นที่ที่บริษัทได้ไปเปิดสาขาทั่วประเทศ พร้อมทั้งได้พัฒนาส้วมของโรงเรียนให้ผ่านมาตรฐาน HASของกรมอนามัย และจัดอบรมให้นักเรียนมีพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกต้องด้วย สำหรับในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี บริษัทโฮมโปร เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)ได้เปิดสาขาชัยพฤกษ์ และได้ปรับปรุงส้วมในโรงเรียนวัดสาลีโขภิตาราม (อุ่น-อนุสรณ์)และห้องส้วมผู้พิการในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางพลับ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมจัดพิธีส่งมอบโครงการห้องน้ำของหนูให้กับกรมอนามัยในครั้งนี้
      "ทั้งนี้ การมีพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกต้อง ได้แก่ ไม่ขึ้นไปเหยียบบนโถส้วมแบบนั่งราบ ไม่ทิ้งวัสดุนอกจากกระดาษชำระลงโถส้วม ราดน้ำหรือกดชักโครกทุกครั้งหลังการใช้ส้วม และล้างมือทุกครั้งหลัง การใช้ส้วม เพื่อช่วยกันรักษาความสะอาด ลดจุดเสี่ยงของการเกิดโรคและสุขอนามัยที่ดี นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่มีส้วมสาธารณะไว้บริการควรตระหนักถึงความสะอาด โดยเน้นทำความสะอาด 3จุดอันตราย คือ ที่รองนั่งโถส้วมพื้นห้องส้วม สายฉีดน้ำชำระ และ 4 จุดเสี่ยง คือ ที่กดโถส้วม ที่กดโถปัสสาวะ ก๊อกน้ำอ่างล้างมือ กลอนและลูกบิดประตูภายในห้องส้วม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค? อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
 
*** 
 
สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง / 24 กุมภาพันธ์ 2559
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดห้องส้วมผู้พิการในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางพลับ และรับมอบ ส้วมโรงเรียนวัดสาลีโขภิตาราม (อุ่น-อนุสรณ์) ในโครงการห้องน้ำของหนู ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน HAS จากบริษัทโฮมโปร เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) วันนี้ (24 กุมภาพันธ์ 2559) นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดห้องส้วมผู้สูงอายุ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางพลับ และส่งมอบโครงการห้องน้ำของหนู ณ โรงเรียนวัดสาลีโขภิตาราม (อุ่น-อนุสรณ์)จังหวัดนนทบุรี ว่า กรมอนามัยได้ประกาศนโยบายพัฒนาส้วมสาธารณะ และจัดทำแผนแม่บทพัฒนาส้วมสาธารณะไทยขึ้นเมื่อปี 2548 มีวัตถุประสงค์หลักให้ประเทศไทยมีส้วมสาธารณะที่สะอาด (Health, H) เพียงพอ (Accessibility, A) และปลอดภัย (Safety, S) หรือมาตรฐาน HAS และส่งเสริมให้คนไทยมีพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกต้อง กำหนดเป้าหมายเป็นส้วมในสถานที่สาธารณะ 12ประเภท ซึ่งโรงพยาบาลเป็น 1 สถานที่เป้าหมายหลักที่จะต้องดำเนินการให้ส้วมในโรงพยาบาล ได้มาตรฐาน HAS ของกรมอนามัย ซึ่งในเกณฑ์มาตรฐานจะกำหนดให้ส้วมที่ผ่านการรับรองจะต้องมีส้วมนั่งราบอย่างน้อย 1 ที่ ไว้บริการประชาชน สำหรับโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขก็เป็นอีกเป้าหมายที่สำคัญที่จะต้องพัฒนาส้วมให้ได้มาตรฐาน HAS และต้องมีส้วมนั่งราบพร้อมราวจับไว้ อย่างน้อย 1ที่ พร้อมส่งเสริมให้ส้วมของโรงพยาบาลมีส้วมสำหรับผู้พิการ หญิงตั้งครรภ์ คนชราที่ได้มาตรฐานไว้บริการโดยเฉพาะ โดยปัจจุบันส้วมในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขผ่านมาตรฐาน HAS ร้อยละ 99.08 หากผู้ใช้บริการพบว่าส้วมในโรงพยาบาลยังไม่สะอาด สามารถแจ้งมาที่กรมอนามัย 02 590 4194 หรือ http://complain.anamai.go.th นายแพทย์วชิระ กล่าวต่อไปว่า หากไม่มีการจัดการส้วมที่ถูกหลักสุขาภิบาล รวมทั้งการปลูกฝังพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกวิธี ส้วมก็จะกลายเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรคได้ โดยเฉพาะส้วมในโรงเรียนต้องมีความสะอาด ปลอดภัย เพียงพอ แต่จากการสำรวจสภาพส้วมและพฤติกรรมการใช้ส้วมของนักเรียนพบว่า ส้วมมีสภาพชำรุดทรุดโทรมไม่ได้มาตรฐาน และนักเรียนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ไม่ถูกวิธี ชอบทำลายวัสดุ อุปกรณ์ ขีดเขียนข้อความหรือพ่นสีสเปรย์บนฝาผนังซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้ส้วมในโรงเรียนสกปรก กลิ่นเหม็น เป็นสาเหตุให้เด็กนักเรียนไม่กล้าใช้ส้วม และส่งผลเสียต่อสุขภาพของเด็กนักเรียน โดยเฉพาะโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ กรวยไตอักเสบ ที่เกิดจากการกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน รวมทั้งส้วมอาจกลายเป็นแหล่งแพร่กระจายของเชื้อโรค เช่น โรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร โรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ โรคพยาธิ โรคตาแดงและ โรคเชื้อราที่เกิดจากสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อโรคร่วมกับผู้อื่น นายแพทย์วชิระ กล่าวต่อว่า การดำเนินงานที่ผ่านมา กรมอนามัย ได้บูรณาการการดำเนินงานพัฒนาส้วมสาธารณะไทยร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการมีส้วมสะอาด เพียงพอ ปลอดภัย ซึ่งบริษัทโฮมโปร เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)เป็นภาคีเครือข่ายของกรมอนามัยมาตั้งแต่ปี 2549 ในการสนับสนุนงบประมาณ สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ในการสร้าง และปรับปรุงส้วมตามสถานที่สาธารณะต่างๆ และได้ดำเนินโครงการห้องน้ำของหนูด้วยการสร้างและปรับปรุงส้วมให้โรงเรียนในพื้นที่ที่บริษัทได้ไปเปิดสาขาทั่วประเทศ พร้อมทั้งได้พัฒนาส้วมของโรงเรียนให้ผ่านมาตรฐาน HAS ของกรมอนามัย และจัดอบรมให้นักเรียนมีพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกต้องด้วย สำหรับในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี บริษัทโฮมโปร เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดสาขาชัยพฤกษ์ และได้ปรับปรุงส้วมในโรงเรียนวัดสาลีโขภิตาราม (อุ่น-อนุสรณ์) และห้องส้วมผู้พิการในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางพลับ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมจัดพิธีส่งมอบโครงการห้องน้ำของหนูให้กับกรมอนามัยในครั้งนี้ ทั้งนี้ การมีพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกต้อง ได้แก่ ไม่ขึ้นไปเหยียบบนโถส้วมแบบนั่งราบ ไม่ทิ้งวัสดุนอกจากกระดาษชำระลงโถส้วม ราดน้ำหรือกดชักโครกทุกครั้งหลังการใช้ส้วม และล้างมือทุกครั้งหลัง การใช้ส้วม เพื่อช่วยกันรักษาความสะอาด ลดจุดเสี่ยงของการเกิดโรคและสุขอนามัยที่ดี นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่มีส้วมสาธารณะไว้บริการควรตระหนักถึงความสะอาด โดยเน้นทำความสะอาด 3จุดอันตราย คือ ที่รองนั่งโถส้วมพื้นห้องส้วม สายฉีดน้ำชำระ และ 4 จุดเสี่ยง คือ ที่กดโถส้วม ที่กดโถปัสสาวะ ก๊อกน้ำอ่างล้างมือ กลอนและลูกบิดประตูภายในห้องส้วม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด *** สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง / 24 กุมภาพันธ์ 2559

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน

ติดตามข่าวสารได้ที่

แทงบอลออนไลน์ || ดูบอลสด UFABET