ข่าวแจก" กรมอนามัย เพิ่มโอกาสเด็กไทยในถิ่นทุรกันดาร ได้ใช้ส้วมสะอาด ลดแหล่งแพร่เชื้อโรค"
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เพิ่มโอกาสให้นักเรียนในโรงเรียนถิ่นทุรกันดารได้ใช้ส้วมสะอาด ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค ด้วยการสร้างและพัฒนาส้วมในโรงเรียนตามมาตรฐาน HAS ในโอกาส ฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558
วันนี้ (3 มีนาคม 2558) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในพิธีส่งมอบและเปิดป้ายส้วมสุขอนามัยฯ ณ ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแม่หละคี อำเภอสองท่ายาง จังหวัดตาก ว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำริในการพัฒนาเด็กและเยาวชนตลอดจนประชาชนที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร เพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ยังพบว่า สภาวะสุขภาพเด็กและเยาวชนยังมีปัญหาด้านการเจริญเติบโต ทุพโภชนาการ จากสาเหตุหนอนพยาธิ สุขอนามัยส่วนบุคคล เนื่องมาจากการขาดแคลนส้วมในครัวเรือน รวมถึงพบความไม่เพียงพอของส้วมในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนและสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะ กรมอนามัยจึงได้จับมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ปรับปรุงและสร้างส้วมให้กับโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 เดิมตั้งเป้า 60 แห่ง จำนวน 600 ห้องส้วม ต่อมาเพิ่มเป็น 81 แห่ง เพื่อให้โรงเรียนได้มีส้วมสะอาดได้มาตรฐาน HAS สะอาด เพียงพอ และปลอดภัย พร้อมทั้งส่งเสริมพฤติกรรมการใช้ส้วมของนักเรียนให้ถูกสุขลักษณะ โดยดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว 28 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 34 และจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2558 อีก 47 แห่ง และเสร็จสิ้นทั้งหมดภายในเดือน เมษายน 2558 อีก 6 แห่ง
ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า ส้วมถือเป็นสถานที่สำหรับประกอบกิจวัตรประจำวันของทุกคน หากไม่มีการจัดการส้วมที่ถูกหลักสุขาภิบาล รวมทั้งการปลูกฝังพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกวิธี ส้วมก็จะกลายเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรคได้ ทั้งโรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย โรคอุจจาระร่วง บิด ไทฟอยด์ โรคไวรัสตับอักเสบชนิดเอ ที่สามารถติดต่อจากการสัมผัสสิ่งขับถ่ายที่ปนเปื้อนเชื้อโรค โรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ เช่น วัณโรค ไข้หวัด โรคหัด หัดเยอรมัน รวมทั้งโรคพยาธิ โรคตาแดง และโรคเชื้อรา ที่เกิดจากสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อโรคร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะส้วมในพื้นที่ห่างไกลหรือถิ่นทุรกันดารที่พบว่ามีไม่เพียงพอต่อการใช้งานทั้งในครัวเรือนและ ในโรงเรียน สภาพส้วมชำรุดทรุดโทรมไม่ได้มาตรฐาน อีกทั้งนักเรียนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ไม่ถูกวิธี ชอบทำลายวัสดุ อุปกรณ์ ขีดเขียนข้อความหรือพ่นสีสเปรย์บนฝาผนัง ส่งผลให้ส้วมในโรงเรียนสกปรก และมี กลิ่นเหม็น จำเป็นที่ต้องสร้างความรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ส้วมให้ถูกวิธี โดยไม่ขึ้นไปเหยียบบนโถส้วมแบบชักโครก ไม่ทิ้งวัสดุอื่นใดนอกจากกระดาษชำระลงโถส้วม ราดน้ำหรือกดชักโครกทุกครั้งหลังการใช้ส้วม และล้างมือ ทุกครั้งหลังการใช้ส้วม?
ดร.นพ.พรเทพ กล่าว อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า พิธีส่งมอบและเปิดป้ายส้วมสุขอนามัยฯ ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ในครั้งนี้ กรมอนามัยได้รับความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ บริษัท สยามซานิทราแวร์ อินดัสทรี จำกัด บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัท วีอาร์ แฮนด์เดิล ในการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ และสมาพันธ์ออฟโรดแห่งประเทศไทย สนับสนุนการขนส่ง เพื่อสร้างและปรับปรุงห้องส้วมให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน 6 แห่ง แบ่งเป็น จังหวัดเพชรบูรณ์ 1 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านโป่งตะแบก และจังหวัดตาก 5 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหม่องกั๊วะ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแม่จันทะ ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแม่ละนา ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคะเนจือทะ และศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหละคี
***
สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง / 3 มีนาคม 2558
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เพิ่มโอกาสให้นักเรียนในโรงเรียนถิ่นทุรกันดารได้ใช้ส้วมสะอาด ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค ด้วยการสร้างและพัฒนาส้วมในโรงเรียนตามมาตรฐาน HAS ในโอกาส ฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 วันนี้ (3 มีนาคม 2558) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในพิธีส่งมอบและเปิดป้ายส้วมสุขอนามัยฯ ณ ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแม่หละคี อำเภอสองท่ายาง จังหวัดตาก ว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำริในการพัฒนาเด็กและเยาวชนตลอดจนประชาชนที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร เพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ยังพบว่า สภาวะสุขภาพเด็กและเยาวชนยังมีปัญหาด้านการเจริญเติบโต ทุพโภชนาการ จากสาเหตุหนอนพยาธิ สุขอนามัยส่วนบุคคล เนื่องมาจากการขาดแคลนส้วมในครัวเรือน รวมถึงพบความไม่เพียงพอของส้วมในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนและสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะ กรมอนามัยจึงได้จับมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ปรับปรุงและสร้างส้วมให้กับโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 เดิมตั้งเป้า 60 แห่ง จำนวน 600 ห้องส้วม ต่อมาเพิ่มเป็น 81 แห่ง เพื่อให้โรงเรียนได้มีส้วมสะอาดได้มาตรฐาน HAS สะอาด เพียงพอ และปลอดภัย พร้อมทั้งส่งเสริมพฤติกรรมการใช้ส้วมของนักเรียนให้ถูกสุขลักษณะ โดยดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว 28 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 34 และจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2558 อีก 47 แห่ง และเสร็จสิ้นทั้งหมดภายในเดือน เมษายน 2558 อีก 6 แห่ง ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า ส้วมถือเป็นสถานที่สำหรับประกอบกิจวัตรประจำวันของทุกคน หากไม่มีการจัดการส้วมที่ถูกหลักสุขาภิบาล รวมทั้งการปลูกฝังพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกวิธี ส้วมก็จะกลายเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรคได้ ทั้งโรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย โรคอุจจาระร่วง บิด ไทฟอยด์ โรคไวรัสตับอักเสบชนิดเอ ที่สามารถติดต่อจากการสัมผัสสิ่งขับถ่ายที่ปนเปื้อนเชื้อโรค โรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ เช่น วัณโรค ไข้หวัด โรคหัด หัดเยอรมัน รวมทั้งโรคพยาธิ โรคตาแดง และโรคเชื้อรา ที่เกิดจากสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อโรคร่วมกับผู้อื่น \\โดยเฉพาะส้วมในพื้นที่ห่างไกลหรือถิ่นทุรกันดารที่พบว่ามีไม่เพียงพอต่อการใช้งานทั้งในครัวเรือนและ ในโรงเรียน สภาพส้วมชำรุดทรุดโทรมไม่ได้มาตรฐาน อีกทั้งนักเรียนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ไม่ถูกวิธี ชอบทำลายวัสดุ อุปกรณ์ ขีดเขียนข้อความหรือพ่นสีสเปรย์บนฝาผนัง ส่งผลให้ส้วมในโรงเรียนสกปรก และมี กลิ่นเหม็น จำเป็นที่ต้องสร้างความรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ส้วมให้ถูกวิธี โดยไม่ขึ้นไปเหยียบบนโถส้วมแบบชักโครก ไม่ทิ้งวัสดุอื่นใดนอกจากกระดาษชำระลงโถส้วม ราดน้ำหรือกดชักโครกทุกครั้งหลังการใช้ส้วม และล้างมือ ทุกครั้งหลังการใช้ส้วม ดร.นพ.พรเทพ กล่าว อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า พิธีส่งมอบและเปิดป้ายส้วมสุขอนามัยฯ ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ในครั้งนี้ กรมอนามัยได้รับความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ บริษัท สยามซานิทราแวร์ อินดัสทรี จำกัด บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัท วีอาร์ แฮนด์เดิล ในการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ และสมาพันธ์ออฟโรดแห่งประเทศไทย สนับสนุนการขนส่ง เพื่อสร้างและปรับปรุงห้องส้วมให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน 6 แห่ง แบ่งเป็น จังหวัดเพชรบูรณ์ 1 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านโป่งตะแบก และจังหวัดตาก 5 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหม่องกั๊วะ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแม่จันทะ ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแม่ละนา ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคะเนจือทะ และศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหละคี *** สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง / 3 มีนาคม 2558