คุณกำลังมองหาอะไร?

ข่า

ข่าวแจก"กรมอนามัย หนุน 92 เครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี ร่วมแก้ปัญหาฟันผุ"

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

16.02.2559
10
0
แชร์
16
กุมภาพันธ์
2559

ข่าวแจก"กรมอนามัย หนุน 92 เครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี ร่วมแก้ปัญหาฟันผุ"

        กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมวิชาการเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี ปี 2559 พร้อมสนับสนุน 92 เครือข่าย ร่วมพัฒนากิจกรรมเครือข่ายเด็กไทยฟันดีในการพัฒนาระบบการดูแลและส่งเสริมสุขภาพช่องปากของนักเรียนช่วยแก้ปัญหาเด็กไทยฟันผุ
        นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงการดำเนินงานเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทย ฟันดี ปี 2559 ว่า กรมอนามัย โดยสำนักทันตสาธารณสุขได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดำเนินการพัฒนาสุขภาพช่องปากในเด็กวัยเรียน โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานเชิงนโยบายเพื่อจัดการสิ่งแวดล้อม และจัดกิจกรรมส่งเสริมพฤติกรรมอนามัยของเด็กในโรงเรียน เพื่อป้องกันฟันผุ ซึ่งจากผลสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากของคนไทยที่ผ่านมา พบว่า เด็กวัยเรียนมีปัญหาโรคฟันผุอยู่มาก โดยเฉพาะเด็กอายุ 12 ปี หรือประถมศึกษาปีที่ 6 มีฟันผุมากถึงร้อยละ 52 สาเหตุส่วนหนึ่งของโรคฟันผุในเด็กเกิดจากพฤติกรรมการบริโภคที่นิยมกินขนมกรุบกรอบและน้ำหวาน นอกจากจะสร้างความเจ็บปวด การติดเชื้อ และปัญหาการบดเคี้ยวอาหารแล้ว ยังส่งผลต่อน้ำหนัก การเจริญเติบโต และบุคลิกภาพ รวมไปถึงผลกระทบต่อการเรียน ทำให้เด็กหยุดเรียนถึงปีละ 400,000 คน
        นายแพทย์วชิระ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมากรมอนามัยและภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหาฟันผุมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการส่งเสริมทันตสุขภาพและสร้างกิจกรรมเครือข่ายเด็กไทยฟันดีภายใต้ 2 โครงการ คือ 1) โครงการพัฒนาเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี เป็นรูปแบบการดำเนินงานที่เน้นให้มีการทำงานเป็นทีม เกิดการสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งสามารถดูแลสุขภาพซึ่งกันและกันได้ โรงเรียนมีการดำเนินการในรูปแบบของเครือข่ายจนสามารถพัฒนาผ่านเกณฑ์เครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี ซึ่งปัจจุบันมีเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี จำนวน 92 เครือข่าย แบ่งเป็นระดับยอดเยี่ยม จำนวน 40 เครือข่าย และระดับดีมาก จำนวน 52 เครือข่าย และ 2) โครงการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) อ่อนหวาน ที่มุ่งเน้นการจัดสภาพแวดล้อมในโรงเรียนให้เอื้อต่อการดำเนินงานทันตสุขภาพ โดยให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาดูแลโรงเรียนในสังกัดให้เป็นโรงเรียนที่งดขายและให้บริการน้ำอัดลมในโรงเรียน ซึ่งขณะนี้มีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอ่อนหวานแล้ว จำนวน 133 แห่ง
        ทางด้าน ทันตแพทย์สุธา เจียรมณีโชติชัย รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเสริมว่า การจัดประชุมวิชาการเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี ปี 2559 ในครั้งนี้ คาดหวังว่าจะเกิดแรงบันดาลใจและแนวคิดใหม่ๆ ในการพัฒนางานส่งเสริมสุขภาพช่องปากเพื่อสุขภาพนักเรียน และเป็นการกระตุ้นให้เครือข่ายโรงเรียนมีการประเมินตนเองและเข้าร่วมในการประเมินเป็นต้นแบบเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนากิจกรรมเครือข่ายเด็กไทยฟันดี เพื่อขยายผลสู่การดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืน ภายใต้การทำงานร่วมเป็นทีมในการดำเนินงานส่งเสริมทันตสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ
         "ทั้งนี้ การดูแลสุขภาพช่องปากเด็กวัยเรียน นับเป็นพฤติกรรมขั้นพื้นฐานที่จะส่งผลให้มีสุขภาพ ช่องปากที่ดีในระยะยาว ด้วยการแปรงฟันแบบ 2-2-2 คือ แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ โดยเน้นช่วงก่อนนอน แปรงฟันนานอย่างน้อย 2 นาที ให้สะอาดทั่วทั้งปาก ทุกซี่ ทุกด้าน และไม่กินขนม หรืออาหารหวานหลัง แปรงฟัน 2 ชั่วโมง เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาดได้มากกว่า? รองอธิบดี กรมอนามัย กล่าว
***
สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง/ 16 กุมภาพันธ์ 2559
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมวิชาการเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี ปี 2559 พร้อมสนับสนุน 92 เครือข่าย ร่วมพัฒนากิจกรรมเครือข่ายเด็กไทยฟันดีในการพัฒนาระบบการดูแลและส่งเสริมสุขภาพช่องปากของนักเรียนช่วยแก้ปัญหาเด็กไทยฟันผุ นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงการดำเนินงานเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทย ฟันดี ปี 2559 ว่า กรมอนามัย โดยสำนักทันตสาธารณสุขได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดำเนินการพัฒนาสุขภาพช่องปากในเด็กวัยเรียน โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานเชิงนโยบายเพื่อจัดการสิ่งแวดล้อม และจัดกิจกรรมส่งเสริมพฤติกรรมอนามัยของเด็กในโรงเรียน เพื่อป้องกันฟันผุ ซึ่งจากผลสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากของคนไทยที่ผ่านมา พบว่า เด็กวัยเรียนมีปัญหาโรคฟันผุอยู่มาก โดยเฉพาะเด็กอายุ 12 ปี หรือประถมศึกษาปีที่ 6 มีฟันผุมากถึงร้อยละ 52 สาเหตุส่วนหนึ่งของโรคฟันผุในเด็กเกิดจากพฤติกรรมการบริโภคที่นิยมกินขนมกรุบกรอบและน้ำหวาน นอกจากจะสร้างความเจ็บปวด การติดเชื้อ และปัญหาการบดเคี้ยวอาหารแล้ว ยังส่งผลต่อน้ำหนัก การเจริญเติบโต และบุคลิกภาพ รวมไปถึงผลกระทบต่อการเรียน ทำให้เด็กหยุดเรียนถึงปีละ 400,000 คน นายแพทย์วชิระ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมากรมอนามัยและภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหาฟันผุมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการส่งเสริมทันตสุขภาพและสร้างกิจกรรมเครือข่ายเด็กไทยฟันดีภายใต้ 2 โครงการ คือ 1) โครงการพัฒนาเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี เป็นรูปแบบการดำเนินงานที่เน้นให้มีการทำงานเป็นทีม เกิดการสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งสามารถดูแลสุขภาพซึ่งกันและกันได้ โรงเรียนมีการดำเนินการในรูปแบบของเครือข่ายจนสามารถพัฒนาผ่านเกณฑ์เครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี ซึ่งปัจจุบันมีเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี จำนวน 92 เครือข่าย แบ่งเป็นระดับยอดเยี่ยม จำนวน 40 เครือข่าย และระดับดีมาก จำนวน 52 เครือข่าย และ 2) โครงการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) อ่อนหวาน ที่มุ่งเน้นการจัดสภาพแวดล้อมในโรงเรียนให้เอื้อต่อการดำเนินงานทันตสุขภาพ โดยให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาดูแลโรงเรียนในสังกัดให้เป็นโรงเรียนที่งดขายและให้บริการน้ำอัดลมในโรงเรียน ซึ่งขณะนี้มีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอ่อนหวานแล้ว จำนวน 133 แห่ง ทางด้าน ทันตแพทย์สุธา เจียรมณีโชติชัย รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเสริมว่า การจัดประชุมวิชาการเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี ปี 2559 ในครั้งนี้ คาดหวังว่าจะเกิดแรงบันดาลใจและแนวคิดใหม่ๆ ในการพัฒนางานส่งเสริมสุขภาพช่องปากเพื่อสุขภาพนักเรียน และเป็นการกระตุ้นให้เครือข่ายโรงเรียนมีการประเมินตนเองและเข้าร่วมในการประเมินเป็นต้นแบบเครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดี รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนากิจกรรมเครือข่ายเด็กไทยฟันดี เพื่อขยายผลสู่การดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืน ภายใต้การทำงานร่วมเป็นทีมในการดำเนินงานส่งเสริมทันตสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ การดูแลสุขภาพช่องปากเด็กวัยเรียน นับเป็นพฤติกรรมขั้นพื้นฐานที่จะส่งผลให้มีสุขภาพ ช่องปากที่ดีในระยะยาว ด้วยการแปรงฟันแบบ 2-2-2 คือ แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ โดยเน้นช่วงก่อนนอน แปรงฟันนานอย่างน้อย 2 นาที ให้สะอาดทั่วทั้งปาก ทุกซี่ ทุกด้าน และไม่กินขนม หรืออาหารหวานหลัง แปรงฟัน 2 ชั่วโมง เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาดได้มากกว่า รองอธิบดี กรมอนามัย กล่าว *** สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง/ 16 กุมภาพันธ์ 2559

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน

ติดตามข่าวสารได้ที่

แทงบอลออนไลน์ || ดูบอลสด UFABET