ก
รมอนามัยร่วมกับเครือข่าย บูรณาการข้อมูลการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ตั้งเป้าลดลงต่อเนื่อง
กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
31
ตุลาคม
2562
กรมอนามัยร่วมกับเครือข่าย บูรณาการข้อมูลการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ตั้งเป้าลดลงต่อเนื่อง
กรมอนามัยร่วมกับกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สำนักบริหารการทะเบียน กระทรวงมหาดไทย สำนักงานสถิติแห่งชาติ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล และสำนักงานกองทุนประชากรสหประชาชาติประจำประเทศไทย บูรณาการข้อมูลแม่วัยรุ่นเพื่อวางแผนและดำเนินงานลดการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (31 ตุลาคม 2562) แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานแถลงข่าวแม่วัยรุ่นอยู่ที่ไหน ณ ห้องแคทลียา 2 โรงแรมแอมบาสเดอร์ สุขุมวิท กรุงเทพมหานคร ว่า สถานการณ์แม่วัยรุ่นที่เคยเพิ่มขึ้นในปี 2543 มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา แต่อัตราการคลอดในหญิงวัยรุ่นที่ลดลง ยังไม่บรรลุเป้าหมายที่กำหนดให้มีแม่วัยรุ่นไม่เกิน 25 คน ต่อประชากรวัยรุ่นหญิงอายุระหว่าง 15-19 ปี พันคน ภายในปี 2569 โดยข้อมูลแม่วัยรุ่นของประเทศไทยที่ผ่านมาใช้ข้อมูลจากฐานทะเบียนเกิดของกระทรวงมหาดไทยตามรายงานที่อยู่ในใบแจ้งเกิด ซึ่งแม่วัยรุ่น 1 ใน 4 ไม่ได้อาศัยอยู่ในจังหวัดที่ตนเองคลอดบุตร ทำให้ข้อมูลแม่วัยรุ่นตามจังหวัดที่คลอดบุตรกับข้อมูลแม่วัยรุ่นตามจังหวัดที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านมีความแตกต่างกัน เมื่อใช้เลขบัตรประจำตัว 13 หลัก เชื่อมข้อมูลการคลอดบุตรของวัยรุ่นจากฐานทะเบียนการเกิดซึ่งบันทึกจังหวัดที่อยู่ตามใบแจ้งเกิดกับข้อมูลแม่วัยรุ่นตามที่อยู่ในทะเบียนบ้าน พบว่าข้อมูลแม่วัยรุ่นของหลายจังหวัดเปลี่ยนแปลงจากเดิมมาก อาทิ ชลบุรี ระยอง นครนายก สมุทรสาคร สระบุรี ภูเก็ต มีอัตราคลอดแม่วัยรุ่นน้อยลงมาก
แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า ข้อมูลอัตราการคลอดในวัยรุ่นของประเทศยังคงมีลักษณะแยกส่วน มีจุดแข็งและข้อจำกัดของแต่ละแหล่งข้อมูลที่ต่างกัน ดังนั้น การแก้ปัญหาแม่วัยรุ่นจึงจำเป็นต้องมีข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น กระทรวงมหาดไทย สำนักงานสถิติแห่งชาติ รวมทั้งข้อมูลจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อช่วยกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ให้ตรงกับปัญหาและความต้องการของประชากรกลุ่มเสี่ยงในทุกพื้นที่ของประเทศ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นลงอย่างต่อเนื่อง โดยต้องบูรณาการการวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายฐานข้อมูลทั้งในระดับประเทศและระดับพื้นที่เพื่อสร้างข้อมูลเชิงประจักษ์ทั้งในระดับประเทศและระดับพื้นที่และระบุตำแหน่งและลักษณะของแม่วัยรุ่นที่มีความเปราะบาง
"รวมถึงจัดทำผลการศึกษาและข้อเสนอแนะที่จะนำไปสู่การพัฒนานโยบายและการดำเนินงานที่ตรงเป้าหมายในระดับประเทศและระดับพื้นที่ และการจัดการทรัพยากรเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นได้อย่างเหมาะสม โดยใช้แหล่งข้อมูลหลักจากฐานข้อมูลการจดทะเบียนเกิด การสำรวจสำมะโนประชากรและเคหะ และการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีใน 14 จังหวัดของประเทศไทย นอกจากนี้ยังได้ใช้ข้อมูล จากโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย นำมาวิเคราะห์ร่วมกันในระดับพื้นที่เพื่อศึกษาลักษณะและการกระจายตัวของแม่วัยรุ่นตามปัจจัยในด้านต่าง ๆ ทำให้เห็นถึงปัจจัยในระดับพื้นที่ที่มีความสัมพันธ์กับสถานการณ์แม่วัยรุ่นได้? อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
***
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 31 ตุลาคม 2562
กรมอนามัยร่วมกับกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สำนักบริหารการทะเบียน กระทรวงมหาดไทย สำนักงานสถิติแห่งชาติ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล และสำนักงานกองทุนประชากรสหประชาชาติประจำประเทศไทย บูรณาการข้อมูลแม่วัยรุ่นเพื่อวางแผนและดำเนินงานลดการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นอย่างต่อเนื่อง วันนี้ (31 ตุลาคม 2562) แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานแถลงข่าวแม่วัยรุ่นอยู่ที่ไหน ณ ห้องแคทลียา 2 โรงแรมแอมบาสเดอร์ สุขุมวิท กรุงเทพมหานคร ว่า สถานการณ์แม่วัยรุ่นที่เคยเพิ่มขึ้นในปี 2543 มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา แต่อัตราการคลอดในหญิงวัยรุ่นที่ลดลง ยังไม่บรรลุเป้าหมายที่กำหนดให้มีแม่วัยรุ่นไม่เกิน 25 คน ต่อประชากรวัยรุ่นหญิงอายุระหว่าง 15-19 ปี พันคน ภายในปี 2569 โดยข้อมูลแม่วัยรุ่นของประเทศไทยที่ผ่านมาใช้ข้อมูลจากฐานทะเบียนเกิดของกระทรวงมหาดไทยตามรายงานที่อยู่ในใบแจ้งเกิด ซึ่งแม่วัยรุ่น 1 ใน 4 ไม่ได้อาศัยอยู่ในจังหวัดที่ตนเองคลอดบุตร ทำให้ข้อมูลแม่วัยรุ่นตามจังหวัดที่คลอดบุตรกับข้อมูลแม่วัยรุ่นตามจังหวัดที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านมีความแตกต่างกัน เมื่อใช้เลขบัตรประจำตัว 13 หลัก เชื่อมข้อมูลการคลอดบุตรของวัยรุ่นจากฐานทะเบียนการเกิดซึ่งบันทึกจังหวัดที่อยู่ตามใบแจ้งเกิดกับข้อมูลแม่วัยรุ่นตามที่อยู่ในทะเบียนบ้าน พบว่าข้อมูลแม่วัยรุ่นของหลายจังหวัดเปลี่ยนแปลงจากเดิมมาก อาทิ ชลบุรี ระยอง นครนายก สมุทรสาคร สระบุรี ภูเก็ต มีอัตราคลอดแม่วัยรุ่นน้อยลงมาก แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า ข้อมูลอัตราการคลอดในวัยรุ่นของประเทศยังคงมีลักษณะแยกส่วน มีจุดแข็งและข้อจำกัดของแต่ละแหล่งข้อมูลที่ต่างกัน ดังนั้น การแก้ปัญหาแม่วัยรุ่นจึงจำเป็นต้องมีข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น กระทรวงมหาดไทย สำนักงานสถิติแห่งชาติ รวมทั้งข้อมูลจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อช่วยกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ให้ตรงกับปัญหาและความต้องการของประชากรกลุ่มเสี่ยงในทุกพื้นที่ของประเทศ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นลงอย่างต่อเนื่อง โดยต้องบูรณาการการวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายฐานข้อมูลทั้งในระดับประเทศและระดับพื้นที่เพื่อสร้างข้อมูลเชิงประจักษ์ทั้งในระดับประเทศและระดับพื้นที่และระบุตำแหน่งและลักษณะของแม่วัยรุ่นที่มีความเปราะบาง รวมถึงจัดทำผลการศึกษาและข้อเสนอแนะที่จะนำไปสู่การพัฒนานโยบายและการดำเนินงานที่ตรงเป้าหมายในระดับประเทศและระดับพื้นที่ และการจัดการทรัพยากรเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นได้อย่างเหมาะสม โดยใช้แหล่งข้อมูลหลักจากฐานข้อมูลการจดทะเบียนเกิด การสำรวจสำมะโนประชากรและเคหะ และการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีใน 14 จังหวัดของประเทศไทย นอกจากนี้ยังได้ใช้ข้อมูล จากโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย นำมาวิเคราะห์ร่วมกันในระดับพื้นที่เพื่อศึกษาลักษณะและการกระจายตัวของแม่วัยรุ่นตามปัจจัยในด้านต่าง ๆ ทำให้เห็นถึงปัจจัยในระดับพื้นที่ที่มีความสัมพันธ์กับสถานการณ์แม่วัยรุ่นได้ อธิบดีกรมอนามัย กล่าว *** ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 31 ตุลาคม 2562