คุณกำลังมองหาอะไร?

รมอนามัยเดินหน้าดูแลช่องปากทุกวัย แนะลด หวาน-เหนียว-แข็ง ตัวทำร้ายฟัน

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

18.10.2562
39
0
แชร์
18
ตุลาคม
2562

กรมอนามัยเดินหน้าดูแลช่องปากทุกวัย แนะลด หวาน-เหนียว-แข็ง ตัวทำร้ายฟัน

        กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้ารณรงค์ดูแลสุขภาพช่องปากทุกกลุ่มวัย พร้อมแนะประชาชนลดกินอาหารหวาน เหนียว แข็ง เน้นกินผักผลไม้ที่มีกากใย แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ นาน 2 นาที ตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีและลดการสูญเสียฟัน
        วันนี้ (18 ตุลาคม 2562) แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ "คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า สุขภาพช่องปากดีตลอดช่วงชีวิต? ณ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ว่า วันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระมารดาแห่งการทันตแพทย์ไทย และเป็นวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข จึงร่วมกับมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) จัดโครงการรณรงค์ "คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า?เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติ และ จัดกิจกรรมรณรงค์ให้เดือนตุลาคมเป็นเดือนแห่งการรณรงค์ดูแลสุขภาพช่องปากของคนไทย กระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากตลอดชีวิต ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุข จัดให้มีบริการทันตกรรมแก่ประชาชนโดยไม่คิดค่าบริการในโรงพยาบาลของรัฐ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และรณรงค์ประชาสัมพันธ์ รวมทั้งสื่อสารด้านทันตสุขภาพให้ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปากและเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากที่ส่งผลต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิต พร้อมมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้สูงอายุฟันดีวัย 80 และ 90 ปีที่มีฟันแท้ใช้งานได้อย่างน้อย 24 ซี่ขึ้นไป โดยได้ผ่านการคัดเลือกจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 22 คน
        แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า สุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุที่มักพบบ่อย คือการสูญเสียฟันจนไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ ส่วนหนึ่งสูญเสียฟันทั้งปาก และมากกว่าครึ่งของผู้สูงอายุที่มีฟัน พบโรคในช่องปากที่ไม่ได้รับการรักษาและมีโอกาสสูญเสียฟันเพิ่มขึ้น ดังนั้น การส่งเสริมให้คนไทยดูแลสุขภาพช่องปาก อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เด็กจนเข้าสู่วัยสูงอายุจะช่วยลดปัญหาสุขภาพช่องปากได้ โดยควรลดกินอาหารหวาน เหนียว เนื่องจากอาหารประเภทนี้จะเกาะติดผิวฟันเป็นเวลานาน ทำความสะอาดยาก เสี่ยงเกิดฟันผุ และ ควรหลีกเลี่ยงอาหารแข็ง เพราะอาจทำให้ฟันแตกขณะเคี้ยวได้ เน้นกินผักผลไม้ที่มีกากใย แปรงฟันด้วย ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ นาน 2 นาที ตอนเช้าและก่อนนอน เน้นบริเวณคอฟัน ร่วมกับการใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟันทุกวัน และพบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก
        "สำหรับวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ 21 ตุลาคมปีนี้ กรมอนามัยจัดให้มีบริการตรวจสุขภาพช่องปาก อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน เคลือบฟลูออไรด์ และให้คำปรึกษาและคำแนะนำการดูแลสุขภาพช่องปากจาก ทันตแพทย์โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนจำนวน 100 ราย ในวันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม 2562 ผู้ใดสนใจสามารถเข้ารับบริการได้ที่คลินิกส่งเสริมสุขภาพช่องปากและทันตกรรมป้องกัน อาคาร 4 ชั้น 2 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่เวลา 09.00 ? 15.00 น.? อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
***
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 18 ตุลาคม 2562
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้ารณรงค์ดูแลสุขภาพช่องปากทุกกลุ่มวัย พร้อมแนะประชาชนลดกินอาหารหวาน เหนียว แข็ง เน้นกินผักผลไม้ที่มีกากใย แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ นาน 2 นาที ตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีและลดการสูญเสียฟัน วันนี้ (18 ตุลาคม 2562) แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า สุขภาพช่องปากดีตลอดช่วงชีวิต ณ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ว่า วันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระมารดาแห่งการทันตแพทย์ไทย และเป็นวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข จึงร่วมกับมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) จัดโครงการรณรงค์ คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่าเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติ และ จัดกิจกรรมรณรงค์ให้เดือนตุลาคมเป็นเดือนแห่งการรณรงค์ดูแลสุขภาพช่องปากของคนไทย กระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากตลอดชีวิต ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุข จัดให้มีบริการทันตกรรมแก่ประชาชนโดยไม่คิดค่าบริการในโรงพยาบาลของรัฐ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และรณรงค์ประชาสัมพันธ์ รวมทั้งสื่อสารด้านทันตสุขภาพให้ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปากและเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากที่ส่งผลต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิต พร้อมมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้สูงอายุฟันดีวัย 80 และ 90 ปีที่มีฟันแท้ใช้งานได้อย่างน้อย 24 ซี่ขึ้นไป โดยได้ผ่านการคัดเลือกจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 22 คน แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า สุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุที่มักพบบ่อย คือการสูญเสียฟันจนไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ ส่วนหนึ่งสูญเสียฟันทั้งปาก และมากกว่าครึ่งของผู้สูงอายุที่มีฟัน พบโรคในช่องปากที่ไม่ได้รับการรักษาและมีโอกาสสูญเสียฟันเพิ่มขึ้น ดังนั้น การส่งเสริมให้คนไทยดูแลสุขภาพช่องปาก อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เด็กจนเข้าสู่วัยสูงอายุจะช่วยลดปัญหาสุขภาพช่องปากได้ โดยควรลดกินอาหารหวาน เหนียว เนื่องจากอาหารประเภทนี้จะเกาะติดผิวฟันเป็นเวลานาน ทำความสะอาดยาก เสี่ยงเกิดฟันผุ และ ควรหลีกเลี่ยงอาหารแข็ง เพราะอาจทำให้ฟันแตกขณะเคี้ยวได้ เน้นกินผักผลไม้ที่มีกากใย แปรงฟันด้วย ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ นาน 2 นาที ตอนเช้าและก่อนนอน เน้นบริเวณคอฟัน ร่วมกับการใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟันทุกวัน และพบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก สำหรับวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ 21 ตุลาคมปีนี้ กรมอนามัยจัดให้มีบริการตรวจสุขภาพช่องปาก อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน เคลือบฟลูออไรด์ และให้คำปรึกษาและคำแนะนำการดูแลสุขภาพช่องปากจาก ทันตแพทย์โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนจำนวน 100 ราย ในวันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม 2562 ผู้ใดสนใจสามารถเข้ารับบริการได้ที่คลินิกส่งเสริมสุขภาพช่องปากและทันตกรรมป้องกัน อาคาร 4 ชั้น 2 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่เวลา 09.00 15.00 น. อธิบดีกรมอนามัย กล่าว *** ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 18 ตุลาคม 2562

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน

ติดตามข่าวสารได้ที่

แทงบอลออนไลน์ || ดูบอลสด UFABET