คุณกำลังมองหาอะไร?

มอรัชตะ ประกาศปักธง 9 คำมั่น ปั้นคุณภาพเด็กไทยในอีก 20 ปี ตามสเปค แข็งแรง พัฒนาการดี มีคุณธรรม นำพาประเทศเจริญรุ่งเรือง เชื่อมบ้าน-สถานบริการศูนย์เด็กเล็ก เป็นฐานหลักพัฒนาเด็ก

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

28.01.2558
15
0
แชร์
28
มกราคม
2558

หมอรัชตะ ประกาศปักธง 9 คำมั่น ปั้นคุณภาพเด็กไทยในอีก 20 ปี ตามสเปค แข็งแรง พัฒนาการดี มีคุณธรรม นำพาประเทศเจริญรุ่งเรือง เชื่อมบ้าน-สถานบริการศูนย์เด็กเล็ก เป็นฐานหลักพัฒนาเด็ก

      รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเผยสถานการณ์คุณภาพเด็กปฐมวัยไทยขณะนี้น่าห่วง 1 ใน 3 มีพัฒนาการไม่สมวัย ส่งผลกระทบเมื่อเข้าสู่วัยเรียนอายุ 3-5 ปี เหตุจากการเลี้ยงดูทั้งที่บ้าน ที่ศูนย์เด็กเล็ก ปล่อยเด็กดูนิทานจากจอทีวีแทนการเล่าสดจากพ่อแม่ ประกาศ 9 คำมั่น ปั้นเด็กไทยในอีก 20 ปีข้างหน้า ให้มีคุณสมบัติ 4 ประการคือ แข็งแรง พัฒนาการดี มีคุณธรรม นำพาประเทศเจริญรุ่งเรือง เชื่อมโยง 3 เสาหลัก คือสถานบริการสุขภาพ 10,527 แห่ง ? 24 ล้านครัวเรือน- 20,500 ศูนย์เด็กเล็ก เป็นฐานร่วมพัฒนาต่อเนื่อง

      วันนี้(28 มกราคม 2558)ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานสัมมนาวิชาการอนามัยแม่และเด็กครั้งที่ 7 ภายใต้หัวข้อกลไกการขับเคลื่อนงานพัฒนาระบบบริการงานอนามัยแม่และเด็ก(MCH Board)? แก่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล นักวิชาการจากทุกจังหวัดรวม 600คน เพื่อพัฒนาคุณภาพเด็กไทย พร้อมประกาศค่ำมั่นการเริ่มต้นพัฒนาเด็กไทย เพื่อให้เด็กไทยใน 20ปีข้างหน้า แข็งแรง พัฒนาการดี มีคุณธรรม นำพาประเทศเจริญรุ่งเรือง?

      ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ กล่าวว่า ผลการสำรวจพัฒนาการเด็กอายุ 0 ? 5 ปี ในปี 2557 ของกรมอนามัยพบว่ามีพัฒนาการสมวัยเพียงร้อยละ 73 พัฒนาการไม่สมวัยร้อยละ 27 หรือมีประมาณ 1 ล้านกว่าคน เป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไขเป็นการด่วน เนื่องจากมีหลักฐานทางวิชาการชี้ให้เห็นชัดว่าเด็กวัยนี้ มีความสำคัญที่สุดต่อพัฒนาการด้านสมอง สายตา การควบคุมอารมณ์ ทักษะด้านภาษาและสังคม ซึ่งจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพดี สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเลี้ยงดู พ่อแม่ขาดทักษะการเลี้ยงดู ผู้เลี้ยงดูหลักมีน้อยมาก ส่วนใหญ่ฝากให้ปู่ย่าตายาย เลี้ยง มักปล่อยให้เด็กดูนิทานจากทีวีมากกว่าการฟังการเล่าสดจากพ่อแม่ การจัดบริการของโรงพยาบาลยังไม่เพียงพอ โดยมีคลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็กล่าช้ายังไม่เพียงพอในโรงพยาบาลชุมชนมีเพียง ร้อยละ 67เท่านั้น พี่เลี้ยงในศูนย์เด็กเล็กขาดความรู้ ทักษะที่จำเป็น อีกส่วนหนึ่งมาจากปัญหาสุขภาพที่มีผลต่อพัฒนาการเด็ก เช่นขาดออกซิเจนเมื่อแรกเกิดพบร้อยละ 3 น้ำหนักตัวน้อยกว่า 2,500 กรัม ร้อยละ 8 ติดเชื้อเอช ไอ วี จากแม่มีร้อยละ 6 รวมทั้งอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนยังน้อยเพียงร้อยละ 55 จึงต้องเร่งแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่กล่าวมาอย่างเป็นระบบ
 
     ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ กล่าวต่อไปว่า ในปี 2558 นี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ทำโครงการแม่ลูกสุขภาพดีทุกชีวีมีสุข เพื่อพัฒนาระบบบริการงานอนามัยแม่และเด็กให้เป็นบริการสุขภาพพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพประชากรไทย เริ่มตั้งแต่การดูแลครรภ์ จนถึงหลังคลอดถึง 5 ปี เพื่อให้เด็กเจริญเติบโต มีพัฒนาการสมวัย โดยประกาศเจตนารมณ์พัฒนาเด็กไทยใน 20ปีข้างหน้า ให้เป็นผู้ใหญ่ แข็งแรง พัฒนาการดี มีคุณธรรม นำพาประเทศเจริญรุ่งเรือง สร้างศักยภาพการแข่งขันกับสากลได้ จะพัฒนาบริการทั้งหมด 9 เรื่องได้แก่ 1.สร้างพ่อแม่คุณภาพ เข้ารับบริการตรวจสุขภาพก่อนและหลังมีบุตร เพิ่มพูนความรู้ ทักษะ ตามมาตรฐานโรงเรียนพ่อแม่ 2.ให้บริการฝากท้องทุกที่ฟรีทุกสิทธิ์ สร้างการเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียม ของหญิงตั้งครรภ์และสามี หญิงหลังคลอด และเด็กปฐมวัย 3.สร้างเด็กปลอดโรคพันธุกรรมและโรคติดเชื้อ คือโรคธาลัสซีเมีย โรคเอดส์ และโรคขาดสารไอโอดีนหรือโรคเอ๋อ โดยตรวจเลือดขณะแม่ตั้งครรภ์ ให้แม่กินยาเสริมไอโอดีนและวิตามินเสริมธาตุเหล็กตามสิทธิประโยชน์ 4.สร้างภูมิต้านทานทางสังคมแก่เด็ก โดยผ่านการเลี้ยงดูของพ่อ แม่ ด้วยความรักและความผูกพัน ได้กินนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดและอาหารตามวัย 

      ********************** 28 มกราคม 2558

ข้อมูลเพิ่มเติมที่...
http://pr.moph.go.th/iprg/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=70583
แหล่งข่าวโดย » สำนักสารนิเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเผยสถานการณ์คุณภาพเด็กปฐมวัยไทยขณะนี้น่าห่วง 1 ใน 3 มีพัฒนาการไม่สมวัย ส่งผลกระทบเมื่อเข้าสู่วัยเรียนอายุ 3-5 ปี เหตุจากการเลี้ยงดูทั้งที่บ้าน ที่ศูนย์เด็กเล็ก ปล่อยเด็กดูนิทานจากจอทีวีแทนการเล่าสดจากพ่อแม่ ประกาศ 9 คำมั่น ปั้นเด็กไทยในอีก 20 ปีข้างหน้า ให้มีคุณสมบัติ 4 ประการคือ แข็งแรง พัฒนาการดี มีคุณธรรม นำพาประเทศเจริญรุ่งเรือง เชื่อมโยง 3 เสาหลัก คือสถานบริการสุขภาพ 10,527 แห่ง 24 ล้านครัวเรือน- 20,500 ศูนย์เด็กเล็ก เป็นฐานร่วมพัฒนาต่อเนื่อง วันนี้(28 มกราคม 2558)ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานสัมมนาวิชาการอนามัยแม่และเด็กครั้งที่ 7 ภายใต้หัวข้อ\\กลไกการขับเคลื่อนงานพัฒนาระบบบริการงานอนามัยแม่และเด็ก(MCH Board) แก่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล นักวิชาการจากทุกจังหวัดรวม 600คน เพื่อพัฒนาคุณภาพเด็กไทย พร้อมประกาศค่ำมั่นการเริ่มต้นพัฒนาเด็กไทย เพื่อให้เด็กไทยใน 20ปีข้างหน้า \\แข็งแรง พัฒนาการดี มีคุณธรรม นำพาประเทศเจริญรุ่งเรือง ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ กล่าวว่า ผลการสำรวจพัฒนาการเด็กอายุ 0 5 ปี ในปี 2557 ของกรมอนามัยพบว่ามีพัฒนาการสมวัยเพียงร้อยละ 73 พัฒนาการไม่สมวัยร้อยละ 27 หรือมีประมาณ 1 ล้านกว่าคน เป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไขเป็นการด่วน เนื่องจากมีหลักฐานทางวิชาการชี้ให้เห็นชัดว่าเด็กวัยนี้ มีความสำคัญที่สุดต่อพัฒนาการด้านสมอง สายตา การควบคุมอารมณ์ ทักษะด้านภาษาและสังคม ซึ่งจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพดี สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเลี้ยงดู พ่อแม่ขาดทักษะการเลี้ยงดู ผู้เลี้ยงดูหลักมีน้อยมาก ส่วนใหญ่ฝากให้ปู่ย่าตายาย เลี้ยง มักปล่อยให้เด็กดูนิทานจากทีวีมากกว่าการฟังการเล่าสดจากพ่อแม่ การจัดบริการของโรงพยาบาลยังไม่เพียงพอ โดยมีคลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็กล่าช้ายังไม่เพียงพอในโรงพยาบาลชุมชนมีเพียง ร้อยละ 67เท่านั้น พี่เลี้ยงในศูนย์เด็กเล็กขาดความรู้ ทักษะที่จำเป็น อีกส่วนหนึ่งมาจากปัญหาสุขภาพที่มีผลต่อพัฒนาการเด็ก เช่นขาดออกซิเจนเมื่อแรกเกิดพบร้อยละ 3 น้ำหนักตัวน้อยกว่า 2,500 กรัม ร้อยละ 8 ติดเชื้อเอช ไอ วี จากแม่มีร้อยละ 6 รวมทั้งอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนยังน้อยเพียงร้อยละ 55 จึงต้องเร่งแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่กล่าวมาอย่างเป็นระบบ ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ กล่าวต่อไปว่า ในปี 2558 นี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ทำโครงการแม่ลูกสุขภาพดีทุกชีวีมีสุข เพื่อพัฒนาระบบบริการงานอนามัยแม่และเด็กให้เป็นบริการสุขภาพพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพประชากรไทย เริ่มตั้งแต่การดูแลครรภ์ จนถึงหลังคลอดถึง 5 ปี เพื่อให้เด็กเจริญเติบโต มีพัฒนาการสมวัย โดยประกาศเจตนารมณ์พัฒนาเด็กไทยใน 20ปีข้างหน้า ให้เป็นผู้ใหญ่ แข็งแรง พัฒนาการดี มีคุณธรรม นำพาประเทศเจริญรุ่งเรือง สร้างศักยภาพการแข่งขันกับสากลได้ จะพัฒนาบริการทั้งหมด 9 เรื่องได้แก่ 1.สร้างพ่อแม่คุณภาพ เข้ารับบริการตรวจสุขภาพก่อนและหลังมีบุตร เพิ่มพูนความรู้ ทักษะ ตามมาตรฐานโรงเรียนพ่อแม่ 2.ให้บริการฝากท้องทุกที่ฟรีทุกสิทธิ์ สร้างการเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียม ของหญิงตั้งครรภ์และสามี หญิงหลังคลอด และเด็กปฐมวัย 3.สร้างเด็กปลอดโรคพันธุกรรมและโรคติดเชื้อ คือโรคธาลัสซีเมีย โรคเอดส์ และโรคขาดสารไอโอดีนหรือโรคเอ๋อ โดยตรวจเลือดขณะแม่ตั้งครรภ์ ให้แม่กินยาเสริมไอโอดีนและวิตามินเสริมธาตุเหล็กตามสิทธิประโยชน์ 4.สร้างภูมิต้านทานทางสังคมแก่เด็ก โดยผ่านการเลี้ยงดูของพ่อ แม่ ด้วยความรักและความผูกพัน ได้กินนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดและอาหารตามวัย ********************** 28 มกราคม 2558 ข้อมูลเพิ่มเติมที่...http://pr.moph.go.th/iprg/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=70583แหล่งข่าวโดย » สำนักสารนิเทศ

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน

ติดตามข่าวสารได้ที่

แทงบอลออนไลน์ || ดูบอลสด UFABET