คุณกำลังมองหาอะไร?

ข่า

ข่าวแจก"กรมอนามัย ห่วงเด็กอ้วน โตขึ้นเสี่ยงความดัน-อัมพฤกษ์ อัมพาต แนะ รร.ปรุงเมนูลดเค็ม ลดมัน"

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

09.12.2557
11
0
แชร์
09
ธันวาคม
2557

ข่าวแจก"กรมอนามัย ห่วงเด็กอ้วน โตขึ้นเสี่ยงความดัน-อัมพฤกษ์ อัมพาต แนะ รร.ปรุงเมนูลดเค็ม ลดมัน"

        กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์โรคอ้วนในเด็กวัยเรียนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เสี่ยงเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเมื่อโตเป็นผู้ใหญj แนะครูที่รับผิดชอบงานโภชนาการและครูอนามัยในโรงเรียนประถมศึกษาจัดทำอาหารกลางวันที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ลดเค็ม ลดมัน
        วันนี้ (9 ธันวาคม 2557) ทันตแพทย์หญิงจันทนา อึ้งชูศักดิ์ ทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านทันตสาธารณสุข) เปิดเผยภายหลังเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพครูในโรงเรียนประถมศึกษา เรื่อง เมนูชูสุขภาพ ลดเค็ม ลดมัน ณ โรงแรมมารวย การ์เด้น กรุงเทพมหานคร ว่า จากรายงานการสำรวจภาวะอาหารและโภชนาการของประเทศไทย ในปี 2546 พบเด็กวัยเรียนเป็นโรคอ้วนร้อยละ 13.6 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 13.7 และร้อยละ 17 ในปี 2553 และ ปี 2554 โรคอ้วนหรือภาวะโภชนาการเกินในเด็กมีผลกระทบต่อทั้งพัฒนาการทางร่างกาย สติปัญญา อารมณ์และสังคม และเป็นปัญหาสาธารณสุขเร่งด่วนที่ต้องควบคุมและป้องกัน ปัจจัยสำคัญของภาวะโภชนาการเกิน คือ การบริโภคอาหารที่ไม่ได้สัดส่วนและปริมาณที่ไม่เหมาะสม รวมไปถึงขาดการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ ส่งผลให้เด็กวัยเรียนมีแนวโน้มเป็นโรคอ้วนเพิ่มขึ้นทุกปี ผลการวิจัยหลายแหล่งพบว่าเด็กที่เป็นโรคอ้วน 1 ใน 3 จะเป็นผู้ใหญ่อ้วน ซึ่งโรคอ้วนนำไปสู่โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
        ทันตแพทย์หญิงจันทนา กล่าวต่อไปว่า กรมอนามัยโดยสำนักโภชนาการ สมาคมนักกำหนดอาหารแห่งประเทศไทย และสมาคมอนามัยแห่งประเทศไทย ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง MOPH-TUC (Thailand Ministry of public health- U.S. CDC Collaboration) โครงการความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงได้จัดทำแนวทางการควบคุมโรคไม่ติดต่อจากการบริโภคเกลือและไขมันในปริมาณที่มากเกินความต้องการของร่างกาย โดยจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพครูในโรงเรียนประถมศึกษา เรื่อง เมนูชูสุขภาพ ลดเค็ม ลดมัน เพื่อให้ครูที่รับผิดชอบงานโภชนาการ ครูอนามัยในโรงเรียนระดับประถมศึกษาจัดทำอาหารกลางวันที่มีคุณค่าทางโภชนาการลดเค็ม ลดมันให้กับเด็กในโรงเรียน
        ทั้งนี้ พฤติกรรมการบริโภคที่เหมาะสมควรปลูกฝังตั้งแต่ในวัยเด็ก เพื่อป้องกันการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่สมดุล ปลอดภัย ขาดการออกกำลังกายและมีภาวะเครียดสะสมจนส่งผลต่อสุขภาพ นำไปสู่ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นต้น? ทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ กล่าวในที่สุด
 
***
สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง/ 9 ธันวาคม 2557
 
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์โรคอ้วนในเด็กวัยเรียนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เสี่ยงเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเมื่อโตเป็นผู้ใหญj แนะครูที่รับผิดชอบงานโภชนาการและครูอนามัยในโรงเรียนประถมศึกษาจัดทำอาหารกลางวันที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ลดเค็ม ลดมัน วันนี้ (9 ธันวาคม 2557) ทันตแพทย์หญิงจันทนา อึ้งชูศักดิ์ ทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านทันตสาธารณสุข) เปิดเผยภายหลังเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพครูในโรงเรียนประถมศึกษา เรื่อง เมนูชูสุขภาพ ลดเค็ม ลดมัน ณ โรงแรมมารวย การ์เด้น กรุงเทพมหานคร ว่า จากรายงานการสำรวจภาวะอาหารและโภชนาการของประเทศไทย ในปี 2546 พบเด็กวัยเรียนเป็นโรคอ้วนร้อยละ 13.6 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 13.7 และร้อยละ 17 ในปี 2553 และ ปี 2554 โรคอ้วนหรือภาวะโภชนาการเกินในเด็กมีผลกระทบต่อทั้งพัฒนาการทางร่างกาย สติปัญญา อารมณ์และสังคม และเป็นปัญหาสาธารณสุขเร่งด่วนที่ต้องควบคุมและป้องกัน ปัจจัยสำคัญของภาวะโภชนาการเกิน คือ การบริโภคอาหารที่ไม่ได้สัดส่วนและปริมาณที่ไม่เหมาะสม รวมไปถึงขาดการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ ส่งผลให้เด็กวัยเรียนมีแนวโน้มเป็นโรคอ้วนเพิ่มขึ้นทุกปี ผลการวิจัยหลายแหล่งพบว่าเด็กที่เป็นโรคอ้วน 1 ใน 3 จะเป็นผู้ใหญ่อ้วน ซึ่งโรคอ้วนนำไปสู่โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ทันตแพทย์หญิงจันทนา กล่าวต่อไปว่า กรมอนามัยโดยสำนักโภชนาการ สมาคมนักกำหนดอาหารแห่งประเทศไทย และสมาคมอนามัยแห่งประเทศไทย ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง MOPH-TUC (Thailand Ministry of public health- U.S. CDC Collaboration) โครงการความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงได้จัดทำแนวทางการควบคุมโรคไม่ติดต่อจากการบริโภคเกลือและไขมันในปริมาณที่มากเกินความต้องการของร่างกาย โดยจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพครูในโรงเรียนประถมศึกษา เรื่อง เมนูชูสุขภาพ ลดเค็ม ลดมัน เพื่อให้ครูที่รับผิดชอบงานโภชนาการ ครูอนามัยในโรงเรียนระดับประถมศึกษาจัดทำอาหารกลางวันที่มีคุณค่าทางโภชนาการลดเค็ม ลดมันให้กับเด็กในโรงเรียน \\ทั้งนี้ พฤติกรรมการบริโภคที่เหมาะสมควรปลูกฝังตั้งแต่ในวัยเด็ก เพื่อป้องกันการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่สมดุล ปลอดภัย ขาดการออกกำลังกายและมีภาวะเครียดสะสมจนส่งผลต่อสุขภาพ นำไปสู่ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นต้น ทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ กล่าวในที่สุด ***สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง/ 9 ธันวาคม 2557

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน

ติดตามข่าวสารได้ที่

แทงบอลออนไลน์ || ดูบอลสด UFABET