คุณกำลังมองหาอะไร?

รมอนามัย มุ่งเป้า รพช. รพ.สต. ทั่วประเทศ ใช้มาตรฐานเดียวกันกับมาตรฐานบริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

25.09.2560
4
0
แชร์
25
กันยายน
2560

กรมอนามัย มุ่งเป้า รพช. รพ.สต. ทั่วประเทศ ใช้มาตรฐานเดียวกันกับมาตรฐานบริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ

      กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการวิจัยมาตรฐานบริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ระยะที่ 3 หวังพัฒนาบริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้มีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
     วันนี้ (25 กันยายน 2560) นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการใช้เกณฑ์มาตรฐานบริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ณ โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ต จังหวัดปทุมธานี ว่า สถานการณ์สุขภาพผู้สูงอายุไทยจากผลการสำรวจสุขภาวะผู้สูงอายุไทย ปี 2556 โดยกรมอนามัยร่วมกับโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พบว่า ผู้สูงอายุไทยมีเพียงร้อยละ 5 ที่มีสุขภาพดี แข็งแรง ขณะที่ร้อยละ 95 มีความเจ็บป่วยด้วยโรคหรือปัญหาสุขภาพ ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง ร้อยละ 41 โรคเบาหวาน ร้อยละ 18 ข้อเข่าเสื่อม ร้อยละ 9 เป็นผู้พิการ ร้อยละ 6 โรคซึมเศร้า ร้อยละ 1 มีภาวะสมองเสื่อม ร้อยละ 12.4 และผู้ป่วยนอนติดเตียง ร้อยละ 1 มีพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์เพียงร้อยละ 26 และเข้าถึงระบบบริการร้อยละ 56.7 กรมอนามัยตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุ และตั้งเป้าหมายให้คนไทยมีอายุขัยเฉลี่ยเมื่อแรกเกิดในอีก 20 ปีข้างหน้า อยู่ที่ 85 ปี และต้องอยู่อย่างมีสุขภาพดี ไม่น้อยกว่า 75 ปี
     นายแพทย์อรรถพล กล่าวต่อไปว่า กรอบยุทธศาสตร์กระทรวงสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ 2557 เป้าประสงค์ที่ 2 คือ ประชาชนในพื้นที่เครือข่ายบริการได้รับบริการสุขภาพทุกระดับที่มีมาตรฐาน กรมอนามัยจึงได้ดำเนินการวิจัยมาตรฐานบริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 จนถึงเดือนกันยายน 2560 เพื่อศึกษาสถานการณ์การให้บริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ความคิดเห็นและความต้องการของผู้สูงอายุเกี่ยวกับบริการส่งเสริมสุขภาพ และกำหนดเกณฑ์มาตรฐานบริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โดยมีบุคลากรในพื้นที่เป็นเครือข่ายดำเนินงาน ได้แก่ ศูนย์อนามัยที่ 2 พิษณุโลก ศูนย์อนามัยที่ 6 ชลบุรี ศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา และศูนย์อนามัยที่ 11 นครศรีธรรมราช ซึ่งในระยะแรกเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลสถานการณ์ปัจจุบัน การให้บริการส่งเสริมสุขภาพแก่ผู้สูงอายุในพื้นที่เป้าหมาย วิเคราะห์ข้อมูลและนำมาจัดทำร่างเกณฑ์มาตรฐานบริการส่งเสริมสุขภาพแก่ผู้สูงอายุทั้งในโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลระยะที่ 2 เป็นการพัฒนาและทดลองใช้เกณฑ์มาตรฐานบริการส่งเสริมสุขภาพแก่ผู้สูงอายุในโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเป้าหมาย และติดตามผลในระหว่างการใช้เกณฑ์มาตรฐานฯ 
     "สำหรับระยะที่ 3 นี้ เป็นการประเมินเกณฑ์มาตรบริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ โดยการประชุมเชิงปฏิบัติการปรับปรุงเกณฑ์มาตรฐานและจัดประชุมเชิงปฏิบัติการขยายผลการใช้เกณฑ์มาตรฐานบริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ โดยมุ่งเป้าให้การบริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล มีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานผู้สูงอายุ จากส่วนกลางและศูนย์อนามัยที่ 1 - 12 สถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน วิทยากรจากคณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด องค์กรปกครองท้องถิ่นและภาคีเครือข่าย จำนวน 250 คน? รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
 ***
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 25 กันยายน 2560
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการวิจัยมาตรฐานบริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ระยะที่ 3 หวังพัฒนาบริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้มีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ วันนี้ (25 กันยายน 2560) นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการใช้เกณฑ์มาตรฐานบริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ณ โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ต จังหวัดปทุมธานี ว่า สถานการณ์สุขภาพผู้สูงอายุไทยจากผลการสำรวจสุขภาวะผู้สูงอายุไทย ปี 2556 โดยกรมอนามัยร่วมกับโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พบว่า ผู้สูงอายุไทยมีเพียงร้อยละ 5 ที่มีสุขภาพดี แข็งแรง ขณะที่ร้อยละ 95 มีความเจ็บป่วยด้วยโรคหรือปัญหาสุขภาพ ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง ร้อยละ 41 โรคเบาหวาน ร้อยละ 18 ข้อเข่าเสื่อม ร้อยละ 9 เป็นผู้พิการ ร้อยละ 6 โรคซึมเศร้า ร้อยละ 1 มีภาวะสมองเสื่อม ร้อยละ 12.4 และผู้ป่วยนอนติดเตียง ร้อยละ 1 มีพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์เพียงร้อยละ 26 และเข้าถึงระบบบริการร้อยละ 56.7 กรมอนามัยตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุ และตั้งเป้าหมายให้คนไทยมีอายุขัยเฉลี่ยเมื่อแรกเกิดในอีก 20 ปีข้างหน้า อยู่ที่ 85 ปี และต้องอยู่อย่างมีสุขภาพดี ไม่น้อยกว่า 75 ปี นายแพทย์อรรถพล กล่าวต่อไปว่า กรอบยุทธศาสตร์กระทรวงสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ 2557 เป้าประสงค์ที่ 2 คือ ประชาชนในพื้นที่เครือข่ายบริการได้รับบริการสุขภาพทุกระดับที่มีมาตรฐาน กรมอนามัยจึงได้ดำเนินการวิจัยมาตรฐานบริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 จนถึงเดือนกันยายน 2560 เพื่อศึกษาสถานการณ์การให้บริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ความคิดเห็นและความต้องการของผู้สูงอายุเกี่ยวกับบริการส่งเสริมสุขภาพ และกำหนดเกณฑ์มาตรฐานบริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โดยมีบุคลากรในพื้นที่เป็นเครือข่ายดำเนินงาน ได้แก่ ศูนย์อนามัยที่ 2 พิษณุโลก ศูนย์อนามัยที่ 6 ชลบุรี ศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา และศูนย์อนามัยที่ 11 นครศรีธรรมราช ซึ่งในระยะแรกเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลสถานการณ์ปัจจุบัน การให้บริการส่งเสริมสุขภาพแก่ผู้สูงอายุในพื้นที่เป้าหมาย วิเคราะห์ข้อมูลและนำมาจัดทำร่างเกณฑ์มาตรฐานบริการส่งเสริมสุขภาพแก่ผู้สูงอายุทั้งในโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลระยะที่ 2 เป็นการพัฒนาและทดลองใช้เกณฑ์มาตรฐานบริการส่งเสริมสุขภาพแก่ผู้สูงอายุในโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเป้าหมาย และติดตามผลในระหว่างการใช้เกณฑ์มาตรฐานฯ สำหรับระยะที่ 3 นี้ เป็นการประเมินเกณฑ์มาตรบริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ โดยการประชุมเชิงปฏิบัติการปรับปรุงเกณฑ์มาตรฐานและจัดประชุมเชิงปฏิบัติการขยายผลการใช้เกณฑ์มาตรฐานบริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ โดยมุ่งเป้าให้การบริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล มีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานผู้สูงอายุ จากส่วนกลางและศูนย์อนามัยที่ 1 - 12 สถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน วิทยากรจากคณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด องค์กรปกครองท้องถิ่นและภาคีเครือข่าย จำนวน 250 คน รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด *** ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 25 กันยายน 2560

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน

ติดตามข่าวสารได้ที่

แทงบอลออนไลน์ || ดูบอลสด UFABET