ข่า
วแจก "สธ เผยหญิงไทยป่วยมะเร็งปากมดลูกเฉียดหมื่นคนต่อปี ชี้ กว่าร้อยละ 52 เสียชีวิต"
กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
05
พฤศจิกายน
2553
ข่าวแจก "สธ เผยหญิงไทยป่วยมะเร็งปากมดลูกเฉียดหมื่นคนต่อปี ชี้ กว่าร้อยละ 52 เสียชีวิต"
สธ เผยหญิงไทยป่วยมะเร็งปากมดลูกเฉียดหมื่นคนต่อปี ชี้ กว่าร้อยละ 52 เสียชีวิต
กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับองค์กรเจไปโก้: JHPIEGO (Johns Hopkins Program for International Educational in Gynecology and Obstetrics) ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อสุขภาพที่ไม่แสวงหากำไรของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา (John Hopkins University Nonprofit Affiliate) รับมอบเงินจากคณะนักปั่นจักรยานการกุศล The Tour of Hope ช่วยหญิงไทยห่างไกลจากภัยมะเร็งปากมดลูก โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน
มะเร็งปากมดลูกนับเป็นภัยคุกคามของสุขภาพผู้หญิงทุกคน ซึ่งปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยและอัตราการเสียชีวิตที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ มะเร็งปากมดลูกจึงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของ ทุกประเทศ และเป็นภัยร้ายของผู้หญิงทั่วโลก โดยจากสถิติพบว่า ทุก ๆ 2 นาที จะมีผู้หญิงเสียชีวิตด้วยมะเร็งปากมดลูก 1 คน หรือทุก ๆ 1 ชั่วโมง จะมีผู้หญิงทั่วโลกเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกสูงถึง 30 คน สำหรับในประเทศไทยพบว่ามีผู้หญิงป่วยด้วยมะเร็งปากมดลูก 9,999 คนต่อปี โดยในจำนวนนี้มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 5,216 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 52 เนื่องจากผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่มักจะมาพบแพทย์เมื่อมีอาการและความรุนแรงของโรคอยู่ในระยะลุกลามแล้ว อีกทั้งยังพบว่าความเปลี่ยนแปลงด้านค่านิยมของสังคมที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้วัยรุ่นไทยมีทัศนคติเรื่องเพศคล้ายชาวตะวันตก ทำให้เอื้อต่อการเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่อายุยังน้อย มะเร็งปากมดลูกเป็นหนึ่งในโรคร้ายอันดับต้น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เพราะนอกจากงบประมาณที่ต้องใช้ในการดูแลและรักษาผู้ป่วยแล้ว มะเร็งปากมดลูกยังก่อให้เกิดความสูญเสียด้านสภาพจิตใจทั้งแก่ตัวผู้ป่วยและญาติพี่น้อง ซึ่งวิธีทีดีที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดมะเร็งปากมดลูกและลดอุบัติการณ์ของ มะเร็งปากมดลูกในหญิงไทยคือการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในกลุ่มเสี่ยงคืออายุ 30-45 ปี ซึ่งการคัดกรองมี 2 วิธี คือ Pap Smear และ VIA ซึ่งวิธี VIA เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยในการย่นระยะเวลาของผู้รับบริการ เพราะสามารถแปลผลและรักษาได้เมื่อพบอาการผิดปกติ แต่มีข้อจำกัดคือ ทำได้เฉพาะในกลุ่มอายุ 30-45 ปี เท่านั้น
องค์กรเจไปโก้ (JHPIEGO ) ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อสุภาพที่ไม่แสวงหากำไร เพื่อสุขภาพของสตรีและครอบครัว ได้เห็นความสำคัญและให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งแนวทางการปฏิบัติที่สอดคล้องกับท้องถิ่นแก่ประเทศไทย โดยประสานการดำเนินงานร่วมเจไปโก้ (JHPIEGO )ประเทศไทยและกรมอนามัยในฐานะหน่วยงานหลักที่ดำเนินการด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ของประเทศไทย ซึ่งได้ดำเนินงานโครงการคัดกรองมะเร็ง ปากมดลูกด้วยวิธีVIA (Visual Inspection with acetic Acid) เป็นเวลากว่า 10 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 เป็นต้นมา จึงเป็นจุดเริ่มต้นการก่อตั้งโครงการจักรยานการกุศล The Tour of Hope ซึ่งดำเนินการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2549 จากการรวมตัวของพนักงานบริษัทแกล็กโซสมิทไคล์น (GlaxoSmithKline- GSK) และผู้สนใจร่วมการเดินทาง จากหลายประเทศ อาทิ เยอรมนี ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ รวมจำนวนกว่า 25 คน ร่วมปั่นจักรยานเพื่อการกุศลเดินทางข้ามจังหวัดและข้ามประเทศ เพื่อจัดหาทุนสนับสนุนโครงการรณรงค์ให้สตรีไทยตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกขององค์กรเจไปโก้?
สำหรับในปี พ.ศ. 2553 นี้ คณะนักปั่นนานาชาติในโครงการ The Tour of Hope ซึ่งนำทีมโดย ดร.เออร์ซูล่า ฮาน แพทย์ชาวเยอรมันและเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งโครงการ ได้ปั่นจักรยานจากพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีมากรุงเทพฯ เป็นเวลา 8 วัน ระยะทางทั้งสิ้น 660 กิโลเมตร และมอบเงินจำนวน 1,000,000 บาทให้กับตัวแทนองค์กร JHPIEGO ประเทศไทย เพื่อสมทบทุนโครงการเผยแพร่ความรู้เรื่องมะเร็งปากมดลูก รวมถึงให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการดูแลป้องกันและรักษามะเร็งปากมดลูก พร้อมทั้งสนับสนุนการให้ความรู้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในด้านการป้องกันและรักษาโรคมะเร็งปากมดลูก ดังนั้น โครงการ The Tour of Hope นับเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างภาคประชาชน ภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชนและภาคเอกชน ซึ่งเป็นตัวอย่างของความร่วมมือในการช่วยเหลือและรณรงค์เพื่อป้องกันสตรีไทยจากภัยมะเร็งปากมดลูก
กลุ่มสื่อสารองค์กร / 5 พฤศจิกายน 2553
สธ เผยหญิงไทยป่วยมะเร็งปากมดลูกเฉียดหมื่นคนต่อปี ชี้ กว่าร้อยละ 52 เสียชีวิต กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับองค์กรเจไปโก้: JHPIEGO (Johns Hopkins Program for International Educational in Gynecology and Obstetrics) ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อสุขภาพที่ไม่แสวงหากำไรของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา (John Hopkins University Nonprofit Affiliate) รับมอบเงินจากคณะนักปั่นจักรยานการกุศล The Tour of Hope ช่วยหญิงไทยห่างไกลจากภัยมะเร็งปากมดลูก โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน มะเร็งปากมดลูกนับเป็นภัยคุกคามของสุขภาพผู้หญิงทุกคน ซึ่งปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยและอัตราการเสียชีวิตที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ มะเร็งปากมดลูกจึงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของ ทุกประเทศ และเป็นภัยร้ายของผู้หญิงทั่วโลก โดยจากสถิติพบว่า ทุก ๆ 2 นาที จะมีผู้หญิงเสียชีวิตด้วยมะเร็งปากมดลูก 1 คน หรือทุก ๆ 1 ชั่วโมง จะมีผู้หญิงทั่วโลกเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกสูงถึง 30 คน สำหรับในประเทศไทยพบว่ามีผู้หญิงป่วยด้วยมะเร็งปากมดลูก 9,999 คนต่อปี โดยในจำนวนนี้มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 5,216 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 52 เนื่องจากผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่มักจะมาพบแพทย์เมื่อมีอาการและความรุนแรงของโรคอยู่ในระยะลุกลามแล้ว อีกทั้งยังพบว่าความเปลี่ยนแปลงด้านค่านิยมของสังคมที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้วัยรุ่นไทยมีทัศนคติเรื่องเพศคล้ายชาวตะวันตก ทำให้เอื้อต่อการเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่อายุยังน้อย มะเร็งปากมดลูกเป็นหนึ่งในโรคร้ายอันดับต้น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เพราะนอกจากงบประมาณที่ต้องใช้ในการดูแลและรักษาผู้ป่วยแล้ว มะเร็งปากมดลูกยังก่อให้เกิดความสูญเสียด้านสภาพจิตใจทั้งแก่ตัวผู้ป่วยและญาติพี่น้อง ซึ่งวิธีทีดีที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดมะเร็งปากมดลูกและลดอุบัติการณ์ของ มะเร็งปากมดลูกในหญิงไทยคือการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในกลุ่มเสี่ยงคืออายุ 30-45 ปี ซึ่งการคัดกรองมี 2 วิธี คือ Pap Smear และ VIA ซึ่งวิธี VIA เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยในการย่นระยะเวลาของผู้รับบริการ เพราะสามารถแปลผลและรักษาได้เมื่อพบอาการผิดปกติ แต่มีข้อจำกัดคือ ทำได้เฉพาะในกลุ่มอายุ 30-45 ปี เท่านั้น องค์กรเจไปโก้ (JHPIEGO ) ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อสุภาพที่ไม่แสวงหากำไร เพื่อสุขภาพของสตรีและครอบครัว ได้เห็นความสำคัญและให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งแนวทางการปฏิบัติที่สอดคล้องกับท้องถิ่นแก่ประเทศไทย โดยประสานการดำเนินงานร่วมเจไปโก้ (JHPIEGO )ประเทศไทยและกรมอนามัยในฐานะหน่วยงานหลักที่ดำเนินการด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ของประเทศไทย ซึ่งได้ดำเนินงานโครงการคัดกรองมะเร็ง ปากมดลูกด้วยวิธีVIA (Visual Inspection with acetic Acid) เป็นเวลากว่า 10 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 เป็นต้นมา จึงเป็นจุดเริ่มต้นการก่อตั้งโครงการจักรยานการกุศล The Tour of Hope ซึ่งดำเนินการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2549 จากการรวมตัวของพนักงานบริษัทแกล็กโซสมิทไคล์น (GlaxoSmithKline- GSK) และผู้สนใจร่วมการเดินทาง จากหลายประเทศ อาทิ เยอรมนี ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ รวมจำนวนกว่า 25 คน ร่วมปั่นจักรยานเพื่อการกุศลเดินทางข้ามจังหวัดและข้ามประเทศ เพื่อจัดหาทุนสนับสนุนโครงการรณรงค์ให้สตรีไทยตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกขององค์กรเจไปโก้ สำหรับในปี พ.ศ. 2553 นี้ คณะนักปั่นนานาชาติในโครงการ The Tour of Hope ซึ่งนำทีมโดย ดร.เออร์ซูล่า ฮาน แพทย์ชาวเยอรมันและเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งโครงการ ได้ปั่นจักรยานจากพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีมากรุงเทพฯ เป็นเวลา 8 วัน ระยะทางทั้งสิ้น 660 กิโลเมตร และมอบเงินจำนวน 1,000,000 บาทให้กับตัวแทนองค์กร JHPIEGO ประเทศไทย เพื่อสมทบทุนโครงการเผยแพร่ความรู้เรื่องมะเร็งปากมดลูก รวมถึงให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการดูแลป้องกันและรักษามะเร็งปากมดลูก พร้อมทั้งสนับสนุนการให้ความรู้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในด้านการป้องกันและรักษาโรคมะเร็งปากมดลูก ดังนั้น โครงการ The Tour of Hope นับเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างภาคประชาชน ภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชนและภาคเอกชน ซึ่งเป็นตัวอย่างของความร่วมมือในการช่วยเหลือและรณรงค์เพื่อป้องกันสตรีไทยจากภัยมะเร็งปากมดลูก กลุ่มสื่อสารองค์กร / 5 พฤศจิกายน 2553