ข่า
วแจก "นานาชาติขอบคุณสาธารณสุขเรื่องไอโอดีน"
กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
05
พฤศจิกายน
2553
ข่าวแจก "นานาชาติขอบคุณสาธารณสุขเรื่องไอโอดีน"
รองประธานสภานานาชาติเพื่อการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนและผู้แทนประจำภูมิภาคเอเซีย แปซิฟิก และผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย ขอบคุณ? รัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข
วันนี้ (5 พฤศจิกายน 2553) เวลา 11.00 น. ศาสตราจารย์ ซี เจ ฮีสต์แมน รองประธานสภานานาชาติเพื่อการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนและผู้แทนประจำภูมิภาคเอเซีย แปซิฟิก และนางมัวรีน เบอร์มิงแฮม ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย และผู้แทนจากสำนักงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย เข้าพบ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อ ขอบคุณ ที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง และมุ่งมั่นตั้งใจในการขับเคลื่อนให้เกิดมาตรการต่างๆ ในการควบคุมและป้องกันโรคขาดสารไอโอดีน เช่น1 )มาตรการเกลือเสริมไอโอดีนถ้วนหน้า (Universal Salt Iodization) โดยการออกกฎหมายให้เกลือบริโภคทั้งในคน และสัตว์ รวมทั้งเกลือที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ต้องมีไอโอดีนไม่น้อยกว่า 30 มิลลิกรัมต่อเกลือบริโภค 1กิโลกรัม 2) การให้หญิงตั้งครรภ์ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการขาดสารไอโอดีนได้รับยาเม็ดเสริมไอโอดีน โฟเลท และธาตุเหล็กตลอดการตั้งครรภ์ และขณะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 6 เดือน และ 3) การสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการจัดตั้งชุมชน /หมู่บ้านไอโอดีน ฯลฯ เพื่อขจัดโรคขาดสารไอโอดีนให้หมดไปจากประเทศไทยอย่างยั่งยืน เพื่อประชากรไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี
กลุ่มสื่อสารองค์กร / 5 พฤศจิกายน 2553
รองประธานสภานานาชาติเพื่อการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนและผู้แทนประจำภูมิภาคเอเซีย แปซิฟิก และผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย \\ขอบคุณ รัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข วันนี้ (5 พฤศจิกายน 2553) เวลา 11.00 น. ศาสตราจารย์ ซี เจ ฮีสต์แมน รองประธานสภานานาชาติเพื่อการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนและผู้แทนประจำภูมิภาคเอเซีย แปซิฟิก และนางมัวรีน เบอร์มิงแฮม ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย และผู้แทนจากสำนักงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย เข้าพบ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อ ขอบคุณ ที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง และมุ่งมั่นตั้งใจในการขับเคลื่อนให้เกิดมาตรการต่างๆ ในการควบคุมและป้องกันโรคขาดสารไอโอดีน เช่น1 )มาตรการเกลือเสริมไอโอดีนถ้วนหน้า (Universal Salt Iodization) โดยการออกกฎหมายให้เกลือบริโภคทั้งในคน และสัตว์ รวมทั้งเกลือที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ต้องมีไอโอดีนไม่น้อยกว่า 30 มิลลิกรัมต่อเกลือบริโภค 1กิโลกรัม 2) การให้หญิงตั้งครรภ์ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการขาดสารไอโอดีนได้รับยาเม็ดเสริมไอโอดีน โฟเลท และธาตุเหล็กตลอดการตั้งครรภ์ และขณะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 6 เดือน และ 3) การสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการจัดตั้งชุมชน /หมู่บ้านไอโอดีน ฯลฯ เพื่อขจัดโรคขาดสารไอโอดีนให้หมดไปจากประเทศไทยอย่างยั่งยืน เพื่อประชากรไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี กลุ่มสื่อสารองค์กร / 5 พฤศจิกายน 2553