กรมอนามัย ชู 293 อปท. ผ่านเกณฑ์พัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จับมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม สร้างหลักประกันในการบริการที่ท้องถิ่นจัดบริการ เช่น จัดหาน้ำสะอาด ลดเหตุรำคาญจากปัญหาขยะหรือ น้ำเสีย ควบคุมตลาดและร้านอาหารที่สะอาด เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 พร้อมมอบเกียรติบัตร 293 องค์กรปกครองท้องถิ่น ที่ผ่านเกณฑ์
วันนี้ (18 กรกฎาคม 2560) นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดการประชุม เชิงปฏิบัติการการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (EHA Forum 2017) "EHA ก้าวไกลสู่ Thailand 4.0?ณ โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ท จังหวัดปทุมธานี ว่า ตามแผนบูรณาการการบริหารจัดการขยะและสิ่งแวดล้อม ปีงบประมาณ 2560 ภายใต้ยุทธศาสตร์การอภิบาลระบบส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัยเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งในปีงบประมาณ 2555-2559 ที่ผ่านมา มีหน่วยงานสายอนามัยสิ่งแวดล้อมและศูนย์อนามัยที่ 1 - 12 และสถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง ได้ร่วมดำเนินการตามโครงการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระดับเทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล สมัครเข้าร่วมและสามารถพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม (Environmental Health Accreditation : EHA) ตามประเด็นงานหลัก 9 ระบบ ประกอบด้วย การจัดการสุขาภิบาลอาหาร การจัดการคุณภาพน้ำบริโภค การจัดการสิ่งปฏิกูล การจัดการมูลฝอย การรองรับภาวะฉุกเฉินและภัยพิบัติ การจัดการเหตุรำคาญ การจัดการกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ การประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ และการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อันก่อให้เกิดประโยชน์กับตัวองค์กร ผู้บริหารองค์กร และบุคลากร/เจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชน สังคม รวมถึงภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง องค์กรวิชาชีพ/สถาบันการศึกษา เกิดโอกาสในการพัฒนา นำแนวปฏิบัติที่เป็นปัญหาไปสู่การค้นหาคำตอบ เกิดต้นแบบในการจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมหลายแห่ง
"ทั้งนี้ ในปี 2559 ที่ผ่านมา มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระดับเทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล และองค์กรบริหารส่วนตำบล สามารถดำเนินการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม (Environmental Health Accreditation) ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับเกียรติบัตร 146 แห่ง จาก 49 จังหวัด และในปี 2560 นี้ มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระดับเทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล และองค์กรบริหารส่วนตำบล สามารถดำเนินการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับเกียรติบัตร 293 แห่ง จาก 60 จังหวัด และสำหรับการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (EHA Forum 2017) ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างความรู้ความเข้าใจ และตระหนักในบทบาทหน้าที่การพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับองค์กร นำไปสู่การลดความเสี่ยงด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และสร้างหลักประกันในการบริการที่ท้องถิ่นต้องจัดบริการให้ประชาชน เช่น จัดการน้ำสะอาด ลดเหตุรำราญจากปัญหาขยะหรือ น้ำเสีย มีการควบคุมการประกอบกิจการที่เกิดขึ้นในท้องถิ่น เช่น ตลาด ร้านอาหารที่สะอาดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว อำนวยความเป็นธรรมในการบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพ เข้าถึงได้ ให้กับประชาชน และส่งเสริมการเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคุณภาพด้านการพัฒนาระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความพึงพอใจ ความน่าเชื่อถือ และเป็นที่พึ่งของประชาชน? รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว
***
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 18 กรกฎาคม 2560
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จับมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม สร้างหลักประกันในการบริการที่ท้องถิ่นจัดบริการ เช่น จัดหาน้ำสะอาด ลดเหตุรำคาญจากปัญหาขยะหรือ น้ำเสีย ควบคุมตลาดและร้านอาหารที่สะอาด เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 พร้อมมอบเกียรติบัตร 293 องค์กรปกครองท้องถิ่น ที่ผ่านเกณฑ์ วันนี้ (18 กรกฎาคม 2560) นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดการประชุม เชิงปฏิบัติการการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (EHA Forum 2017) EHA ก้าวไกลสู่ Thailand 4.0ณ โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ท จังหวัดปทุมธานี ว่า ตามแผนบูรณาการการบริหารจัดการขยะและสิ่งแวดล้อม ปีงบประมาณ 2560 ภายใต้ยุทธศาสตร์การอภิบาลระบบส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัยเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งในปีงบประมาณ 2555-2559 ที่ผ่านมา มีหน่วยงานสายอนามัยสิ่งแวดล้อมและศูนย์อนามัยที่ 1 - 12 และสถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง ได้ร่วมดำเนินการตามโครงการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระดับเทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล สมัครเข้าร่วมและสามารถพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม (Environmental Health Accreditation : EHA) ตามประเด็นงานหลัก 9 ระบบ ประกอบด้วย การจัดการสุขาภิบาลอาหาร การจัดการคุณภาพน้ำบริโภค การจัดการสิ่งปฏิกูล การจัดการมูลฝอย การรองรับภาวะฉุกเฉินและภัยพิบัติ การจัดการเหตุรำคาญ การจัดการกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ การประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ และการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อันก่อให้เกิดประโยชน์กับตัวองค์กร ผู้บริหารองค์กร และบุคลากร/เจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชน สังคม รวมถึงภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง องค์กรวิชาชีพ/สถาบันการศึกษา เกิดโอกาสในการพัฒนา นำแนวปฏิบัติที่เป็นปัญหาไปสู่การค้นหาคำตอบ เกิดต้นแบบในการจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมหลายแห่ง ทั้งนี้ ในปี 2559 ที่ผ่านมา มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระดับเทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล และองค์กรบริหารส่วนตำบล สามารถดำเนินการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม (Environmental Health Accreditation) ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับเกียรติบัตร 146 แห่ง จาก 49 จังหวัด และในปี 2560 นี้ มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระดับเทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล และองค์กรบริหารส่วนตำบล สามารถดำเนินการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับเกียรติบัตร 293 แห่ง จาก 60 จังหวัด และสำหรับการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (EHA Forum 2017) ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างความรู้ความเข้าใจ และตระหนักในบทบาทหน้าที่การพัฒนาคุณภาพระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับองค์กร นำไปสู่การลดความเสี่ยงด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และสร้างหลักประกันในการบริการที่ท้องถิ่นต้องจัดบริการให้ประชาชน เช่น จัดการน้ำสะอาด ลดเหตุรำราญจากปัญหาขยะหรือ น้ำเสีย มีการควบคุมการประกอบกิจการที่เกิดขึ้นในท้องถิ่น เช่น ตลาด ร้านอาหารที่สะอาดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว อำนวยความเป็นธรรมในการบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพ เข้าถึงได้ ให้กับประชาชน และส่งเสริมการเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคุณภาพด้านการพัฒนาระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความพึงพอใจ ความน่าเชื่อถือ และเป็นที่พึ่งของประชาชน รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว *** ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 18 กรกฎาคม 2560