ข่า
วแจก "กรมอนามัย ชวนกินเจ.. ปลอดภัย ปลอดโรค แนะล้างผักให้สะอาดทุกครั้งก่อนกินหรือปรุงอาหาร"
กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
23
กันยายน
2557
ข่าวแจก "กรมอนามัย ชวนกินเจ.. ปลอดภัย ปลอดโรค แนะล้างผักให้สะอาดทุกครั้งก่อนกินหรือปรุงอาหาร"
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะกินเจปีนี้ กินผักให้ปลอดภัย ปลอดโรค ต้องล้างให้สะอาดทุกครั้ง ก่อนกินหรือปรุงอาหาร ในขณะที่ตลาดยิ่งเจริญจัดเครื่องล้างผักปลอดสารพิษไว้บริการลูกค้าถือเป็น ด่านแรกที่จะช่วยล้างสารพิษตกค้างหรือการปนเปื้อนของเชื้อโรคในผักได้ และยังเป็นการขานรับนโยบายความปลอดภัยด้านอาหารของกรมอนามัยด้วย
วันนี้ (23 กันยายน 2557) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวภายหลังเป็นประธานจัดงานรณรงค์ กินเจ ถูกอนามัย อิ่มบุญ อิ่มใจ สุขภาพดี? ที่ตลาดยิ่งเจริญ เขตบางเขนกรุงเทพมหานครว่า เทศกาลกินเจ? หรือบางแห่งอาจเรียกว่า ประเพณีถือศีลกินผัก? ซึ่งกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้วทั่วประเทศ โดยปีนี้เทศกาลกินเจจะมีถึง 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 วันที่ 24 กันยายน ถึง 2 ตุลาคม 2557 และครั้งที่ 2 วันที่ 24 ตุลาคม ถึง 1 พฤศจิกายน 2557 การกินเจนอกจากจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของการสร้างบุญกุศลด้วยการละเลิกเพื่อชีวิตแล้ว ในแง่ของสุขภาพร่างกายก็พลอยได้รับประโยชน์ร่วมด้วย เพราะถือเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่ร่างกายมีโอกาสพักผ่อน จากการย่อยอาหารประเภทที่ย่อยยากทั้งหลาย ช่วงกินเจจึงเป็นช่วงที่ผู้คนส่วนใหญ่บริโภค ผัก? เป็นจำนวนมาก เพราะผักย่อยง่ายและให้คุณค่าทางสารอาหารมากมาย ทั้งวิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะคุณค่าในเรื่องของเส้นใยอาหารและช่วยทำความสะอาดขับล้างสารพิษในลำไส้ ช่วยลดการดูดซึมไขมันคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยปรับสมดุลเอนไซม์และฮอร์โมนในร่างกายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อว่า การกินผักเป็นเรื่องที่มีผลดีต่อสุขภาพและเป็นสิ่งที่กรมอนามัยให้การส่งเสริมมาอย่างต่อเนื่องแต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือปัญหาการตกค้างของสารเคมีในผักที่อาจเข้าไปสะสมในร่างกาย และเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค ทำให้เสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคต่อมไร้ท่อและโรคอื่นๆ เนื่องจากการเพาะปลูกของประเทศไทยในหลายพื้นที่ยังคงมีการใช้สารเคมีเพื่อกำจัดศัตรูพืชและยังมีการตรวจพบการตกค้างของสารเคมีอยู่ในพืชผักอยู่เสมอ โดยเฉพาะผักสด 10 ชนิดที่จำหน่ายในท้องตลาดที่พบว่ามีการตกค้างของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในปริมาณที่สูงได้แก่ 1.กวางตุ้ง 2.คะน้า 3.ถั่วฝักยาว 4.พริก 5.แตงกวา 6.กะหล่ำปลี 7.ผักกาดขาวปลี 8.ผักบุ้งจีน 9.มะเขือ 10.ผักชี อีกทั้งยังมีการตรวจพบการปนเปื้อนของเชื้ออีโคไลและเชื้อซาลโมเนลลา ซึ่งเป็นเชื้อก่อโรคอาหารเป็นพิษในผักที่นิยมรับประทานเป็นผักแกล้มแบบสดๆเช่น ผักกาดหอม ต้นหอม ผักชี กะหล่ำปลี ผักชีฝรั่ง โหระพา สะระแหน่ ใบบัวบก ถั่วพู แตงกวา ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ในการเพาะปลูก โดยเชื้อเหล่านี้จะอาศัยอยู่ในลำไส้ของสัตว์และถูกขับถ่ายออกมากับมูลของสัตว์ เมื่อนำปุ๋ยจากมูลสัตว์มาใช้ในการเกษตรเชื้อโรคนี้ก็อาจปนเปื้อนในผลผลิตได้ ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า เพื่อกระตุ้นเตือนให้ผู้บริโภคคำนึงถึงความปลอดภัยในการกินผัก เทศกาลกินเจปีนี้ จึงรณรงค์ภายใต้แนวคิด กินผัก อย่างไรปลอดภัยปลอดโรค? โดยก่อนกินหรือนำผักมาปรุงอาหาร ต้องล้างให้สะอาดทุกครั้ง เพื่อป้องกันสารเคมีตกค้างหรือการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค ให้ล้างผ่านน้ำก๊อกที่ไหลนาน 2 นาที หรือแช่ในน้ำผสมเกลือ หรือน้ำผสมน้ำส้มสายชู ทิ้งไว้นาน 10-15 นาที หรือแช่ในน้ำผสมโซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 1 กะละมัง หรือน้ำประมาณ 4 ลิตร จากนั้นนำผักมาล้างน้ำสะอาดอีก 2-3 ครั้ง สำหรับผักบางชนิด เช่น คะน้า กะหล่ำ ถั่วฝักยาว หากมีคราบขาวจับที่กาบใบหรือฝักมากเกินไปล้างน้ำหลายๆครั้ง และคลี่ใบถูหรือล้างด้วยการเปิดน้ำไหลผ่านอย่างน้อย 2 นาที
ทั้งนี้ ต้องขอบคุณและชื่นชมตลาดยิ่งเจริญเป็นอย่างมาก ที่ขานรับนโยบายความปลอดภัยด้านอาหารของกรมอนามัย โดยการจัดให้มีเครื่องล้างผักปลอดสารพิษ?สำหรับให้บริการแก่ลูกค้าในการนำผักมาล้างได้ฟรี นับเป็นตลาดสดมาตรฐานแห่งแรกที่ให้ความสำคัญและใส่ใจในสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภคอย่างแท้จริง และยังเป็นการกระตุ้นเตือนให้ผู้บริโภคใส่ใจการล้างผักทุกครั้งก่อนที่จะนำไปกินหรือปรุงอาหาร จึงขอยกให้เครื่องล้างผักปลอดสารพิษ?นี้เป็นยิ่งเจริญโมเดล นวัตกรรมต้นแบบเพื่อการส่งเสริมสุขภาพของคนไทย นับเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ตลาดสดอื่นๆที่จะนำต้นแบบนี้ไปใช้ โดยทางกรมอนามัยยินดีที่จะเป็นหน่วยงานกลางในการประสานถ่ายทอดองค์ความรู้หรือติดต่อข้อมูลให้?ดร.นพ.พรเทพกล่าว
ด้านนายปริญญา ธรรมวัฒนะกรรมการผู้จัดการตลาดยิ่งเจริญและนายกสมาคมตลาดสดไทย กล่าวว่าในฐานะผู้ประกอบการตลาดสดมาตรฐานรายใหญ่ที่มีการจำหน่ายผักสดเป็นจำนวนมาก การจัดให้มีเครื่องล้างผักปลอดสารพิษ?นอกจากจะช่วยสนับสนุนการดำเนินงานตามมาตรฐานตลาดสดน่าซื้อของกรมอนามัยแล้ว ยังเป็นการขานรับนโยบายความปลอดภัยด้านอาหารด้วย โดยเฉพาะความปลอดภัยในการกินผักของผู้บริโภคที่เน้นให้มีการล้างผักให้สะอาดทุกครั้งก่อนกินหรือปรุงอาหาร ซึ่งทางตลาดได้จัดเครื่องล้างผักปลอดสารพิษไว้ทั้งหมด 2 เครื่อง สำหรับบริการลูกค้าโดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้า จนถึงประมาณ 6 โมงเย็น ตัวเครื่องจะผลิตด้วยวัสดุสแตนเลส อย่างดี ส่วนประกอบใน 1 เครื่องจะแบ่งออกเป็น 3 ถัง ถังที่1จะเป็นถังน้ำเกลือซึ่งจะเป็นน้ำวนมีขนาดบรรจุประมาณ 10 ลิตรสำหรับแช่ล้างผัก ถังที่2จะเป็นถังน้ำธรรมดามีขนาดบรรจุประมาณ 10 ลิตรสำหรับล้างน้ำเกลืออกจากผักซึ่งจะเป็นน้ำวนเช่นกัน ส่วนถังที่ 3 จะเป็นตระแกรงสำหรับวางผักให้สะเด็ดน้ำ โดยราคาต้นทุนในการผลิตจะอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาทต่อ 1 เครื่อง เครื่องล้างผักปลอดสารพิษนี้ จึงถือเป็นด่านแรกที่จะช่วยล้างสารพิษตกค้างหรือการปนเปื้อนของเชื้อโรคได้ นอกจากจะเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค ช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายต่างๆแล้ว ยังเป็นการคืนกำไรให้แก่ผู้บริโภคด้วย หากผู้ประกอบการตลาดสดรายไหนสนใจที่จะผลิตเครื่องนี้ไว้บริการแก่ลูกค้าบ้าง ทางตลาดก็ยินดีที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หรือจะประสานผ่านมาทางกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุขก็ได้เช่นกัน?กรรมการผู้จัดการตลาดยิ่งเจริญ กล่าวปิดท้าย
***
สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง / 23 กันยายน 2557
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะกินเจปีนี้ กินผักให้ปลอดภัย ปลอดโรค ต้องล้างให้สะอาดทุกครั้ง ก่อนกินหรือปรุงอาหาร ในขณะที่ตลาดยิ่งเจริญจัดเครื่องล้างผักปลอดสารพิษไว้บริการลูกค้าถือเป็น ด่านแรกที่จะช่วยล้างสารพิษตกค้างหรือการปนเปื้อนของเชื้อโรคในผักได้ และยังเป็นการขานรับนโยบายความปลอดภัยด้านอาหารของกรมอนามัยด้วย วันนี้ (23 กันยายน 2557) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวภายหลังเป็นประธานจัดงานรณรงค์ \\กินเจ ถูกอนามัย อิ่มบุญ อิ่มใจ สุขภาพดี ที่ตลาดยิ่งเจริญ เขตบางเขนกรุงเทพมหานครว่า \\เทศกาลกินเจ หรือบางแห่งอาจเรียกว่า \\ประเพณีถือศีลกินผัก ซึ่งกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้วทั่วประเทศ โดยปีนี้เทศกาลกินเจจะมีถึง 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 วันที่ 24 กันยายน ถึง 2 ตุลาคม 2557 และครั้งที่ 2 วันที่ 24 ตุลาคม ถึง 1 พฤศจิกายน 2557 การกินเจนอกจากจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของการสร้างบุญกุศลด้วยการละเลิกเพื่อชีวิตแล้ว ในแง่ของสุขภาพร่างกายก็พลอยได้รับประโยชน์ร่วมด้วย เพราะถือเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่ร่างกายมีโอกาสพักผ่อน จากการย่อยอาหารประเภทที่ย่อยยากทั้งหลาย ช่วงกินเจจึงเป็นช่วงที่ผู้คนส่วนใหญ่บริโภค \\ผัก เป็นจำนวนมาก เพราะผักย่อยง่ายและให้คุณค่าทางสารอาหารมากมาย ทั้งวิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะคุณค่าในเรื่องของเส้นใยอาหารและช่วยทำความสะอาดขับล้างสารพิษในลำไส้ ช่วยลดการดูดซึมไขมันคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยปรับสมดุลเอนไซม์และฮอร์โมนในร่างกายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อว่า การกินผักเป็นเรื่องที่มีผลดีต่อสุขภาพและเป็นสิ่งที่กรมอนามัยให้การส่งเสริมมาอย่างต่อเนื่องแต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือปัญหาการตกค้างของสารเคมีในผักที่อาจเข้าไปสะสมในร่างกาย และเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค ทำให้เสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคต่อมไร้ท่อและโรคอื่นๆ เนื่องจากการเพาะปลูกของประเทศไทยในหลายพื้นที่ยังคงมีการใช้สารเคมีเพื่อกำจัดศัตรูพืชและยังมีการตรวจพบการตกค้างของสารเคมีอยู่ในพืชผักอยู่เสมอ โดยเฉพาะผักสด 10 ชนิดที่จำหน่ายในท้องตลาดที่พบว่ามีการตกค้างของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในปริมาณที่สูงได้แก่ 1.กวางตุ้ง 2.คะน้า 3.ถั่วฝักยาว 4.พริก 5.แตงกวา 6.กะหล่ำปลี 7.ผักกาดขาวปลี 8.ผักบุ้งจีน 9.มะเขือ 10.ผักชี อีกทั้งยังมีการตรวจพบการปนเปื้อนของเชื้ออีโคไลและเชื้อซาลโมเนลลา ซึ่งเป็นเชื้อก่อโรคอาหารเป็นพิษในผักที่นิยมรับประทานเป็นผักแกล้มแบบสดๆเช่น ผักกาดหอม ต้นหอม ผักชี กะหล่ำปลี ผักชีฝรั่ง โหระพา สะระแหน่ ใบบัวบก ถั่วพู แตงกวา ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ในการเพาะปลูก โดยเชื้อเหล่านี้จะอาศัยอยู่ในลำไส้ของสัตว์และถูกขับถ่ายออกมากับมูลของสัตว์ เมื่อนำปุ๋ยจากมูลสัตว์มาใช้ในการเกษตรเชื้อโรคนี้ก็อาจปนเปื้อนในผลผลิตได้ ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า เพื่อกระตุ้นเตือนให้ผู้บริโภคคำนึงถึงความปลอดภัยในการกินผัก เทศกาลกินเจปีนี้ จึงรณรงค์ภายใต้แนวคิด \\กินผัก อย่างไรปลอดภัยปลอดโรค โดยก่อนกินหรือนำผักมาปรุงอาหาร ต้องล้างให้สะอาดทุกครั้ง เพื่อป้องกันสารเคมีตกค้างหรือการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค ให้ล้างผ่านน้ำก๊อกที่ไหลนาน 2 นาที หรือแช่ในน้ำผสมเกลือ หรือน้ำผสมน้ำส้มสายชู ทิ้งไว้นาน 10-15 นาที หรือแช่ในน้ำผสมโซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 1 กะละมัง หรือน้ำประมาณ 4 ลิตร จากนั้นนำผักมาล้างน้ำสะอาดอีก 2-3 ครั้ง สำหรับผักบางชนิด เช่น คะน้า กะหล่ำ ถั่วฝักยาว หากมีคราบขาวจับที่กาบใบหรือฝักมากเกินไปล้างน้ำหลายๆครั้ง และคลี่ใบถูหรือล้างด้วยการเปิดน้ำไหลผ่านอย่างน้อย 2 นาที \\ทั้งนี้ ต้องขอบคุณและชื่นชมตลาดยิ่งเจริญเป็นอย่างมาก ที่ขานรับนโยบายความปลอดภัยด้านอาหารของกรมอนามัย โดยการจัดให้มี\\เครื่องล้างผักปลอดสารพิษสำหรับให้บริการแก่ลูกค้าในการนำผักมาล้างได้ฟรี นับเป็นตลาดสดมาตรฐานแห่งแรกที่ให้ความสำคัญและใส่ใจในสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภคอย่างแท้จริง และยังเป็นการกระตุ้นเตือนให้ผู้บริโภคใส่ใจการล้างผักทุกครั้งก่อนที่จะนำไปกินหรือปรุงอาหาร จึงขอยกให้\\เครื่องล้างผักปลอดสารพิษนี้เป็นยิ่งเจริญโมเดล นวัตกรรมต้นแบบเพื่อการส่งเสริมสุขภาพของคนไทย นับเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ตลาดสดอื่นๆที่จะนำต้นแบบนี้ไปใช้ โดยทางกรมอนามัยยินดีที่จะเป็นหน่วยงานกลางในการประสานถ่ายทอดองค์ความรู้หรือติดต่อข้อมูลให้ดร.นพ.พรเทพกล่าว ด้านนายปริญญา ธรรมวัฒนะกรรมการผู้จัดการตลาดยิ่งเจริญและนายกสมาคมตลาดสดไทย กล่าวว่าในฐานะผู้ประกอบการตลาดสดมาตรฐานรายใหญ่ที่มีการจำหน่ายผักสดเป็นจำนวนมาก การจัดให้มี\\เครื่องล้างผักปลอดสารพิษนอกจากจะช่วยสนับสนุนการดำเนินงานตามมาตรฐานตลาดสดน่าซื้อของกรมอนามัยแล้ว ยังเป็นการขานรับนโยบายความปลอดภัยด้านอาหารด้วย โดยเฉพาะความปลอดภัยในการกินผักของผู้บริโภคที่เน้นให้มีการล้างผักให้สะอาดทุกครั้งก่อนกินหรือปรุงอาหาร ซึ่งทางตลาดได้จัดเครื่องล้างผักปลอดสารพิษไว้ทั้งหมด 2 เครื่อง สำหรับบริการลูกค้าโดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้า จนถึงประมาณ 6 โมงเย็น ตัวเครื่องจะผลิตด้วยวัสดุสแตนเลส อย่างดี ส่วนประกอบใน 1 เครื่องจะแบ่งออกเป็น 3 ถัง ถังที่1จะเป็นถังน้ำเกลือซึ่งจะเป็นน้ำวนมีขนาดบรรจุประมาณ 10 ลิตรสำหรับแช่ล้างผัก ถังที่2จะเป็นถังน้ำธรรมดามีขนาดบรรจุประมาณ 10 ลิตรสำหรับล้างน้ำเกลืออกจากผักซึ่งจะเป็นน้ำวนเช่นกัน ส่วนถังที่ 3 จะเป็นตระแกรงสำหรับวางผักให้สะเด็ดน้ำ โดยราคาต้นทุนในการผลิตจะอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาทต่อ 1 เครื่อง \\เครื่องล้างผักปลอดสารพิษนี้ จึงถือเป็นด่านแรกที่จะช่วยล้างสารพิษตกค้างหรือการปนเปื้อนของเชื้อโรคได้ นอกจากจะเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค ช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายต่างๆแล้ว ยังเป็นการคืนกำไรให้แก่ผู้บริโภคด้วย หากผู้ประกอบการตลาดสดรายไหนสนใจที่จะผลิตเครื่องนี้ไว้บริการแก่ลูกค้าบ้าง ทางตลาดก็ยินดีที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หรือจะประสานผ่านมาทางกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุขก็ได้เช่นกันกรรมการผู้จัดการตลาดยิ่งเจริญ กล่าวปิดท้าย ***สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง / 23 กันยายน 2557