คุณกำลังมองหาอะไร?

ข่า

ข่าวแจก "กรมอนามัย ชวนหญิงไทยเลิกอาย ตรวจ VIA ป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก "

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

04.09.2557
40
0
แชร์
04
กันยายน
2557

ข่าวแจก "กรมอนามัย ชวนหญิงไทยเลิกอาย ตรวจ VIA ป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก "

        กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยสถิติผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกในประเทศไทยประมาณ 4,500 รายต่อปี และพบผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 8,000 คนต่อปี สาเหตุที่สตรีไทยไปตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกน้อย ส่วนใหญ่เกิดจากความอาย กรมอนามัยชวนหญิงไทยตรวจคัดกรองด้วยวิธี VIA รู้ผลทันที หากตรวจพบในระยะแรกสามารถรักษาได้ทันทีเช่นกัน ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า โรคมะเร็งปากมดลูกพบมากเป็นอันดับ 2 ในสตรีไทยและทั่ว
        ลก ซึ่งในประเทศไทย มีผู้เสียชีวิตประมาณ 4,500 รายต่อปี และพบผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 8,000 คนต่อปี สาเหตุโรคมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่เกิดจากความอาย จึงไม่กล้าเข้ารับการตรวจคัดกรอง ซึ่งความจริงแล้วหากตรวจพบในระยะแรกสามารถรักษาได้ทันที แต่ทางที่ดีที่สุดคือ การเข้ารับการตรวจคัดกรองเพื่อป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก เมื่อมีเพศสัมพันธ์ แล้ว หรือเมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป วิธีการคัดกรองของกระทรวงสาธารณสุข มี 2 วิธีคือ 1) Pap smear เป็นวิธีที่ใช้กันมากที่สุด เพราะใช้เวลา 2 - 5 นาที และรู้ผลภายใน 2 ? 4 สัปดาห์ 2) VIA เป็นวิธีที่ง่าย ค่าใช้จ่ายต่ำ รู้ผลทันที และกำลังเป็นที่นิยมโดยการใช้น้ำส้มสายชูชนิดเจือจางป้ายที่บริเวณปากมดลูก ทิ้งไว้ 1นาที น้ำส้มสายชูจะไปทำปฏิกิริยากับเนื้อเยื่อที่ผิดปกติของปากมดลูกให้เห็นเป็นฝ้าขาว ซึ่งสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าและรักษาได้ทันทีด้วยการจี้เย็น (Cryotherapy)
        ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมากรมอนามัยดำเนินการเพื่อป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกโดยเพิ่มความครอบคลุมของการคัดกรอง เพื่อค้นหาสตรีที่ปากมดลูกมีความผิดปกติตั้งแต่ระยะเริ่มแรกหรือระยะก่อนเป็นมะเร็ง เพื่อเข้ารับการรักษาทันที จะได้ผลคุ้มค่ากว่าการรักษาเมื่อเป็นมะเร็ง โดยความร่วมมือกับราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และองค์การ JHPIEGO นำการตรวจคัดกรองด้วยวิธี VIA มาใช้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกสำหรับ สตรีไทย หรือการคัดกรองแบบผสมผสานคือ การตรวจคัดกรองด้วยวิธี VIA ทุก 5 ปี สำหรับสตรีอายุ 30 - 45 ปี ร่วมกับการคัดกรองวิธี Pap smear ทุก 5 ปี สำหรับสตรีอายุ 46 - 60 ปี ซึ่งเป็นวิธีที่คุ้มค่ามากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับ การคัดกรองด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งเพียงอย่างเดียว และมีความคุ้มค่ามากกว่าการฉีดวัคซีน HPV ซึ่งยังมีราคาแพง
        ปัจจุบันมีสตรีไทยเข้ารับบริการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี VIA แล้วกว่า 600,000 ราย กรมอนามัยจึงขยายการดำเนินงานไปยังจังหวัดต่าง ๆ ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด หนองคาย อำนาจเจริญ ยโสธร มุกดาหาร เชียงใหม่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก เพชรบูรณ์ แม่ฮ่องสอน ลพบุรี สระแก้ว สระบุรี สมุทรปราการ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ ตรัง สตูล ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา ภายใต้ความร่วมมือของศูนย์อนามัยเขต 12 แห่ง ต่อไป? อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
 
***
 สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง/ 4 กันยายน 2557
 
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยสถิติผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกในประเทศไทยประมาณ 4,500 รายต่อปี และพบผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 8,000 คนต่อปี สาเหตุที่สตรีไทยไปตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกน้อย ส่วนใหญ่เกิดจากความอาย กรมอนามัยชวนหญิงไทยตรวจคัดกรองด้วยวิธี VIA รู้ผลทันที หากตรวจพบในระยะแรกสามารถรักษาได้ทันทีเช่นกัน ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า โรคมะเร็งปากมดลูกพบมากเป็นอันดับ 2 ในสตรีไทยและทั่ว ลก ซึ่งในประเทศไทย มีผู้เสียชีวิตประมาณ 4,500 รายต่อปี และพบผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 8,000 คนต่อปี สาเหตุโรคมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่เกิดจากความอาย จึงไม่กล้าเข้ารับการตรวจคัดกรอง ซึ่งความจริงแล้วหากตรวจพบในระยะแรกสามารถรักษาได้ทันที แต่ทางที่ดีที่สุดคือ การเข้ารับการตรวจคัดกรองเพื่อป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก เมื่อมีเพศสัมพันธ์ แล้ว หรือเมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป วิธีการคัดกรองของกระทรวงสาธารณสุข มี 2 วิธีคือ 1) Pap smear เป็นวิธีที่ใช้กันมากที่สุด เพราะใช้เวลา 2 - 5 นาที และรู้ผลภายใน 2 4 สัปดาห์ 2) VIA เป็นวิธีที่ง่าย ค่าใช้จ่ายต่ำ รู้ผลทันที และกำลังเป็นที่นิยมโดยการใช้น้ำส้มสายชูชนิดเจือจางป้ายที่บริเวณปากมดลูก ทิ้งไว้ 1นาที น้ำส้มสายชูจะไปทำปฏิกิริยากับเนื้อเยื่อที่ผิดปกติของปากมดลูกให้เห็นเป็นฝ้าขาว ซึ่งสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าและรักษาได้ทันทีด้วยการจี้เย็น (Cryotherapy) ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมากรมอนามัยดำเนินการเพื่อป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกโดยเพิ่มความครอบคลุมของการคัดกรอง เพื่อค้นหาสตรีที่ปากมดลูกมีความผิดปกติตั้งแต่ระยะเริ่มแรกหรือระยะก่อนเป็นมะเร็ง เพื่อเข้ารับการรักษาทันที จะได้ผลคุ้มค่ากว่าการรักษาเมื่อเป็นมะเร็ง โดยความร่วมมือกับราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และองค์การ JHPIEGO นำการตรวจคัดกรองด้วยวิธี VIA มาใช้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกสำหรับ สตรีไทย หรือการคัดกรองแบบผสมผสานคือ การตรวจคัดกรองด้วยวิธี VIA ทุก 5 ปี สำหรับสตรีอายุ 30 - 45 ปี ร่วมกับการคัดกรองวิธี Pap smear ทุก 5 ปี สำหรับสตรีอายุ 46 - 60 ปี ซึ่งเป็นวิธีที่คุ้มค่ามากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับ การคัดกรองด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งเพียงอย่างเดียว และมีความคุ้มค่ามากกว่าการฉีดวัคซีน HPV ซึ่งยังมีราคาแพง \\ปัจจุบันมีสตรีไทยเข้ารับบริการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี VIA แล้วกว่า 600,000 ราย กรมอนามัยจึงขยายการดำเนินงานไปยังจังหวัดต่าง ๆ ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด หนองคาย อำนาจเจริญ ยโสธร มุกดาหาร เชียงใหม่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก เพชรบูรณ์ แม่ฮ่องสอน ลพบุรี สระแก้ว สระบุรี สมุทรปราการ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ ตรัง สตูล ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา ภายใต้ความร่วมมือของศูนย์อนามัยเขต 12 แห่ง ต่อไป อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด *** สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง/ 4 กันยายน 2557

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน

ติดตามข่าวสารได้ที่

แทงบอลออนไลน์ || ดูบอลสด