คุณกำลังมองหาอะไร?

รมอนามัย จับมือศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา แม่ฟ้าหลวง (ศศช.) พัฒนาสุขภาพเด็กดอย

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

22.11.2561
4
0
แชร์
22
พฤศจิกายน
2561

กรมอนามัย จับมือศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา แม่ฟ้าหลวง (ศศช.) พัฒนาสุขภาพเด็กดอย

          กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา "แม่ฟ้าหลวง? (ศศช.) จัดสัมมนาสานพลังความร่วมมือในการพัฒนาสุขภาพเด็กและสุขาภิบาลสุขอนามัย เพื่อให้เด็กดอยมีสุขภาพที่ดี
          วันนี้ (22 พฤศจิกายน 2561) นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาสานพลังความร่วมมือในการพัฒนาสุขภาพเด็กและสุขาภิบาลสุขอนามัย ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ชาวไทยภูเขา "แม่ฟ้าหลวง? (ศศช.) "Open House @ เด็กดอยสุขภาพดี? ณ ห้องประชุมยูคาลิป ศูนย์อนามัย กลุ่มชาติพันธุ์ ชายขอบ และแรงงานข้ามชาติ จังหวัดลำปาง ว่า สถานการณ์สุขภาพเด็กและเยาวชนในพื้นที่ ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา "แม่ฟ้าหลวง? (ศศช.) ตั้งแต่ปี 2558 ยังคงพบปัญหาสุขภาพอย่างต่อเนื่อง อาทิ หญิงคลอดบุตรอายุเฉลี่ย 19 ปี ไม่ฝากครรภ์ ร้อยละ 27 คลอดที่บ้าน ร้อยละ 61 ไม่ได้ชั่งน้ำหนักเด็กแรกคลอด ร้อยละ 52 เด็กอายุ 0-5 ปี มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ ร้อยละ 25 พัฒนาการเด็กสมวัย ร้อยละ 48 ส่วนการจัดการด้านสุขาภิบาล พบว่า มีส้วมใช้ร้อยละ 51 และเลี้ยงสัตว์ใต้ถุนครัวเรือน ร้อยละ 84 จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องสร้างการมีส่วนร่วมกับภาคีเครือข่ายร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาเด็กและเยาวชนในพื้นที่ให้มีสิทธิและโอกาสแห่งความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกันและลดปัญหารอบด้าน เพื่อให้เด็กมีความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น
          "ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา กรมอนามัย โดยศูนย์อนามัยกลุ่มชาติพันธุ์ชายขอบ และแรงงานข้ามชาติ ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุข ภาคีเครือข่าย ท้องถิ่น ชุมชน ครัวเรือน ภาคประชาชน กศน.อำเภอและจังหวัดเป้าหมาย ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร (กพด.) ในพื้นที่เป้าหมาย ศศช. จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก และน่าน รวม 4 จังหวัด 281 แห่ง ดำเนินงานเสริมสร้างพลังชุมชนแบบมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพเด็ก ศศช. จังหวัดตากและเชียงใหม่ สำรวจสุขภาพเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารในพื้นที่ ศศช. พัฒนาส้วมสุขอนามัย ศศช. อำเภอแม่แจ่ม 10 แห่ง พัฒนารูปแบบการประเมินพัฒนาการเด็ก ศศช.อำเภออมก๋อย 20 แห่ง รวมถึงสนับสนุนการดำเนินงานโครงการพัฒนาราษฎรชาวไทยภูเขาในพื้นที่หมู่บ้านพัฒนาเพื่อความมั่นคงและหมู่บ้านยามชายแดน ซึ่งมีผลการดำเนินงานภาพรวม พบว่า ปี 2557 งานอนามัยแม่และเด็ก ฝากครรภ์ครบตามเกณฑ์เพียงร้อยละ 57 เด็กอายุ 0 ? 5 ปี สูงตามเกณฑ์เพียงร้อยละ 63 ไม่เคยได้รับการตรวจฟัน ร้อยละ 81 เด็กวัยเรียนอายุ 5?14 ปี เตี้ยมากกว่าร้อยละ 20 สูงตามเกณฑ์เฉลี่ยร้อยละ 37 วัยรุ่น อายุ 15-21 ปี ไม่ได้ป้องกันเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เฉลี่ยร้อยละ 25 อนามัยสิ่งแวดล้อมในครัวเรือน ไม่มีส้วม ร้อยละ 23 ใช้กับญาติ เพื่อนบ้าน ไปป่าทุ่ง กำจัดขยะไม่ถูกวิธี ร้อยละ 59 เผากลางแจ้ง ร้อยละ 31 แหล่งน้ำดื่มไม่สะอาด ร้อยละ 72 อีกทั้งวิธีชีวิตการดำรงชีพที่เปลี่ยนแปลงจากการเกษตรเพื่อยังชีพเป็นเกษตรเพื่อหารายได้ จึงมีการใช้สารเคมีทางการเกษตรเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน และอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในพื้นที่สูงและที่ราบระยะยาวต่อไป ดังนั้น การสัมมนาในครั้งนี้ จึงเป็นเวทีสานพลังเสริมสร้างความร่วมมือภาคีเครือข่ายในการส่งเสริมโภชนาการ สุขภาพอนามัยเด็ก และสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ ศศช.และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลงานเด่น แนวปฏิบัติที่ดีและนวัตกรรมด้านสุขภาพบนพื้นที่สูง ซึ่งเป็นต้นแบบและแนวทางการเรียนรู้สู่การประยุกต์ใช้ และการปฏิบัติขยายผลในพื้นที่เป้าหมายให้ครอบคลุมและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้นต่อไป? รองอธิบดี กรมอนามัย กล่าว
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา แม่ฟ้าหลวง (ศศช.) จัดสัมมนาสานพลังความร่วมมือในการพัฒนาสุขภาพเด็กและสุขาภิบาลสุขอนามัย เพื่อให้เด็กดอยมีสุขภาพที่ดี วันนี้ (22 พฤศจิกายน 2561) นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาสานพลังความร่วมมือในการพัฒนาสุขภาพเด็กและสุขาภิบาลสุขอนามัย ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ชาวไทยภูเขา แม่ฟ้าหลวง (ศศช.) Open House @ เด็กดอยสุขภาพดี ณ ห้องประชุมยูคาลิป ศูนย์อนามัย กลุ่มชาติพันธุ์ ชายขอบ และแรงงานข้ามชาติ จังหวัดลำปาง ว่า สถานการณ์สุขภาพเด็กและเยาวชนในพื้นที่ ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา แม่ฟ้าหลวง (ศศช.) ตั้งแต่ปี 2558 ยังคงพบปัญหาสุขภาพอย่างต่อเนื่อง อาทิ หญิงคลอดบุตรอายุเฉลี่ย 19 ปี ไม่ฝากครรภ์ ร้อยละ 27 คลอดที่บ้าน ร้อยละ 61 ไม่ได้ชั่งน้ำหนักเด็กแรกคลอด ร้อยละ 52 เด็กอายุ 0-5 ปี มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ ร้อยละ 25 พัฒนาการเด็กสมวัย ร้อยละ 48 ส่วนการจัดการด้านสุขาภิบาล พบว่า มีส้วมใช้ร้อยละ 51 และเลี้ยงสัตว์ใต้ถุนครัวเรือน ร้อยละ 84 จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องสร้างการมีส่วนร่วมกับภาคีเครือข่ายร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาเด็กและเยาวชนในพื้นที่ให้มีสิทธิและโอกาสแห่งความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกันและลดปัญหารอบด้าน เพื่อให้เด็กมีความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา กรมอนามัย โดยศูนย์อนามัยกลุ่มชาติพันธุ์ชายขอบ และแรงงานข้ามชาติ ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุข ภาคีเครือข่าย ท้องถิ่น ชุมชน ครัวเรือน ภาคประชาชน กศน.อำเภอและจังหวัดเป้าหมาย ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร (กพด.) ในพื้นที่เป้าหมาย ศศช. จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก และน่าน รวม 4 จังหวัด 281 แห่ง ดำเนินงานเสริมสร้างพลังชุมชนแบบมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพเด็ก ศศช. จังหวัดตากและเชียงใหม่ สำรวจสุขภาพเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารในพื้นที่ ศศช. พัฒนาส้วมสุขอนามัย ศศช. อำเภอแม่แจ่ม 10 แห่ง พัฒนารูปแบบการประเมินพัฒนาการเด็ก ศศช.อำเภออมก๋อย 20 แห่ง รวมถึงสนับสนุนการดำเนินงานโครงการพัฒนาราษฎรชาวไทยภูเขาในพื้นที่หมู่บ้านพัฒนาเพื่อความมั่นคงและหมู่บ้านยามชายแดน ซึ่งมีผลการดำเนินงานภาพรวม พบว่า ปี 2557 งานอนามัยแม่และเด็ก ฝากครรภ์ครบตามเกณฑ์เพียงร้อยละ 57 เด็กอายุ 0 5 ปี สูงตามเกณฑ์เพียงร้อยละ 63 ไม่เคยได้รับการตรวจฟัน ร้อยละ 81 เด็กวัยเรียนอายุ 514 ปี เตี้ยมากกว่าร้อยละ 20 สูงตามเกณฑ์เฉลี่ยร้อยละ 37 วัยรุ่น อายุ 15-21 ปี ไม่ได้ป้องกันเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เฉลี่ยร้อยละ 25 อนามัยสิ่งแวดล้อมในครัวเรือน ไม่มีส้วม ร้อยละ 23 ใช้กับญาติ เพื่อนบ้าน ไปป่าทุ่ง กำจัดขยะไม่ถูกวิธี ร้อยละ 59 เผากลางแจ้ง ร้อยละ 31 แหล่งน้ำดื่มไม่สะอาด ร้อยละ 72 อีกทั้งวิธีชีวิตการดำรงชีพที่เปลี่ยนแปลงจากการเกษตรเพื่อยังชีพเป็นเกษตรเพื่อหารายได้ จึงมีการใช้สารเคมีทางการเกษตรเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน และอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในพื้นที่สูงและที่ราบระยะยาวต่อไป ดังนั้น การสัมมนาในครั้งนี้ จึงเป็นเวทีสานพลังเสริมสร้างความร่วมมือภาคีเครือข่ายในการส่งเสริมโภชนาการ สุขภาพอนามัยเด็ก และสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ ศศช.และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลงานเด่น แนวปฏิบัติที่ดีและนวัตกรรมด้านสุขภาพบนพื้นที่สูง ซึ่งเป็นต้นแบบและแนวทางการเรียนรู้สู่การประยุกต์ใช้ และการปฏิบัติขยายผลในพื้นที่เป้าหมายให้ครอบคลุมและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้นต่อไป รองอธิบดี กรมอนามัย กล่าว

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน

ติดตามข่าวสารได้ที่

แทงบอลออนไลน์ || ดูบอลสด UFABET