คุณกำลังมองหาอะไร?

ข่า

ข่าวแจก กรมอนามัย ชี้ ระบุปริมาณฟลูออไรด์ในฉลากยาสีฟันสำหรับเด็ก ลดรับฟลูออไรด์เกิน

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

09.07.2557
0
0
แชร์
09
กรกฎาคม
2557

ข่าวแจก กรมอนามัย ชี้ ระบุปริมาณฟลูออไรด์ในฉลากยาสีฟันสำหรับเด็ก ลดรับฟลูออไรด์เกิน

        กรมอนามัยเผยผลสำรวจพบยาสีฟันผสมฟลูออไรด์สำหรับเด็กหลายยี่ห้อไม่ได้ระบุปริมาณฟลูออไรด์ไว้ที่ฉลาก อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอันตรายต่อเด็กได้ เพื่อคุ้มครองสุขภาพและลดโอกาสเกิดอันตรายต่อเด็ก จากการได้รับฟลูออไรด์เกิน ขณะนี้ได้เตรียมหารือกับทางอย.เพื่อพิจารณาให้มีการระบุปริมาณฟลูออไรด์ลงในฉลากยาสีฟันสำหรับเด็กแล้ว
        ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้เกิดการตื่นตัวในเรื่องการใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์กันในวงกว้าง เพื่อเป็นตัวช่วยเสริมให้ฟันแข็งแรงป้องกันฟันผุ เพราะการแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์เป็นการทำให้ฟลูออไรด์สัมผัสกับผิวฟันโดยตรง และเป็นวิธีที่ประชาชนสามารถดูแลตนเองได้โดยไม่ยุ่งยาก จากการศึกษาพบว่าการแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ที่ความเข้มข้น 1000 พีพีเอ็ม. จะสามารถป้องกันฟันผุได้มากถึงร้อยละ 30โดยที่ผ่านมากรมอนามัยโดยสำนักทันตสาธารณสุขได้ส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยมีการใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการป้องกันฟันผุโดยเฉพาะเด็กที่มีฟันผุหรือเกิดฟันผุได้ง่าย
        ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า ในประเทศไทยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ถูกจัดให้เป็นเครื่องสำอางที่ต้องอยู่ในการควบคุมตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง (พ.ศ. 2535) ซึ่งได้กำหนดปริมาณฟลูออไรด์ที่ผสมไว้ได้ไม่เกิน 0.11% หรือ 1,100 พีพีเอ็ม. ทั้งนี้เพื่อป้องกันอันตรายจากการได้รับฟลูออไรด์เกินโดยเฉพาะในเด็กที่อาจได้รับอันตรายจากการกลืนกินยาสีฟันในขณะการแปรงฟัน ซึ่งพบว่าในการแปรงฟันแต่ละครั้ง เด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี กลืนยาสีฟันถึงหนึ่งในสามของยาสีฟันที่อยู่บนแปรงสีฟัน โดยเด็กจะกลืนลงไปโดยไม่ตั้งใจ ทำให้ได้รับฟลูออไรด์มากเกินไป ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาฟันตกกระ?ในฟันแท้ของเด็กคนนั้นๆได้ (ฟันตกกระเป็นภาวะผิดปกติฟันแท้มีสีขาวขุ่น ในเด็กที่เป็นรุนแรงผิวฟันเป็นหลุมอาจมีสีดำหรือน้ำตาล) อีกประการหนึ่งคือยาสีฟันสำหรับเด็กมักแต่งกลิ่นเติมรสเพื่อให้เด็กชอบ อยากแปรงฟัน เช่นรสผลไม้ ส้ม สตรอเบอร์รี่ รสโคล่า รสบับเบิ้ลกัม เป็นต้น ทำให้เด็กบางคนกินยาสีฟันด้วย โดยเฉพาะเด็กวัยอนุบาล ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กได้รับฟลูออไรด์เกินได้
        ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อว่า การระบุปริมาณฟลูออไรด์บนฉลากยาสีฟันสำหรับเด็กจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งเพราะจะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถเลือกใช้ยาสีฟันสำหรับเด็กได้อย่างปลอดภัยและเหมาะสม แต่จากการเฝ้าระวังตรวจวัดปริมาณฟลูออไรด์ในยาสีฟันสำหรับเด็กที่วางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเมื่อปลายปี 2556 ที่ผ่านมาจากทั้งหมด10 ยี่ห้อ 37 รุ่น ผลการตรวจวัดพบว่า ยาสีฟันสำหรับเด็ก 34 รุ่นหรือร้อยละ 92 มีฟลูออไรด์เป็นส่วนผสม ในจำนวนนี้มีเพียง 13 รุ่นที่ระบุปริมาณฟลูออไรด์ไว้ที่ฉลากยาสีฟัน ส่วนอีก 21 รุ่นไม่ได้ระบุปริมาณฟลูออไรด์ให้ผู้บริโภคทราบ
        เหตุผลสำคัญที่ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์สำหรับเด็กบางยี่ห้อไม่ได้ระบุปริมาณฟลูออไรด์ลงในฉลากผลิตภัณฑ์ เนื่องจากประเทศไทยได้มีการปรับปรุง พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2535เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติเครื่องสำอาง      อาเซียน(ASEAN Cosmetic Directive : ACD) เนื่องจากได้ลงนามข้อตกลงร่วมกันกับประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียน    เมื่อปี พ.ศ.2546 ในการปรับกฎระเบียบให้สอดคล้องกัน โดยให้จัดทำฉลากเครื่องสำอางในลักษณะที่เป็นกลางและเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อป้องกันการกีดกันทางการค้าเมื่อไทยเข้าสู่อาเซียน และหลังจากที่มีการปรับปรุง พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2535 คณะกรรมการเครื่องสำอางซึ่งตั้งขึ้นตามพ.ร.บ.นี้ได้ออกประกาศ (พ.ศ.2554)ให้ระบุชื่อของสารทุกชนิดที่ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางโดยให้เรียงลำดับ ตามปริมาณของสารจากมากไปหาน้อยและคำเตือนเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อ อนามัยของบุคคล(ถ้ามี) แต่ไม่ได้ให้ระบุปริมาณของสารที่เป็นส่วนผสมเอาไว้ด้วย ประกาศดังกล่าวนี้จึงมีผลทำให้ยาสีฟันไม่จำเป็นต้องระบุปริมาณฟลูออไรด์ลงในฉลากผลิตภัณฑ์อีกต่อไป?อธิบดีกรมอนามัย กล่าว   
        อธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการคุ้มครองสุขภาพและลดโอกาสเกิดอันตรายที่เป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ในเด็ก และเพื่อประโยชน์สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองในการมีข้อมูลจากฉลากเป็นตัวช่วยใน การเลือกซื้อยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ได้เหมาะสมและปลอดภัยกับบุตรหลาน กรมอนามัยได้เตรียมหารือร่วมกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเพื่อ พิจารณาดำเนินการให้มีการระบุปริมาณฟลูออไรด์ในฉลากยาสีฟันสำหรับเด็กแล้ว    
         ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของเด็กขอแนะนำว่าพ่อแม่ควรเตรียมยาสีฟันใส่แปรงให้เด็กเพียงบางๆและดูแลการแปรงฟันให้ดีโดยควรบีบยาสีฟันให้และช่วยแปรงฟัน เพราะเด็กมักชอบกลืนยาสีฟัน การ ใช้ยาสีฟันผสมฟูลออไรด์ในเด็กเล็กจะต้องใช้ด้วยความระมัดระวังโดยเฉพาะช่วง ก่อนอายุ 3 ปี เป็นช่วงที่เสี่ยงต่อการเกิดฟันตกกระในฟันหน้ามากที่สุด ดังนั้นในเด็กเริ่มมีฟันน้ำนมขึ้นจนถึงอายุ 3 ปี ควรเลือกใช้ยาสีฟันผสมฟูลออไรด์ที่ปริมาณ500 พีพีเอ็มใช้ในปริมาณน้อยๆคือแตะพอชื้นบนแปรงสีฟัน ส่วนเด็กอายุ 3 ถึง 6 ปี ควรใช้ยาสีฟันในปริมาณเท่ากับเมล็ดถั่วเขียวหรือเมล็ดข้าวโพด สำหรับเด็กที่อายุมากกว่า 6 ปีสามารถใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ในปริมาณ 1000 พีพีเอ็มเพราะสามารถควบคุมการกลืนได้แล้ว? อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
 
***
สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง / 9 กรกฏาคม 2557
 
กรมอนามัยเผยผลสำรวจพบยาสีฟันผสมฟลูออไรด์สำหรับเด็กหลายยี่ห้อไม่ได้ระบุปริมาณฟลูออไรด์ไว้ที่ฉลาก อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอันตรายต่อเด็กได้ เพื่อคุ้มครองสุขภาพและลดโอกาสเกิดอันตรายต่อเด็ก จากการได้รับฟลูออไรด์เกิน ขณะนี้ได้เตรียมหารือกับทางอย.เพื่อพิจารณาให้มีการระบุปริมาณฟลูออไรด์ลงในฉลากยาสีฟันสำหรับเด็กแล้ว ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้เกิดการตื่นตัวในเรื่องการใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์กันในวงกว้าง เพื่อเป็นตัวช่วยเสริมให้ฟันแข็งแรงป้องกันฟันผุ เพราะการแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์เป็นการทำให้ฟลูออไรด์สัมผัสกับผิวฟันโดยตรง และเป็นวิธีที่ประชาชนสามารถดูแลตนเองได้โดยไม่ยุ่งยาก จากการศึกษาพบว่าการแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ที่ความเข้มข้น 1000 พีพีเอ็ม. จะสามารถป้องกันฟันผุได้มากถึงร้อยละ 30โดยที่ผ่านมากรมอนามัยโดยสำนักทันตสาธารณสุขได้ส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยมีการใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการป้องกันฟันผุโดยเฉพาะเด็กที่มีฟันผุหรือเกิดฟันผุได้ง่าย ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า ในประเทศไทยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ถูกจัดให้เป็นเครื่องสำอางที่ต้องอยู่ในการควบคุมตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง (พ.ศ. 2535) ซึ่งได้กำหนดปริมาณฟลูออไรด์ที่ผสมไว้ได้ไม่เกิน 0.11% หรือ 1,100 พีพีเอ็ม. ทั้งนี้เพื่อป้องกันอันตรายจากการได้รับฟลูออไรด์เกินโดยเฉพาะในเด็กที่อาจได้รับอันตรายจากการกลืนกินยาสีฟันในขณะการแปรงฟัน ซึ่งพบว่าในการแปรงฟันแต่ละครั้ง เด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี กลืนยาสีฟันถึงหนึ่งในสามของยาสีฟันที่อยู่บนแปรงสีฟัน โดยเด็กจะกลืนลงไปโดยไม่ตั้งใจ ทำให้ได้รับฟลูออไรด์มากเกินไป ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหา\\ฟันตกกระในฟันแท้ของเด็กคนนั้นๆได้ (ฟันตกกระเป็นภาวะผิดปกติฟันแท้มีสีขาวขุ่น ในเด็กที่เป็นรุนแรงผิวฟันเป็นหลุมอาจมีสีดำหรือน้ำตาล) อีกประการหนึ่งคือยาสีฟันสำหรับเด็กมักแต่งกลิ่นเติมรสเพื่อให้เด็กชอบ อยากแปรงฟัน เช่นรสผลไม้ ส้ม สตรอเบอร์รี่ รสโคล่า รสบับเบิ้ลกัม เป็นต้น ทำให้เด็กบางคนกินยาสีฟันด้วย โดยเฉพาะเด็กวัยอนุบาล ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กได้รับฟลูออไรด์เกินได้ ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อว่า การระบุปริมาณฟลูออไรด์บนฉลากยาสีฟันสำหรับเด็กจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งเพราะจะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถเลือกใช้ยาสีฟันสำหรับเด็กได้อย่างปลอดภัยและเหมาะสม แต่จากการเฝ้าระวังตรวจวัดปริมาณฟลูออไรด์ในยาสีฟันสำหรับเด็กที่วางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเมื่อปลายปี 2556 ที่ผ่านมาจากทั้งหมด10 ยี่ห้อ 37 รุ่น ผลการตรวจวัดพบว่า ยาสีฟันสำหรับเด็ก 34 รุ่นหรือร้อยละ 92 มีฟลูออไรด์เป็นส่วนผสม ในจำนวนนี้มีเพียง 13 รุ่นที่ระบุปริมาณฟลูออไรด์ไว้ที่ฉลากยาสีฟัน ส่วนอีก 21 รุ่นไม่ได้ระบุปริมาณฟลูออไรด์ให้ผู้บริโภคทราบ \\เหตุผลสำคัญที่ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์สำหรับเด็กบางยี่ห้อไม่ได้ระบุปริมาณฟลูออไรด์ลงในฉลากผลิตภัณฑ์ เนื่องจากประเทศไทยได้มีการปรับปรุง พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2535เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติเครื่องสำอาง อาเซียน(ASEAN Cosmetic Directive : ACD) เนื่องจากได้ลงนามข้อตกลงร่วมกันกับประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียน เมื่อปี พ.ศ.2546 ในการปรับกฎระเบียบให้สอดคล้องกัน โดยให้จัดทำฉลากเครื่องสำอางในลักษณะที่เป็นกลางและเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อป้องกันการกีดกันทางการค้าเมื่อไทยเข้าสู่อาเซียน และหลังจากที่มีการปรับปรุง พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2535 คณะกรรมการเครื่องสำอางซึ่งตั้งขึ้นตามพ.ร.บ.นี้ได้ออกประกาศ (พ.ศ.2554)ให้ระบุชื่อของสารทุกชนิดที่ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางโดยให้เรียงลำดับ ตามปริมาณของสารจากมากไปหาน้อยและคำเตือนเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อ อนามัยของบุคคล(ถ้ามี) แต่ไม่ได้ให้ระบุปริมาณของสารที่เป็นส่วนผสมเอาไว้ด้วย ประกาศดังกล่าวนี้จึงมีผลทำให้ยาสีฟันไม่จำเป็นต้องระบุปริมาณฟลูออไรด์ลงในฉลากผลิตภัณฑ์อีกต่อไปอธิบดีกรมอนามัย กล่าว อธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการคุ้มครองสุขภาพและลดโอกาสเกิดอันตรายที่เป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ในเด็ก และเพื่อประโยชน์สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองในการมีข้อมูลจากฉลากเป็นตัวช่วยใน การเลือกซื้อยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ได้เหมาะสมและปลอดภัยกับบุตรหลาน กรมอนามัยได้เตรียมหารือร่วมกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเพื่อ พิจารณาดำเนินการให้มีการระบุปริมาณฟลูออไรด์ในฉลากยาสีฟันสำหรับเด็กแล้ว \\ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของเด็กขอแนะนำว่าพ่อแม่ควรเตรียมยาสีฟันใส่แปรงให้เด็กเพียงบางๆและดูแลการแปรงฟันให้ดีโดยควรบีบยาสีฟันให้และช่วยแปรงฟัน เพราะเด็กมักชอบกลืนยาสีฟัน การ ใช้ยาสีฟันผสมฟูลออไรด์ในเด็กเล็กจะต้องใช้ด้วยความระมัดระวังโดยเฉพาะช่วง ก่อนอายุ 3 ปี เป็นช่วงที่เสี่ยงต่อการเกิดฟันตกกระในฟันหน้ามากที่สุด ดังนั้นในเด็กเริ่มมีฟันน้ำนมขึ้นจนถึงอายุ 3 ปี ควรเลือกใช้ยาสีฟันผสมฟูลออไรด์ที่ปริมาณ500 พีพีเอ็มใช้ในปริมาณน้อยๆคือแตะพอชื้นบนแปรงสีฟัน ส่วนเด็กอายุ 3 ถึง 6 ปี ควรใช้ยาสีฟันในปริมาณเท่ากับเมล็ดถั่วเขียวหรือเมล็ดข้าวโพด สำหรับเด็กที่อายุมากกว่า 6 ปีสามารถใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ในปริมาณ 1000 พีพีเอ็มเพราะสามารถควบคุมการกลืนได้แล้ว อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด *** สำนักสื่อสารและตอบโต้ความเสี่ยง / 9 กรกฏาคม 2557

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน